ศูนย์ข่าวศรีราชา -ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ชี้การสร้างความปั่นป่วนของกลุ่มคนเสื้อแดงในเมืองพัทยา ทั้งทุบรถนายกฯ และเตรียมป่วนการประชุมสุดยอดอาเซียน ย่อมทำให้การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาที่มีทิศทางกำลังฟื้นทรุดต่ำหนัก เผยช่วงสงกรานต์กลุ่มคนไทยที่เตรียมหันเที่ยวในไทยอาจปรับแผนไปต่างประเทศหนีความเบื่อหน่ายม็อบการเมือง ส่งผลความหวังที่จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพื่อหวังเงินจุนเจือลูกจ้างช่วงโลว์ซีซันหดหาย ขณะที่ ผอ.ททท.พัทยา ระบุปัญหาการเมืองกระทบท่องเที่ยวถึงไฮซีซัน
นางสาวอลิสา พันธุศักดิ์ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เผยถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในเมืองพัทยา รวมถึงการก่อเหตุทุบรถยนต์ของนายก รัฐมนตรีเมื่อครั้งเดินทางมาประชุม ครม.สัญจรเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา และการเตรียมป่วนการประชุมสุดยอดอาเซียนระหว่างวันที่ 9-12 เมษายนว่า นอกจากจะซ้ำเติมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาที่กำลังจะฟื้นตัวแล้ว ยังถือเป็นการซ้ำเติม เศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่ไม่เพียงแต่จะได้รับผลกระทบจากสภาพการเมืองเท่านั้น แต่ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่มีผลให้การเดินทางเข้าพักของกลุ่มคนต่างชาติลดน้อยลงเรื่อยๆ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการโรงแรมในเมืองพัทยา ต่างรอคอยและมีความหวังว่า การท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในแต่ละปีจะมีกลุ่มคนไทยเดินทางเข้ามาในเมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก และจะทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพียงพอที่จะจ่ายเงินเดือนให้แก่พนักงานตลอดช่วงโลว์ซีซัน แต่ในปีนี้เมืองพัทยากลับเจอเรื่องชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งอาจทำให้กลุ่มคนไทยที่เคยคิดว่าจะท่องเที่ยวในประเทศ หันไปท่องเที่ยวในต่างประเทศแทนเพราะเบื่อหน่ายการชุมนุมซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ก็เจอหนีมาต่างจังหวัดก็ยังต้องเจอ
“ธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศโดยเฉพาะพัทยา ต่างรอคอยเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีการเดินทางของคนไทยด้วยกัน แต่ปีนี้คนไทยด้วยกันเองกลับเป็นผู้ทำลายเศรษฐกิจในบ้านของตัวเอง ทั้งที่รัฐบาลก็พยายามนำการประชุมระดับโลกเข้ามาและพยายามกระจายเม็ดเงินไปยังภาคส่วนต่างๆ แต่คนไทยด้วยกันกลับไม่กลัวเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ อาจเป็นเพราะตอนนี้เดือนพฤษภาคมยังมาไม่ถึง ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นประเทศไทยจะต้องเจอปัญหาเศรษฐกิจอีกมาก”
นางสาวอลิสา ยังเผยอีกว่า ทางออกที่ดีที่สุดของสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ก็คือ การไกล่เกลี่ยเพื่อให้ปัญหายุติลง และวิงวอนให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ควรนำปัญหาของคน คนเดียวมาสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในประเทศและขอให้ทุกฝ่ายหันมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่กำลังจะทำให้ทุกคนได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
ขณะที่นายนิติ คงกรุต ผู้อำนวย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคกลาง เขต 3 (พัทยา) เผยถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีจนถึงขั้นปิดทางเข้าออกโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี และรอป่วนการประชุมสุดยอดอาเซียนและประเทศคู่เจรจาว่า แม้จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมประชุมของกลุ่มผู้นำอาเซียน และจากข้อมูลล่าสุดระบุว่าผู้นำจากประเทศต่างๆ ได้ยืนยันการเข้าร่วมประชุมหมดแล้ว เหลือเพียงเช็คเที่ยวบินที่จะเดินทางถึงประเทศไทยเท่านั้นซึ่งหลายผู้นำน่าจะเลือกบินตรงมา ยังสนามบินอู่ตะเภา จังหวัดระยอง ที่มีความปลอดภัยสูงและเป็นพื้นที่ที่กลุ่มเสื้อแดงจะไม่สามารถเข้าไปชุมนุม หรือปิดล้อมได้
“ภาพการประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงในเมืองพัทยา จะไม่กระทบต่อการประชุมสุดยอดอาเซียน รวมถึงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของกลุ่มคนไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะนักท่องเที่ยวจะเข้ามาพัทยาหลังวันที่ 12 เมษายน ไปจนถึงหลังเทศกาลสงกรานต์ ถึงวันนั้นการประชุมก็จบไปแล้วและคิดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงก็คงเลิกชุมนุม แต่ถ้ายังไม่เลิกเราก็คงไปห้ามเขาไม่ได้ เพราะเวลานี้มันไม่มีใครฟังใครแล้ว อย่างไรก็ดี แม้ว่าการปิดล้อมสถานที่ประชุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวในส่วนตลาดคนไทย แต่ภาพที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกย่อมกระทบต่อการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในช่วงไฮซีซันที่กำลังจะถึงนี้อย่างแน่นอน”
นายนิติ ยังเผยอีกว่า ขณะนี้สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม รวมถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวในเมืองพัทยาเริ่มจัดแพกเกจท่องเที่ยวขายให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อให้เดินทางเข้ามาในช่วงไฮซีซันแล้ว แต่เมื่อมีข่าวการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเผยแพร่ออกไปก็คงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะหันไปท่องเที่ยวในประเทศอื่น ซึ่งเราก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในช่วงไฮซีซันที่จะถึงนี้ย่อมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างแน่นอน