ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง เขต 3 (พัทยา) ชี้ การปิดล้อมทางเข้าออกโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนพื้นที่ แต่เป็นคนต่างถิ่นจากจังหวัดจันทบุรี เพื่อกดดันรัฐบาลในการประชุม ครม.ที่เมืองพัทยา และรอป่วนการประชุมสุดยอดอาเซียนและประเทศคู่เจรจาที่จะมีขึ้นระหว่าง 9-12 เมษายนนี้ จะไม่ทำให้ผู้นำแต่ละประเทศยกเลิกการเข้าร่วมประชุม แต่ภาพการประท้วงที่ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกจะทำให้ภาวะการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในช่วงไฮซีซันที่กำลังจะถึงปีนี้ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
นายนิติ คงกรุต ผู้อำนวยผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง เขต 3 (พัทยา) เผยถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีจนถึงขั้นปิดทางเข้าออกโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีและรอป่วนการประชุมสุดยอดอาเซียนและประเทศคู่เจรจาที่จะมีขึ้นระหว่าง 9-12 เมษายนนี้ ว่า จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมประชุมของกลุ่มผู้นำอาเซียนและจากข้อมูลล่าสุดระบุว่าผู้นำจากประเทศต่างๆ ได้ยืนยันการเข้าร่วมประชุมหมดแล้ว เหลือเพียงเช็คเที่ยวบินที่จะเดินทางถึงประเทศไทยเท่านั้นซึ่งหลายผู้นำน่าจะเลือกบินตรงมา ยังสนามบินอู่ตะเภา จังหวัดระยองที่มีความปลอดภัยสูงและเป็นพื้นที่ที่กลุ่มเสื้อแดงจะไม่สามารถเข้าไปชุมนุม หรือปิดล้อมได้
“ภาพการประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงในเมืองพัทยาจะไม่กระทบต่อการประชุมสุดยอดอาเซียน รวมถึงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของกลุ่มคนไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะนักท่องเที่ยวจะเข้ามาพัทยาหลังวันที่ 12 ไปจนถึงหลังเทศกาลสงกรานต์ ถึงวันนั้นการประชุมก็จบไปแล้วและคิดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงก็คงเลิกชุมนุม แต่ถ้ายังไม่เลิกเราก็คงไปห้ามเข้าไปได้ เพราะเวลานี้มันไม่มีใครฟังใครแล้ว อย่างไรก็ดี แม้ว่าการปิดล้อมสถานที่ประชุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวในส่วนตลาดคนไทย แต่ภาพที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกย่อมกระทบต่อการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในช่วงไฮซีซันที่กำลังจะถึงนี้อย่างแน่นอน”
นายนิติ ยังเผยอีกว่า ขณะนี้สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม รวมถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวในเมืองพัทยาเริ่มจัดแพกเกจท่องเที่ยวขายให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อให้เดินทางเข้ามาในช่วงไฮซีซันแล้ว แต่เมื่อมีข่าวการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเผยแพร่ออกไปก็คงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไปได้ หากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะหันไปท่องเที่ยวในประเทศอื่น ซึ่งเราก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในช่วงไฮซีซันที่จะถึงนี้ย่อมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี มีรายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่เข้ามาปิดล้อมทางเข้า-ออกของโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนต่างถิ่นที่เดินทางมาจากจังหวัดจันทบุรี ส่วนคนเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดชลบุรีนั้นมีน้อยมากทำให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของจังหวัดชลบุรีมีความกังวลเป็นอย่างยิ่งว่าภาพลักษณ์ของจังหวัดจะได้รับความเสียหายจากการสร้างความวุ่นวายของคนต่างถิ่น
ที่ปรึกษา ส.โรงแรมไทย วอนเสื้อแดงยุติทำร้ายท่องเที่ยวพัทยา
นางสาวอลิสา พันธุศักดิ์ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เผยว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในเมืองพัทยา นอกจากจะซ้ำเติมการท่องเที่ยวที่กำลังจะฟื้นตัวแล้ว ยังถือเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ไม่เพียงแต่ได้รับผลกระทบจากสภาพการเมืองในประเทศเท่านั้น แต่ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่มีผลให้การเดินทางเข้าพักของกลุ่มคนต่างชาติลดน้อยลงเรื่อยๆ
ที่สำคัญ ผู้ประกอบการโรงแรมในเมืองพัทยา ต่างรอคอยและมีความหวังว่า การท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในแต่ละปีจะมีกลุ่มคนไทยเข้ามาในเมืองพัทยาเป็นจำนวนมากและจะทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพียงพอที่จะจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานตลอดช่วงโลว์ซีซัน แต่ในปีนี้เมืองพัทยากลับเจอเรื่องชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งอาจทำให้กลุ่มคนไทยที่เคยคิดว่าจะท่องเที่ยวในประเทศ หันไปท่องเที่ยวในต่างประเทศแทนเพราะเบื่อหน่ายการชุมนุมซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ก็เจอ หนีมาต่างจังหวัดก็ยังต้องเจอ
“ธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศโดยเฉพาะพัทยา ต่างรอคอยเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีการเดินทางของคนไทยด้วยกัน แต่ปีนี้คนไทยด้วยกันเองกลับเป็นผู้ทำลายเศรษฐกิจในบ้านของตัวเอง ทั้งที่รัฐบาลก็พยายามนำการประชุมระดับโลกเข้ามาและพยายามกระจายเม็ดเงินไปยังภาคส่วนต่างๆ แต่คนไทยด้วยกันกลับไม่กลัวเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ อาจเป็นเพราะตอนนี้เดือนพฤษภาคมยังมาไม่ถึงซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นประเทศไทยจะต้องเจอปัญหาเศรษฐกิจอีกมาก”
นางสาวอลิสา ยังเผยอีกว่า หนทางออกที่ดีที่สุดของสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ก็คือ การไกล่เกลี่ยเพื่อให้ปัญหายุติลง และวิงวอนให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ควรนำปัญหาของคนๆ เดียวมาสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในประเทศและขอให้ทุกฝ่ายหันมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังจะทำให้ทุกคนได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า