ลืมไปเลยรอยยิ้มเขินอายและการสงวนท่าที งานวิจัยล่าสุดชี้วิธีเอาชนะใจชายคือ การหลีกเลี่ยงที่จะทำให้หนุ่มเข้าใจเจตนารมณ์ของตัวเองผิด พูดง่ายๆ คือผู้ชายชอบผู้หญิงที่แสดงออกตรงไปตรงมา ไม่พูดจาอ้อมค้อมให้ต้องเสียเวลาถอดรหัส
ผลศึกษาของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบัคเนลล์ในเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ พบว่าประโยคง่ายๆ อย่าง ‘ดินเนอร์กันไหม?’ หรือ ‘เอาเบอร์ฉันไหม?’ ช่วยขจัดโอกาสในการสร้างความสับสน และในทางกลับกันเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
งานวิจัยยังพบว่า ผู้ชาย ‘อ่าน’ สัญญาณที่ผู้หญิงส่งให้ไม่เก่ง แม้สัญญาณดังกล่าวจะมาพร้อมท่าทีเชิญชวนอย่างเปิดเผยก็ตาม
ในการศึกษานี้ นักวิจัยขอให้อาสาสมัครหญิงกลุ่มหนึ่งเขียนประโยคฮิตติดปากของตัวเอง จากนั้นจึงคัดประโยคที่พบว่าใช้กันมากที่สุด 50 ประโยค และขอให้อาสาสมัครชาย-หญิงอีกกลุ่มจำนวน 70 คนให้คะแนนประโยคเหล่านั้น
ผลลัพธ์คือ อาสาสมัครชายชอบประโยคที่ตรงไปตรงมาชัดเจน เช่น การชวนดินเนอร์หรือดูหนังมากที่สุด รองลงมาคือการชวนแลกเบอร์โทรศัพท์ และการเชิญชวนทางอ้อม เช่น ‘คุณคิดว่าจะทำอะไรต่อ?’ และ ‘คืนนี้คุณจะทำอะไร?’
ส่วนอาสาสมัครหญิงชอบวิธีการที่ตรงไปตรงมาที่สุดเช่นกัน แต่ก็ประทับใจประโยคที่แอบสื่อนัยอย่างมีชั้นเชิงถึงความสนใจที่มีร่วมกัน
ในทางตรงข้าม ประโยคที่ดูเหมือนแฝงอารมณ์ขันอย่างเช่น ‘เสื้อคุณสีเข้ากับผ้าปูที่นอนผมเลย’ ได้คะแนนต่ำน่าใจหาย
รายงานที่อยู่ในวารสารเพอร์ซันนัลลิตี้ แอนด์ อินดิวิดวล ดิฟเฟอเรนซ์ กล่าวต่อไปว่าวิธีที่ได้คะแนนต่ำที่สุดคือ การยิ้มและคำพูดที่ไม่มีอะไรให้ค้นหาอีกต่อไป เช่น ‘คุ้นหน้าคุณจังเลย เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า?’
นักจิตวิทยา ดร.โจเอล เวด อธิบายว่า การระบุโดยตรงหรือโดยอ้อมถึงการเดทในอนาคต ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนสำหรับผู้ชาย ซึ่งใช้ได้ผลกว่าสัญญาณที่ไม่ใช่คำพูดที่หนุ่มต้องเก็บไปถอดรหัสวุ่นวาย
ดร.เวดสำทับว่า การเชิญชวนตรงไปตรงมาช่วยขจัดความไม่แน่นอนของผลลัพธ์ในการพูดคุย
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่ค้นหาความสัมพันธ์ระยะยาวอาจต้องคิดให้รอบคอบก่อนให้เบอร์โทรหนุ่มแปลกหน้า เนื่องจากอาจถูกมองว่าต้องการแค่สัมพันธ์หวือหวาชั่วครั้งชั่วคราวมากกว่า
ที่น่าแปลกใจคือ สำหรับหนุ่มที่อยากหาเพื่อนคุย หัวข้อสภาวะดินฟ้าอากาศดูจะเป็นเรื่องที่ถูกอกถูกใจมาก
ผลศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าประโยค เช่น ‘วันนี้ร้อนดีนะ เหมาะจะไปฝึกวิ่งมาราธอน’ เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ผู้ชายจะได้โชว์รอยหยักในสมองและความสามารถทางกีฬา ขณะที่ประโยคยอดแย่ในสายตาผู้ชายคือ ‘ผมสงสัยว่ากระเป๋าถือคุณพอมีที่ว่างสำหรับกุญแจรถเบนซ์ผมรึเปล่า?’
ผลศึกษาของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบัคเนลล์ในเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ พบว่าประโยคง่ายๆ อย่าง ‘ดินเนอร์กันไหม?’ หรือ ‘เอาเบอร์ฉันไหม?’ ช่วยขจัดโอกาสในการสร้างความสับสน และในทางกลับกันเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
งานวิจัยยังพบว่า ผู้ชาย ‘อ่าน’ สัญญาณที่ผู้หญิงส่งให้ไม่เก่ง แม้สัญญาณดังกล่าวจะมาพร้อมท่าทีเชิญชวนอย่างเปิดเผยก็ตาม
ในการศึกษานี้ นักวิจัยขอให้อาสาสมัครหญิงกลุ่มหนึ่งเขียนประโยคฮิตติดปากของตัวเอง จากนั้นจึงคัดประโยคที่พบว่าใช้กันมากที่สุด 50 ประโยค และขอให้อาสาสมัครชาย-หญิงอีกกลุ่มจำนวน 70 คนให้คะแนนประโยคเหล่านั้น
ผลลัพธ์คือ อาสาสมัครชายชอบประโยคที่ตรงไปตรงมาชัดเจน เช่น การชวนดินเนอร์หรือดูหนังมากที่สุด รองลงมาคือการชวนแลกเบอร์โทรศัพท์ และการเชิญชวนทางอ้อม เช่น ‘คุณคิดว่าจะทำอะไรต่อ?’ และ ‘คืนนี้คุณจะทำอะไร?’
ส่วนอาสาสมัครหญิงชอบวิธีการที่ตรงไปตรงมาที่สุดเช่นกัน แต่ก็ประทับใจประโยคที่แอบสื่อนัยอย่างมีชั้นเชิงถึงความสนใจที่มีร่วมกัน
ในทางตรงข้าม ประโยคที่ดูเหมือนแฝงอารมณ์ขันอย่างเช่น ‘เสื้อคุณสีเข้ากับผ้าปูที่นอนผมเลย’ ได้คะแนนต่ำน่าใจหาย
รายงานที่อยู่ในวารสารเพอร์ซันนัลลิตี้ แอนด์ อินดิวิดวล ดิฟเฟอเรนซ์ กล่าวต่อไปว่าวิธีที่ได้คะแนนต่ำที่สุดคือ การยิ้มและคำพูดที่ไม่มีอะไรให้ค้นหาอีกต่อไป เช่น ‘คุ้นหน้าคุณจังเลย เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า?’
นักจิตวิทยา ดร.โจเอล เวด อธิบายว่า การระบุโดยตรงหรือโดยอ้อมถึงการเดทในอนาคต ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนสำหรับผู้ชาย ซึ่งใช้ได้ผลกว่าสัญญาณที่ไม่ใช่คำพูดที่หนุ่มต้องเก็บไปถอดรหัสวุ่นวาย
ดร.เวดสำทับว่า การเชิญชวนตรงไปตรงมาช่วยขจัดความไม่แน่นอนของผลลัพธ์ในการพูดคุย
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่ค้นหาความสัมพันธ์ระยะยาวอาจต้องคิดให้รอบคอบก่อนให้เบอร์โทรหนุ่มแปลกหน้า เนื่องจากอาจถูกมองว่าต้องการแค่สัมพันธ์หวือหวาชั่วครั้งชั่วคราวมากกว่า
ที่น่าแปลกใจคือ สำหรับหนุ่มที่อยากหาเพื่อนคุย หัวข้อสภาวะดินฟ้าอากาศดูจะเป็นเรื่องที่ถูกอกถูกใจมาก
ผลศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าประโยค เช่น ‘วันนี้ร้อนดีนะ เหมาะจะไปฝึกวิ่งมาราธอน’ เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ผู้ชายจะได้โชว์รอยหยักในสมองและความสามารถทางกีฬา ขณะที่ประโยคยอดแย่ในสายตาผู้ชายคือ ‘ผมสงสัยว่ากระเป๋าถือคุณพอมีที่ว่างสำหรับกุญแจรถเบนซ์ผมรึเปล่า?’
