ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ มท.1” พร้อม “มท.2” กลุ่มเพื่อนเนวินและคณะ ลุยพื้นที่โคราชติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวพร้อมแจกผ้าห่มราษฎร สั่งดูแลช่วยเหลือ ปชช.ผู้ประสบภัยหนาวอย่างเร่งด่วน เผยยังเหลืออีก 24 จังหวัดที่อยู่ระหว่างรออนุมัติงบฯซื้อผ้าห่ม สั่ง ผู้ว่าฯ –กรมชลประทาน เตรียมรับมือภัยแล้งที่จะมาถึง ย้ำบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอในฤดูแล้ง
วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลโชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา นายเชาวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) และ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน พร้อมด้วยคณะ เดินทางมาตรวจติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่จ.นครราชสีมา และมอบผ้าห่มให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่ อ.โชคชัย และ อ.หนองบุญมาก รวมจำนวน 4,500 ผืน
นายเชาวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากภัยหนาวในพื้นที่ 47 จังหวัด ซึ่งหน่วยงานรัฐร่วมกับเอกชนให้การช่วยเหลือด้วยการแจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวไปแล้ว 917,528 แต่ยังไม่เพียงพอ เหลืออีก 39 จังหวัด ที่ยังรอการช่วยเหลืออยู่ ซึ่งขณะนี้ได้ขออนุมัติกระทรวงการคลัง ให้ขยายวงเงินงบฯฉุกเฉินเพื่อจัดหาผ้าห่มเพิ่มเติม ทางกระทรวงการคลังได้อนุมัติให้แล้ว 15 จังหวัดเป็นเงิน 265 ล้านบาท สามารถจัดหาผ่าห่มได้อีกกว่า 1 ล้านผืน ส่วนที่เหลืออีก 24 จังหวัด อยู่ระหว่างการรอนุมัติงบประมาณ
ทั้งนี้ได้สั่งกำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่มีฐานะยากจน สวนในจังหวัดที่ได้รับอนุมัติงบเพิ่มเติมให้ รีบดำเนินการจัดซื้อผ้าห่มแจกจ่ายให้แก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด และ ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวและเด็กเล็ก ซึ่งอาจเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้ พร้อมทั้งให้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ชนบทห่างไกล
อย่างไรก็ตามขณะนี้ปัญหาภัยหนาวในหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศที่หนาวไม่นานมากนัก แต่สำหรับผ้าห่มที่นำไปแจกให้ประชาชนนั้นไม่จำเป็นจะต้องใช้เฉพาะในช่วงที่อากาศหนาวเท่านั้น สามารถปรับไปใช้เป็นผ้าปูที่นอนได้
ทั้งนี้เมื่อหากผ่านภัยหนาวไปแล้ว คาดว่า สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้จะรุนแรงมากขึ้น ได้สั่งกำชับให้ทางกรมชลประทาน และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่งได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งที่จะมาถึง โดยเฉพาะเรื่องแหล่งน้ำ จะต้องเตรียมไว้ให้เพียงพอสำหรับประชาชนและดูแลโรคภัยไข้เจ็บที่จะมากับช่วงหน้าแล้งด้วย
“ขณะเดียวกันได้ให้ทางจังหวัดฯ จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2552 รวมทั้งจัดทำแผนแจกจ่ายน้ำให้กับหมู่บ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้วซ้ำซาก และระดมวัสดุ รถบรรทุกน้ำ เข้าให้การช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งโดยให้ใช้จ่ายเงินในอำนาจของผู้ว่าฯ 50 ล้านบาท” นายเชาวรัตน์ กล่าว
