xs
xsm
sm
md
lg

ไอศกรีมโยเกิร์ต ‘White Rabbit’ มิติใหม่บริการตัวเองสไตล์มะกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ‘White Rabbit’ ไอศกรีมโยเกิร์ตสัญชาติไทย แจ้งเกิดจากจุดขายเป็นไอศกรีมเพื่อสุขภาพ กินแล้วไม่อ้วน ควบคู่กับรูปแบบบริการแปลกใหม่สำหรับคนไทย โดยให้ลูกค้ากดไอศกรีมและเติมท็อปปิ้งด้วยตัวเอง จ่ายเงินคิดตามน้ำหนัก สร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์น้องใหม่รายนี้ มีจุดแกร่งพร้อมแข่งขันในสนามธุรกิจ

ผู้อยู่เบื้องหลังร้านไอศกรีมโยเกิร์ต White Rabbit คือ ภูมิ สาเกทอง ซึ่งประสบความสำเร็จจากการเปิดร้านอาหารไทย ‘Thai Chili’ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มากว่า 5 ปี ก่อนจะมาขยายธุรกิจร้านไอศกรีมในบ้านเกิดเมื่อไม่นานมานี้

“ไอเดียเริ่มมาจากผมอยากจะทำธุรกิจเสริมอีกสักอย่างในประเทศไทย จึงมองหาธุรกิจอาหารหวาน ในที่สุดลงตัวที่ไอศกรีมโยเกิร์ต เพราะเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ กินแล้วไม่อ้วน เชื่อว่า จะได้รับความนิยมและเติบโตได้ยั่งยืนกว่าเมนูอิงกระแสแฟชั่น” ภูมิ อธิบาย และเสริมต่อว่า

ส่วนตัวไม่ว่าจะทำธุรกิจใดก็ตาม ประการแรก ศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองในธุรกิจที่สนใจให้มากและลึกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งจากหนังสือและอินเตอร์เน็ต ข้อต่อมา พยายามพูดคุยและถามสอบจากผู้มีประสบการณ์หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ และสุดท้าย กล้าที่จะลงมือทำ

ทั้งนี้ จากที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ จนความคิดตกผลึกในการสร้างจุดขายให้แบรนด์ White Rabbit แบ่งเป็น ด้านตัวสินค้า เจาะจงต้องสะอาด ปลอดภัย และอร่อย โดยสูตรคิดค้นขึ้นเอง เน้นเป็นไอศกรีมโยเกิร์ตทำสด ซึ่งมีความหอมหวานและสดชื่นกว่าไอศกรีมทั่วไปในท้องตลาดที่มักทำจากผงแล้วนำไปแช่แข็ง

ส่วนด้านบริการ เป็นแบบ Self serve ประยุกต์รูปแบบมาจากประเทศสหรัฐ โดยให้ลูกค้ากดไอศกรีม และเติมท็อปปิ้งเอง จากนั้น นำไปชั่งน้ำหนักและจ่ายเงิน ในราคา 39 สตางค์ต่อกรัม โดยมีให้เลือก 2 รส ได้แก่ ต้นตำรับ และบลูเบอร์รี่ ส่วนท็อปปิ้งมีให้เลือกเกือบ 60 ชนิด เช่น สตรอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ พีช แอปริคอท กีวี สัปปะรด ส้มแมนดาริน ฯลฯ

“การบริการทั่วไปจะแบ่งเป็นเดินเสิร์ฟ กับบุฟเฟต์ ซึ่งเดินเสิร์ฟก็จะเหมือนกับร้านทั่วไป ส่วนการขายอาหารคุณภาพดีแบบบุฟเฟต์ในเมืองไทยยากมาก เพราะลักษณะการกินบุฟเฟต์ของคนไทยจะเน้นกินให้คุ้ม จนคนขายแทบขาดทุน ดังนั้น ผมเลือกจะสร้างจุดต่างให้ลูกค้าบริการตัวเองตามใจ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้ลูกค้า อีกทั้ง ชักชวนให้อยากเข้ามาทดลองชิมได้ง่ายกว่า ไม่ต้องกังวลว่าจะแพงเกินไป เพราะอาจมาลองกินเพียงนิดหน่อยก่อนก็ได้ ต่างกันร้านไอศกรีมอื่นๆ ที่คิดเป็นขั้นบันได เช่น 1 ลูก 40 บาท 2 ลูก 80 บาท แต่ของผม ลูกค้าเลือกปริมาณได้ตามความพอใจตัวเอง” เจ้าของธุรกิจ กล่าว

ทั้งนี้ ความยากของรูปแบบให้ลูกค้าบริการตัวเอง อยู่ที่งบริหารต้นทุนวัตถุดิบ ให้ไอศกรีม และท็อปปิ้ง ที่มีกว่า 60 ชนิด เฉลี่ยแล้วต้นทุนไม่เกิน 30% ของราคาขาย เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ภายในร้านไม่ว่าจะเป็นค่าพนักงาน ค่าเช่าสถานที่ ฯลฯ สามารถเหลือกำไรต่อหน่วยประมาณ 30% นอกจากนั้น จำเป็นต้องเน้นความสำคัญต่อการบริหารสต๊อก ให้สินค้ามีปริมาณเหมาะสม และสดใหม่สม่ำเสมอ

ภูมิ ยอมรับว่า ปัจจุบัน ธุรกิจไอศกรีมมีคู่แข่งจำนวนมาก โดยเฉพาะไอศกรีมโยเกิร์ตมีเจ้าตลาดอยู่แล้วด้วย ยากที่แบรนด์น้องใหม่จะประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ได้มองว่ารายใหญ่เป็นคู่แข่ง ตรงกันข้าม กลับยกย่องในฐานะผู้บุกเบิกตลาด ดังนั้น จึงวางเจ้าใหญ่เป็นมาตรฐานที่อยากจะก้าวตามไปให้ถึง

ขณะเดียวกันพยายามพัฒนาตัวเอง เพื่อไปปิดจุดอ่อนของรายอื่นๆ เช่น ราคาขายที่ถูกกว่าสินค้าประเภทเดียวกัน เกือบ 50% โดยเจ้าอื่นๆ ราคาขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ 70 สตางค์ต่อกรัม อีกทั้ง ด้วยรูปแบบการบริการที่แตกต่าง ช่วยเสริมให้ White Rabbit มีจุดเด่นเป็นของตัวเองชัดเจน

ทั้งนี้ ร้าน White Rabbit ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัล สาขาแจ้งวัฒนะ เริ่มเปิดบริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา ใช้เงินลงทุนเบื้องต้นล้านกว่าบาท ส่วนหนึ่งขอสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย โดยเงินลงทุนแบ่งเป็นค่าเครื่องทำไอศกรีมโยเกิร์ต นำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 8 แสนบาท ค่าตกแต่งและปรับปรุงร้านอีกกว่า 5 แสนบาท และนอกจากนั้นสำรองไว้เป็นทุนหมุนเวียนธุรกิจ โดยคาดกว่าธุรกิจจะคืนทุนภายใน 1 ปี

ด้านกลุ่มลูกค้าเป้าหมายวางไว้เบื้องต้นเป็นกลุ่มเด็กเล็กจนถึงวัยรุ่น แต่จากการแต่งร้านซึ่งลงมือเองทั้งหมด บรรยากาศออกมาสวยงาม สะอาด ดูเย็นสบายชวนนั่ง ช่วยให้ได้ลูกค้ากลุ่มผู้ใหญ่เพิ่มเติมด้วย และที่สำคัญนับจากเปิดร้านมา ลูกค้ามีอัตรากลับมากินซ้ำในระดับน่าพอใจ

อย่างไรก็ตาม เพื่อเสริมการตลาดให้ยิ่งน่าสนใจ ได้เพิ่มโปรโมชั่นต่างๆ สม่ำเสมอ เช่น นาทีทองแบบบุฟเฟต์ 18.00-20.00 น. กินเท่าไรก็ได้ ในราคา 149 บาทต่อคน คูปองสะสมยอดลดราคา และดิลิเวอรี่ ส่งเฉพาะคนทำงานในห้างเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เป็นต้น

แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจอยู่ในภาวะขาลง แต่สาเหตุที่กล้าลงทุนในช่วงนี้ ภูมิ ระบุว่า เชื่อในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ และหากเศรษฐกิจขาขึ้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเหลือพื้นที่ในห้างใหญ่ให้ผู้ประกอบการรายเล็กๆ เช่นเขา ได้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ ดังนั้น หากตัวเองพร้อมจริงๆ แล้ว ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร โอกาสประสบความสำเร็จย่อมมีเสมอ ซึ่งเป้าหมายระยะใกล้ พยายามจะสร้างแบรนด์ White Rabbit ให้เป็นที่จดจำมากที่สุด และเมื่อพร้อมอยากจะขยายสาขาเพิ่มต่อไป

โทร.08 9668 4357 หรือ www.whiterabbityogurt.com
กำลังโหลดความคิดเห็น