xs
xsm
sm
md
lg

เปิดตัว “ก๊ะดมแกงแพะ” กับภารกิจตั้งเวทีพันธมิตรฯที่สตูล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางอุดมศรี จันทรรัศมี ก๊ะดม แกนนำพันธมิตรฯสตูล
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เปิดใจ “ก๊ะดม” แกนนำพันธมิตรฯ หญิงแกร่งแห่งเมืองสตูล ผู้เคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กับ “แกงแพะ-ข้าวเหนียวเหลือง’” รสอร่อยจนเป็นที่ฮือฮาในหมู่ผองพี่น้องพันธมิตรฯ ทั่วปักษ์ใต้และในกรุงเทพฯ เผยร่วมหยัดยืนอยู่แถวหน้าต่อสู้กับระบอบทักษิณมาตั้งแต่เริ่ม โดยร่วมกับกลุ่มคนเล็กๆ จนแพร่ขยายวงกลายเป็นมวลชนขนาดใหญ่ ปัจจุบันกำลังมุ่งมั่นนำพันธมิตรฯ สตูลเชื่อมเครือข่ายกับ 16 จังหวัดภาคใต้ และคือแม่งานใหญ่ในการเปิดเวทีการเมืองภาคประชาชน เพื่อติดอาวุธทางปัญญาให้พี่น้องในพื้นที่ 9 เม.ย.นี้ ซึ่งจะมีแม่เหล็กอย่าง “พิภพ ธงไชย” และ “แฮมเมอร์” เต็มวงพร้อมด้วย 3 พิธีกรรายการสภาท่าพระอาทิตย์ “-สำราญ รอดเพชร-ประพันธ์ คูณมี-พิเชฐ พัฒนโชติ” รวมถึงดอกไม้เหล็กจากดงกรรมกร “เสน่ห์ หงส์ทอง” เข้าร่วม

ณ วันนี้ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสตูล” กำลังเป็นที่จับตาของเหล่าพี่น้องพันธมิตรฯ เพราะถึงแม้เริ่มต้นขึ้นมาเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ด้วยหัวใจสีเหลืองที่มีความเข้มแข็ง จนสามารถสร้างเครือข่ายเพิ่มมวลชนขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆ ขยายวงกว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พันธมิตรฯ สตูลได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหวการเมืองภาคประชาชนร่วมกับชาวเสื้อเหลืองจังหวัดอื่นๆ และพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศ ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือความรักและเทินทูน ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์

“ก่อนจะมาเป็นพันธมิตรฯ สตูล

“ก๊ะดม” หรือ นางอุมดมศรี จันทรรัศมี หญิงแกร่งผู้เป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสตูล เล่าถึงความเป็นมาของพันธมิตรฯ สตูลว่า ความจริงแล้วการเกิดขึ้นของพันธมิตรฯ สตูลก็คล้ายกับพันธมิตรฯ ในจังหวัดอื่นๆ กล่าวคือ เริ่มจากการติดตามข้อมูลข่าวสารบ้านเมือง โดยเฉพาะรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เมื่อมีการระดมพลชุมนุมครั้งแรกเลยมีชาวสตูลประมาณ 150 คนได้เดินทางไปร่วมกู้ชาติในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งถือว่าคนในพื้นที่มีความตื่นตัวสูงมาก

จากนั้นมีการระดมมวลชนอีกครั้งในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2549 ชาวสตูลก็ได้เหมารถบัสมา 3 คันเพื่อจะเดินทางไปร่วมชุมนุมที่สนามหลวงในกรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าครั้งนั้นมีอุปสรรคเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะ นายมานิต วัฒนเสน นั่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลในขณะนั้น (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น) ซึ่งเป็นสายเลือดชาวสตูลเช่นกัน พยายามกีดกันทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้พันธมิตรฯ สตูลเดินทางไปร่วมชุมนุม

การขัดขวางพลังประชาชนของผู้ว่าฯ สตูลคราวนั้น ถึงขนาดให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครฝ่ายปกครอง (อส.) โปรยตะปูเรือใบดักรถบัสไว้ตลอดทาง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความพยายามของพี่น้องชาวสตูลที่มีใจจะไปร่วมกู้ชาติหมดลงได้ ทุกคนร่วมใจกันพยายามทุกวิถีทางเช่นกันเพื่อจะไปให้ได้ ปรากฏว่ารถบัสทั้ง 3 คันก็สามารถนำทุกคนไปถึงกรุงเทพฯ ได้สำเร็จ และได้ร่วมกู้ชาติกับพี่น้องชาวไทยที่ท้องสนามหลวงสมที่ตั้งเป้าหมายไว้

“แรกเริ่มเดิมทีก๊ะกับชาวพันธมิตรฯ ในสตูลเรามีกันเพียงไม่กี่คน ร่วมติดตามข่าวสาร ดูรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ทางช่อง 9 ซึ่งดำเนินรายการโดย คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และคุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ ซึ่งตอนนั้นที่ดูก็ไม่มีใครรู้จักว่า คุณสนธิคือใคร มาจากไหน นำเรื่องราวต่างๆ มาคุยในรายการได้อย่างไร แต่ที่ทราบคือข้อมูลที่เขาเอามาให้ดีมากๆ จนเราต้องติดตาม และอีกอย่างที่นี่มีกลุ่มสตูลสันติธรรมคอยให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเมืองภาคประชาชนเพิ่มเติมอยู่ด้วย พวกเราชาวสตูลจึงได้เริ่มมาเป็นพันธมิตรฯ ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา”

นางอุดมศรีกล่าวว่า แต่ครั้นมีการชุมนุมเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2551 แกนนำที่เป็นตัวตั้งตัวตีหลักของกลุ่มสตูลสันติธรรมไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้ว ตนจึงต้องรับเป็นผู้สานต่อ รวบรวมคนเพื่อไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ไม่ว่าเขาจะไปชุมนุมกันที่ไหน หรือกี่ที่ ชาวสตูลเราก็ต้องไปร่วมทุกครั้งและทุกที่ ถึงแม้บางครั้งต้องทิ้งร้านไปนานๆ เพราะก๊ะเองก็มีร้านขายข้าวแกงอยู่ในตัวเมืองสตูล และลูกน้องอีกหลายชีวิตเราก็ต้องรับผิดชอบ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ต้องมาก่อน
นาง อุดมศรี จันทรรัศมี มีโอกาสได้ร่วมถ่ายรูปร่วมกับ 2 แกนนำพันธมิตรฯ ณ ลานประวัติศาสตร์สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่
 กินข้าวแกงร้านนี้มีส่วนร่วมกู้ชาติ

สำหรับอาชีพหลักของนางอุดมศรี อดีตคือข้าราชการที่มีความคิดตรงไปตรงมา ยอมหัก แต่ไม่ยอมงอ ทำให้ยากที่จะเจริญก้าวหน้าได้ จึงหันเหมาเปิดร้ายขายข้าวแกงเล็กๆ หน้าศาลากลางจังหวัดสตูลจนถึงวันนี้ มีลูกน้องช่วยงานหลายคน เพราะร้านข้าวแกง ก๊ะดมเปิดขายตลอดทั้งวัน ซึ่งก๊ะดมลงมือทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่เริ่มไปจ่ายตลาด จนถึงขั้นนตอนการทำอาหาร แถมก๊ะดมยังเป็นคนทำเครื่องแกงเอง ปรุงอาหารเองทุกอย่างด้วย

ทุกครั้งเมื่อได้รับสัญญาณว่าต้องไปทำหน้าที่ใช้หนี้แผ่นดิน โดยเริ่มตั้งแต่การต่อสู้กับระบอบทักษิณหนแรกในปี 2549 มาแล้ว ในการต่อสู้กับระบอบทักษิณหนสองที่เพิ่งผ่านไปก็เหมือนกัน ก๊ะดม ก็จะเตรียมเครื่องแกงไว้ให้ลูกน้องปรุงอาหารครั้งละประมาณ 10 วัน เพื่อไม่ให้ร้านต้องปิด เพราะก๊ะดมต้องรับผิดชอบลูกน้องอีกหลายชีวิตที่มาช่วยงานที่ร้าน

“ทุกครั้งที่ก๊ะเดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ก๊ะทำเครื่องแกงตุนไว้เลยครั้งละเยอะๆ เพื่อเก็บไว้ให้ลูกน้องในร้านได้ปรุงแกงขาย และจะบอกกับลูกค้าไว้ว่า หากไม่อร่อยเหมือนเดิมก็ต้องขออภัยด้วย เพราะฝากให้ลูกน้องดูร้าน ตัวเองต้องไปกู้ชาติก่อน ไปครั้งหนึ่งเป็นสิบๆ วัน กลับมาบางครั้งก็อายน้องๆ ในร้านมันนะ เพราะพอเงินหมด ก๊ะก็กลับมาเอาเงินที่ลูกน้องขายของได้ แล้วกลับขึ้นไปชุมนุมอีก เป็นแบบนี้อยู่จนกระทั่งหยุดการชุมนุม แต่ก๊ะก็โชคดีที่มีน้องๆ ที่ไว้ใจได้ ดูแลร้านให้ก๊ะเป็นอย่างดีเลย” นางอุดมศรีเล่าไปหัวเราะไป

แกงแพะ-ข้าวเหนียวเหลืองคือตราประทับ

ด้วยความเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงและเป็นไทยมุสลิม จากความคิดที่เมื่อมีงานบุญหรืองานสำคัญๆ ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมก็จะมีการล้มแพะ เพื่อนำมาปรุงเป็นอาหาร ความคิดนี้ได้ถูกนำมาสู่การเข้าร่วมกู้ชาติกับผองพี่น้องพันธมิตรฯ ด้วย เพราะการกู้ชาติก็คือการทำบุญนั่นเอง ดังนั้น ก๊ะดมจะไปร่วมกิจกรรมของพันธมิตรฯ ที่ไหนก็ต้องมีแกงแพะไปร่วมด้วยทุกครั้ง และไม่ใช่แกงแพะธรรมดาๆ แต่จะมีข้าวเหนียวเหลืองซึ่งถือเป็นอาหารมงคลควบคู่ไปด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจากจังหวัดสตูลไม่ค่อยจะมีกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองภาคประชาชน เมื่อก๊ะดมทราบข่าวว่าที่ไหนจัดกิจกรรม หรือมีเวทีการเมืองภาคประชาชนในเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก๊ะดมและเพื่อนๆ พันธมิตรฯ สตูลจะตระเวนไปร่วมกิจกรรมทุกที่ และทุกๆ ครั้งที่ไปร่วมกิจกรรมกับพันธมิตรฯ ในจังหวัดต่างๆ ของก๊ะดมต้องมีข้าวเหนียวเหลืองและแกงแพะไปด้วย หลายครั้งหลายคราอาจจะมีรายการอาหารเพิ่มเติมให้ด้วย เช่น ขนมจีน น้ำยาและขนมหวาน

ความที่แกงแพะและข้าวเหนียวเหลือง รวมถึงจะมีอาหารอื่นๆ เพิ่มเติมติดตามไปร่วมเวทีหรือการชุมนุมในที่ต่างๆ และที่สำคัญที่สุดเป็นการนำไปร่วมแบบที่เจ้าภาพหรือผู้ร่วมชุมนุมไม่ต้องควักกระเป๋าสักบาทเดียวด้วยนั้น สิ่งนี้จึงทำให้ได้รับฉายาว่า “ก๊ะดมแกงแพะ-ข้าวเหนียวเหลือง” ซึ่งเป็นเครื่องการันตีว่า หากเห็น ก๊ะดมไปร่วมกิจกรรมที่ไหนๆ ทุกคนก็รู้แล้วว่า ต้องได้กินข้าวเหนียวเหลืองกับแกงแพะแน่ๆ

นางอุดมศรีเล่าว่า เมื่อก่อนจังหวัดสตูลยังไม่มีศักยภาพพอที่จะจัดกิจกรรมหรือจัดเวทีการเมืองภาคประชาชนได้ เพราะฉะนั้นเมื่อในจังหวัดใกล้เคียงมีกิจกรรมก๊ะก็อยากไปร่วมด้วย เพราะจะได้สร้างความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับพี่น้องพันธมิตรฯ จังหวัดอื่นๆ ได้เพราะว่าเราในจังหวัดสตูลเราเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ จึงอยากกระชับความสัมพันธ์ไว้ และที่สำคัญทุกครั้งที่ไปร่วมกิจกรรม ก๊ะก็จะมีความรู้เกี่ยวกับการเมืองภาคประชาชนเพิ่มขึ้น และได้รู้ทิศทางติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย
เมื่อคราวประชุมเตรียมงานเวทีประชาชน .....ร่วมสร้างการเมืองใหม่ ซึ่งมีพันธมิตรฯสงขลาเป็นพี่เลี้ยงร่วมประชุม
“อีกอย่างพันธมิตรฯ สตูลเรายังไม่มีคณะทำงานที่เป็นกิจจะลักษณะ จะจัดกิจกรรมจะเคลื่อนไหวก็ลำบาก เราทำได้ดีที่สุดคือไปร่วมกับพี่น้องพันธมิตรฯ จังหวัดต่างๆ และจะช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่จะช่วยได้ ในส่วนนี้เราเต็มที่กันอยู่แล้ว จนกระทั่งได้เข้าร่วมประชุมกับพันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ก็ทำให้รู้สึกว่าพันธมิตรฯ สตูลมีบทบาทมากขึ้น และที่สำคัญเรามีโอกาสที่จะจัดเวทีการเมืองภาคประชาชนเป็นครั้งแรกด้วย” นางอุดมศรีกล่าว

ปลื้มตั้งเวทีการเมืองภาคประชาชนที่สตูลสำเร็จ

สำหรับพันธมิตรฯ สตูลจัดว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มพันธมิตรฯ โซนภาคใต้ตอนล่าง อันเป็นไปตามข้อตกลงการแบ่งกลุ่มของเครือข่ายพันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้ ในวันนี้มีโอกาสได้จัดเวทีการเมืองภาคประชาชนเป็นครั้งแรก ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 9 เมษายน นี้ ณ สนามบินสตูล โดยมีพันธมิตรฯ สงขลาเป็นพี่เลี้ยง รวมทั้งพี่น้องพันธมิตรฯ ภาคใต้ตอนล่างอีก 4 จังหวัดคือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาสและตรัง ก็จะยกทัพเข้าร่วมด้วยช่วยกันดันเวทีการเมืองภาคประชาชนครั้งนี้ให้บรรลุเป้าหมาย

ทั้งนี้ เวทีการเมืองภาคประชาชนของจังหวัดสตูลประเดิมเวทีครั้งแรกภายใต้ชื่อว่า เวที “ประชาชน...ร่วมสร้างการเมืองใหม่” โดยมีแม่เหล็กที่รับปากเข้าร่วมแล้ว ประกอบด้วย นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, นายสำราญ รอดเพชร, นายประพันธ์ คูณมี และนายพิเชฐ พัฒนโชติ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการทาง ASTV และ น.ส.เสน่ห์ หงส์ทอง ผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานกรรมกร ส่วนภาคความบันเทิงนั้นมีศิลปินชื่อก้องคือ วงแฮมเมอร์มาร่วมสร้างสีสันกับศิลปินในพื้นที่

โดยมีการจำหน่ายบัตรเข้าชมเพียง 100 บาท/คนเท่านั้น แต่มีจำนวนจำกัดเพียง 2,000 ใบ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์ประสานงาน จ.สตูล โทร.08-9737-3136 และ 08-7289-2866 โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะมอบให้แก่ ASTV เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนการเมืองภาคประชาชนในระดับมหภาค

นางอุดมศรีกล่าวในเรื่องนี้ว่า รู้สึกตื่นเต้นมากที่จังหวัดสตูลจะจัดเวทีการเมืองภาคประชาชนเป็นครั้งแรก หลังจากได้ไปร่วมกับต่างจังหวัดมาบ่อยๆ ทั้งนี้การจัดงานครั้งนี้ก็ได้มีคณะทำงานพันธมิตรฯ จากภาคใต้ตอนล่างมาช่วยแนะนำและช่วยเตรียมงาน ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกก็มั่นใจว่าเวทีประชาชนร่วมสร้างการเมืองใหม่ในครั้งนี้จะเป็นการรวมพลังพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ยิ่งใหญ่ของ จ.สตูล

“ที่สำคัญในการจัดกิจกรรมครั้งนี้พี่น้องจังหวัดสตูลจะได้ตื่นตัวมากขึ้น จะได้มีความรู้มากขึ้น เพราะยังมีอีกหลายคน หลายกลุ่มที่ยังไม่แน่ใจในตัวเองว่าจะไปทางไหนดี หรือพูดง่ายๆ ว่าจะเลือกใส่เสื้อสีอะไรดี แม้แต่ครูในจังหวัดสตูลบางคนยังไม่รู้จักคำว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เลยว่าคืออะไร เพราะฉะนั้นการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ การได้นำวิทยากรที่มากด้วยความสามารถมาให้ความรู้ให้แก่พี่น้องชาวสตูลนั้น จะได้ทำให้อีกหลายๆ คน ตัดสินใจซะทีว่าต่อไปนี้ตัวเองควรจะเดินไปทางไหน” นางอุดมศรีกล่าว

ความปลื้มที่จะได้ตั้งเวทีการเมืองภาคประชาชนของคนเสื้อเหลืองได้สำเร็จในครั้งนี้ แม้จะเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงชิงตัดหน้าเปิดเวทีที่ อ.ละงู จ.สตูลไปแล้วเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมาก็ตาม แต่พันธมิตรฯ สตูลก็เชื่อมั่นว่าจะมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการเข้าร่วมของมวลชนที่มีมากกว่ากันชนิดมืดฟ้ามัวดิน เนื่องจากเวทีเสื้อแดงครั้งนั้นมีคนถูกเกณฑ์เข้าร่วมเพียงแค่ประมาณ 200 คน

นางอุดมศรี กล่าวว่า ถึงแม้ในจังหวัด จ.สตูล จะมีกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เราก็ไม่ให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้ เพราะเป็นเพียงคนส่วนน้อย ซึ่งจริงๆ แล้วคนกลุ่มนี้เคยเป็นฐานเสียงให้แก่พรรคประชาธิปัตย์ และอยู่ฝ่ายพันธมิตรฯ เช่นกัน แต่มาแปรพรรคทีหลัง ก็เปรียบเหมือนกับพวกที่หาเศษกระดูกกินก็ปล่อยเขาไป และเป็นที่น่าเสียดายว่าคนพวกนี้เป็นพวกที่มีความรู้ แต่ขาดคุณธรรม มีสมองอย่างเดียว แต่แยกแยะไม่ออกว่าอันไหนดีอันไหนชั่ว เด็ก ป.4 ยังมีความคิดดีกว่าเสียอีก

“แม้ว่า จ.สตูลจะมีคนเสื้อแดงซึ่งมีความคิดเห็นที่แตกต่างกับพันธมิตรฯ อย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามการเปิดเวทีของพันธมิตรฯ ครั้งนี้ไม่น่ากังวล เพราะมวลชนเกิดจากการร่วมในอุดมการณ์เดียวกันที่หลอมรวมกันมาตั้งแต่การต่อสู้กับระบอบทักษิณ 1 ควบคู่กับการติดอาวุธทางปัญญา และมั่นใจว่าเวทีประชาชนสร้างการเมืองใหม่ในครั้งนี้ จะเป็นการรวมพลังที่ยิ่งใหญ่ของพี่น้องพันธมิตรฯ สตูล”

ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกของพันธมิตรฯ สตูล ในการจัดกิจกรรมการเมืองภาคประชาชน แต่ก็เชื่อว่า “เวทีประชาชน...สร้างการเมืองใหม่” ในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวหนึ่งสู่การเมืองใหม่ที่มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เป็นความสามัคคี การรวมพลังที่เหนียวแน่นของพันธมิตรฯ ทั่วภาคใต้อีกคราหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น