เอาเข้าจริง เมื่อถึงคราววิกฤติ ในยามสถานการณ์ไม่ปกติ สุดท้ายก็ต้องพึ่งพาผู้หลักผู้ใหญ่ มาเป็นเสาหลักค้ำยันการดำรงคงอยู่ของประเทศชาติบ้านเมือง
หลังจากปล่อยให้วิดีโอลิงก์ ของ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุกหนีคดี เป็นปีศาจที่ มาทั้งภาพ ทั้งเสียงคมชัด แลบลิ้นปลื้นตา หลอกหลอน ปลุกปั่นเผาบ้านผลาญเมืองกันสนุกสนาน
โดยที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ผู้กุมอำนาจรัฐอยู่ในมือได้แต่บอดบื้อใบ้ มือไม้แขนขาเหมือนจะหมดกำลัง ง่อยเปลี้ย ขวัญกระเจิง ร้องกระจองงอแง หวังแค่ “ผู้ใหญ่” มาอุ้มมาช่วย
ก็สมแล้วที่นักโทษแม้ว หยามน้ำหน้า ว่ารัฐบาล“เด็ก”
ถ้าแข็งขันให้มากกว่านี้ “ปีศาจ” ก็คงไม่ได้ใจ ออกอาละวาดหลอกหลอน ลุกลามบานปลาย และลามปามไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ พาดพิงกระทบกระเทือนไปถึงบุคคลอันเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนคนไทย
จนกระทั่ง“ผู้ใหญ่”ของบ้านเมือง นิ่งเฉยอยู่ไม่ไหว
ทั้งๆพรรคประชาธิปัตย์ ก็น่าจะรู้แล้ว การเดินเกมรุกของนักโทษชายหนีคดี ไม่ใช่แค่ต้องการปลดโซ่ตรวนคดีความ ทวงทรัพย์สมบัติที่ถูกยึด หรือหาทางกลับเข้าสู่อำนาจ
แต่ถึงขั้น“จ้องล้มสถาบันฯ”
อย่างที่ “บิ๊กเสือ” พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ที่ต้องออกมาเดินหน้าชน ยิงหมัด“ทิ่มตรง” เปิดประจานเป้าแฝงเร้น จุดหมายจริงๆ ของนช.ทักษิณ
เป็นเรื่องที่รัฐบาล ต้องออกแรง เพราะศึกครั้งนี้มีเดิมพันสูง ไม่ใช่แค่สถานะของรัฐบาลเพียงเท่านั้น แต่มันคือเดิมพันของคนทั้งชาติ ดังนั้นอย่าให้ประวัติศาสตร์ต้องบันทึก บ้านเมือง ย่อยยับอับปาง สมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์เลย
ยังไม่ช้า และยังไม่สาย ถ้าจะเริ่มต้นกันอย่างจริงจัง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คงคิดได้อ่านสถานการณ์ออก โดยสมรภูมิศึกจะพิสูจน์ยอดแม่ทัพ
อันดับแรกเลย ต้องสั่งการจี้ไชบรรดารัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ทุกฝ่ายจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสงครามข่าวสาร ที่ทักษิณ ยิงวิดีโอลิงก์ ถล่มเมือง สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรมต.คุมสื่อ ที่ถูกตำหนิแรงๆ ถึงเวลาต้องโชว์ฝีมือ
จะมัวเป็น “รมต.น้องเดียว” ฉลาด วัยเด็กอย่างเดียวไม่ได้ ต้องโต ก่อนที่จะไม่มีโอกาสโต?
มาแบบไหนก็ต้องสวนไปแบบนั้น ต้องจัดทัพเสริมข้อมูลเข้าสู่แอร์วอร์ โดยเฉพาะสื่อรัฐ ไม่ต้องยำเกรงกับข้อกล่าวหาเรื่อง“แทรกแซง” ในเรื่องการรักษาความมั่นคงประเทศ
หรือให้ดี ลองปรึกษา จอมขมังเวทย์บุรีรัมย์ ที่อัพเกรดในโลกยุคดิจิตอล หรือลองเสาะ “มือที่มองไม่เห็น” คณะผู้จัดทำเว็บไซต์ใหม่เอี่ยม www.herethaksin.com เพื่อปรึกษาหารือ หาแนวทางรบด้านสื่อดูก็ได้
โดยเฉพาะข้อมูลต่างๆ ที่รัฐมีอยู่เกี่ยวกับตัว ทักษิณ กระทำชำเราประเทศชาติบ้านเมือง ไว้อย่างไร อันตรายของระบอบทักษิณ เผด็จการรัฐสภาเป็นเช่นใด การทุจริตประพฤติมิชอบ คดีความ ทรัพย์ศฤงคาร ที่ได้มา เปรียบเทียบกับก่อนเป็นนายกฯ
พฤติกรรมพฤติการณ์อันตราย การจ้วงจาบหยาบช้า มีจิตใจมักใหญ่ใฝ่สูงไปถึงไหนต่อไหน หรือมีจิตใจ มุ่งเป้าหมายไปถึงสถาบันสำคัญของบ้านเมือง
อย่าปล่อยให้ เผด็จการทุนนิยม ได้โอกาส สอนประชาธิปไตยให้แก่ชาวบ้านแบบผิดๆ เข้าใจว่า “ทักษิณ” เท่ากับ “ประชาธิปไตย”
เมื่อดูจากข้อเสนอในการปลุกเร้าคนเสื้อแดงให้ลุกฮือล้มอำมาตยาธิปไตย ของทักษิณ ทั้งการดึงรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ ยุบสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ล้มเลิกองค์กรอิสระ ไขกุญแจ “คุก”คุมขังนักโทษการเมือง
“ทักษิณ”อ้าปากให้เห็น “ลิ้นไก่” ทำก็เพื่อตัวเอง เพราะถ้าทุกฝ่ายต้องยอมตามความ นั่นก็คือการ“กลับสู่ที่เดิม” กฎเกณฑ์กติกา ที่ ทักษิณ อาศัยช่องเข้ามาสร้างความมั่งคั่งทั้งอำนาจและทรัพย์สินเงินตรา
เหมือนสมัยช่วงการก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ที่มีการพูดกันว่า มีการคิดคำนวณการลงทุนการเมืองให้แนวร่วมรับฟังพิจารณา ไม่กี่พันล้านก็สามารถยึดครองประเทศได้
ไม่เท่านั้น หากต้องยุบองค์กร สถาบันต่างๆ ยกเลิกโทษคดียุบพรรค ตามเงื่อนไขของนักโทษชายรายนี้ทั้งหมด ก็หมายความว่า ยกประเทศทั้งประเทศให้ “ทักษิณ”ไปเลย
อีกหัวเรี่ยวหัวแรงหลักอีกรายที่ต้องกระตุ้น “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ การเล่นบทถอย พร้อมเจรจา ก็รู้อยู่แล้ว นช.ทักษิณ มองประชาธิปัตย์ เป็นแค่เบี้ย การเจรจาจึงไม่ใช่จะใช้ได้ในตอนนี้
ที่อ้อมๆแอ้มๆ ยื่นไมตรี ก็เริ่มพูดและสงสัยกันแล้วว่า “เทพเทือก” แหยทำไมหนักหนากับนักโทษชาย หรือมีอะไรให้ต้องกลัว “หลุด” จากปาก“เพื่อนเก่า” !!?
และที่ต้องกระตุกเตือนกันอย่างแรงๆ บรรดาขุนทหาร แม่ทัพนายกอง รวมทั้ง รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คุมเหล่าทัพที่มีภารกิจรักษาความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และราชบัลลังก์ พึงสังวรในภารกิจหน้าที่รับผิดชอบ
โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร และน้องๆ “บูรพาพยัคฆ์” ทหารเสือราชินี ร.21 รอ. ที่ขึ้นตรงกับ พล.ร.2 รอ. กำลังผงาดในกองทัพบก ทั้งพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ. พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่1
อย่ามัวแต่เคลิ้มกับคำทำนายหมอดู จนไม่แอกทีฟ หากยังมองว่า “เรื่องของใครของมัน” ก็ให้ระวัง สุดท้ายมีสิทธิที่จะพังยกเข่ง!
เพราะหากจับสัญญาณ จากเวทีเสื้อแดง ก็รู้เขารู้เรา “ทหารเสือ” ที่แผ่สยายปีกผงาดอยู่ในกองทัพบก นั่นก็ย่อมปิดกั้นอีกสายหนึ่ง โดยเฉพาะนายทหาร “วงศ์เทวัญ” ที่เติบโตจาก พล.1.รอ.
เรื่องนี้ คนของทักษิณ ก็มียุทธวิธีเจาะ บ่อนเซาะ ขยายถ่างความขัดแย้ง
ชื่อของ พล.ท.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เริ่มถูกพูดถึงบ่อยครั้ง ทั้งในกลุ่มคนระบอบทักษิณ และโดยเฉพาะบนเวทีเสื้อแดง อีกทั้ง ให้รับฟังถ้อยแถลงของมูลนิธิองค์กรกลางฯ ที่ เปิดประเด็นแหลมคม เกี่ยวกับท่าทีของทหาร ที่เกี่ยวโยงกับ “ทุน” เอาไว้อย่างน่าจับตา
ดังนั้นพยัคฆ์น้อยใหญ่ถ้ามัวซุ่มซ่อน รอจังหวะสอง จังหวะเสียบอยู่ ในยามที่บ้านเมืองต้องพึ่งพาผู้ทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาบ้านเมือง หากพลาดพลั้ง ก็อาจไม่มีโอกาสแก้ตัว!
8-9-10 เมษาฯนี้ รู้กัน!
กำหนดดีเดย์ชักธงรบของ ทักษิณ ที่ ปลุกเร้าชาว “เสื้อแดง”ให้มารวมตัว สำแดงพลังเพื่อเผด็จศึก โค่นระบอบอำมาตยาธิปไตย ไม่แน่ใจว่า เป็นฤกษ์ผานาที ฤกษ์งามยามดีเช่นไร
เพราะบ้างก็วิเคราะห์ว่า มีอะไรคาบเกี่ยวกับวันที่ 6 เมษายน “วันจักรี” บ้างก็ว่า เกี่ยวข้องกับวันก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านมา 2 วัน เปรียบเหมือนรัฐบาลอภิสิทธิ์ เป็น “ทารกน้อย” ไร้ภูมิคุ้มกัน
ที่แน่ๆ 8 เม.ย.เป็นต้นไป “แดงเดือด” ของจริง เว้นเสียแต่ว่า ยุทธวิธี “ตีเพื่อเจรจา” จะบรรลุเป้าหมาย ผู้ใหญ่ที่ไหว้วานให้เชื่อมต่อ จดหมายหลายฉบับ ที่ส่งไปหลายทาง
ทั้งผ่านทาง “หญิงสูงส่ง” ผู้มีใจภักดิ์ กับทักษิณ หรือ“ชายวงใน” ที่ทำงานสูงแต่จิตใจเอนเอียงให้ทักษิณ ทำงานสำเร็จ
แม้จะรีบปฏิเสธ เพื่อไม่ให้“ทัพแดง”รู้เบื้องลึกจนเสียมวลชนที่ระดมปลุกปั่น ทั้งที่ก็เป็นเพียงเครื่องมือ สาวกเป็นเพียงแค่เบี้ย สำหรับการเจรจาของตัวเองก็ตาม
หากช่องปิดฟ้าไม่เปิด แผน ส่งสัญญาณตีกระหน่ำเกิดแน่ โดยเฉพาะที่แกนนำหัวขวด ประกาศจะระดมไพร่พลมาชุมนุมใหญ่ 3 แสนคน โดยจะใช้เงินบริจาค 5 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่าย
ทั้งหมดไม่เกินจริง เพียงแต่พูดน้อยไปหน่อย ปล่อยออกมาไม่หมด เพราะของจริงรู้กันในพรรคเพื่อไทยแล้วว่า งานนี้ มีใบสั่งจาก “นายใหญ่” พร้อมรบทั้ง 26 หัวเมือง
26 จังหวัด ต้องพร้อมเพรียง พื้นที่ละ 1หมื่น เป็นอย่างต่ำ พร้อมสนับสนุนน้ำเลี้ยงเสบียงกรัง ค่าใช้จ่ายไม่อั้น โดยเมื่อประเมินคร่าวๆ แค่ค่ารถค่าเดินทาง อาหารการกิน 3-4 มื้อต่อวัน อย่างต่ำๆ หัวละ1ใบเทา
คำนวณแล้ว 26 คูณ 10,000 คูณ 1ใบเทา ย่อมๆ 260,000,000 เท่านั้น กับเวลา 3วัน ในการเปิดสงครามประชาชนเทียมๆ เพื่อ“ทักษิณ” เกมสั้นเผด็จศึกตามคำโอ่
คูณ 3 เข้าไป ก็ไม่ถึง 1 พันล้าน คุ้มค่าสำหรับเกมล้มกระดาน-ชิงบ้านชิงเมือง หรือจะหวังผล “ตีกระหน่ำ” เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรอง
ที่แน่ๆคึกไปด้วยก็บรรดา “แดงซ้าย” ที่แฝงตัว อยู่ใน “ซ้ายแม้ว”ว่ากันว่า เวลานี้นอกจาก “แกนเปิด ”สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ -จรัล ดิษฐาภิชัย -อดิศร เพียงเกษ
ยังมี “ แกนปิด”ไม่เปิดตัว หน้าเก่าเจ้าเดิม “หมอคอมฯ”- “บิ๊กอ้วน” และผองเพื่อนสหาย สโมสร 19 ปลุกเร้ามวลชนเต็มอัตราศึก
“แดงจัด” ชุดนี้แหละ ที่อาจทำให้ “ทักษิณ” ปิดทางเจรจา
แต่ที่ต้องจับตาจริงๆ จากคำประกาศเชิญชวน “ลูกทาส” มารวมตัวครั้งนี้ของทักษิณ ที่กวักมือเรียกให้มาร่วมเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง โดยทึกทักเอาเองว่าเป็นสงครามประชาชนอีกครั้งของประเทศไทย เพื่อเดินไปสู่ประชาธิปไตย
นักโทษชาย เน้นย้ำหลายครั้ง ถึง “ผู้นำศาสนา” ที่มีหัวใจสีแดง” ให้มาร่วมทัพลุยเดือด
ข่าวแว่วมาว่า เวลานี้บรรดา“พลพรรคจานบิน” ของสำนัก“ธรรมะขายตรง” บรรดาเครือข่ายสาวกที่มีจำนวนมหาศาล พลังบุญล้นเหลือ ได้รับสัญญาณแจ้งบอกกันถ้วนหน้า
ให้ไปร่วมโห่ร้อง “ชิตังเม”โดยพร้อมเพรียง ในฐานะมวลชนจัดตั้งชุดล่วงหน้า ก่อนถึงวันดีเดย์เผด็จศึก!
หลังจากปล่อยให้วิดีโอลิงก์ ของ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุกหนีคดี เป็นปีศาจที่ มาทั้งภาพ ทั้งเสียงคมชัด แลบลิ้นปลื้นตา หลอกหลอน ปลุกปั่นเผาบ้านผลาญเมืองกันสนุกสนาน
โดยที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ผู้กุมอำนาจรัฐอยู่ในมือได้แต่บอดบื้อใบ้ มือไม้แขนขาเหมือนจะหมดกำลัง ง่อยเปลี้ย ขวัญกระเจิง ร้องกระจองงอแง หวังแค่ “ผู้ใหญ่” มาอุ้มมาช่วย
ก็สมแล้วที่นักโทษแม้ว หยามน้ำหน้า ว่ารัฐบาล“เด็ก”
ถ้าแข็งขันให้มากกว่านี้ “ปีศาจ” ก็คงไม่ได้ใจ ออกอาละวาดหลอกหลอน ลุกลามบานปลาย และลามปามไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ พาดพิงกระทบกระเทือนไปถึงบุคคลอันเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนคนไทย
จนกระทั่ง“ผู้ใหญ่”ของบ้านเมือง นิ่งเฉยอยู่ไม่ไหว
ทั้งๆพรรคประชาธิปัตย์ ก็น่าจะรู้แล้ว การเดินเกมรุกของนักโทษชายหนีคดี ไม่ใช่แค่ต้องการปลดโซ่ตรวนคดีความ ทวงทรัพย์สมบัติที่ถูกยึด หรือหาทางกลับเข้าสู่อำนาจ
แต่ถึงขั้น“จ้องล้มสถาบันฯ”
อย่างที่ “บิ๊กเสือ” พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ที่ต้องออกมาเดินหน้าชน ยิงหมัด“ทิ่มตรง” เปิดประจานเป้าแฝงเร้น จุดหมายจริงๆ ของนช.ทักษิณ
เป็นเรื่องที่รัฐบาล ต้องออกแรง เพราะศึกครั้งนี้มีเดิมพันสูง ไม่ใช่แค่สถานะของรัฐบาลเพียงเท่านั้น แต่มันคือเดิมพันของคนทั้งชาติ ดังนั้นอย่าให้ประวัติศาสตร์ต้องบันทึก บ้านเมือง ย่อยยับอับปาง สมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์เลย
ยังไม่ช้า และยังไม่สาย ถ้าจะเริ่มต้นกันอย่างจริงจัง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คงคิดได้อ่านสถานการณ์ออก โดยสมรภูมิศึกจะพิสูจน์ยอดแม่ทัพ
อันดับแรกเลย ต้องสั่งการจี้ไชบรรดารัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ทุกฝ่ายจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสงครามข่าวสาร ที่ทักษิณ ยิงวิดีโอลิงก์ ถล่มเมือง สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรมต.คุมสื่อ ที่ถูกตำหนิแรงๆ ถึงเวลาต้องโชว์ฝีมือ
จะมัวเป็น “รมต.น้องเดียว” ฉลาด วัยเด็กอย่างเดียวไม่ได้ ต้องโต ก่อนที่จะไม่มีโอกาสโต?
มาแบบไหนก็ต้องสวนไปแบบนั้น ต้องจัดทัพเสริมข้อมูลเข้าสู่แอร์วอร์ โดยเฉพาะสื่อรัฐ ไม่ต้องยำเกรงกับข้อกล่าวหาเรื่อง“แทรกแซง” ในเรื่องการรักษาความมั่นคงประเทศ
หรือให้ดี ลองปรึกษา จอมขมังเวทย์บุรีรัมย์ ที่อัพเกรดในโลกยุคดิจิตอล หรือลองเสาะ “มือที่มองไม่เห็น” คณะผู้จัดทำเว็บไซต์ใหม่เอี่ยม www.herethaksin.com เพื่อปรึกษาหารือ หาแนวทางรบด้านสื่อดูก็ได้
โดยเฉพาะข้อมูลต่างๆ ที่รัฐมีอยู่เกี่ยวกับตัว ทักษิณ กระทำชำเราประเทศชาติบ้านเมือง ไว้อย่างไร อันตรายของระบอบทักษิณ เผด็จการรัฐสภาเป็นเช่นใด การทุจริตประพฤติมิชอบ คดีความ ทรัพย์ศฤงคาร ที่ได้มา เปรียบเทียบกับก่อนเป็นนายกฯ
พฤติกรรมพฤติการณ์อันตราย การจ้วงจาบหยาบช้า มีจิตใจมักใหญ่ใฝ่สูงไปถึงไหนต่อไหน หรือมีจิตใจ มุ่งเป้าหมายไปถึงสถาบันสำคัญของบ้านเมือง
อย่าปล่อยให้ เผด็จการทุนนิยม ได้โอกาส สอนประชาธิปไตยให้แก่ชาวบ้านแบบผิดๆ เข้าใจว่า “ทักษิณ” เท่ากับ “ประชาธิปไตย”
เมื่อดูจากข้อเสนอในการปลุกเร้าคนเสื้อแดงให้ลุกฮือล้มอำมาตยาธิปไตย ของทักษิณ ทั้งการดึงรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ ยุบสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ล้มเลิกองค์กรอิสระ ไขกุญแจ “คุก”คุมขังนักโทษการเมือง
“ทักษิณ”อ้าปากให้เห็น “ลิ้นไก่” ทำก็เพื่อตัวเอง เพราะถ้าทุกฝ่ายต้องยอมตามความ นั่นก็คือการ“กลับสู่ที่เดิม” กฎเกณฑ์กติกา ที่ ทักษิณ อาศัยช่องเข้ามาสร้างความมั่งคั่งทั้งอำนาจและทรัพย์สินเงินตรา
เหมือนสมัยช่วงการก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ที่มีการพูดกันว่า มีการคิดคำนวณการลงทุนการเมืองให้แนวร่วมรับฟังพิจารณา ไม่กี่พันล้านก็สามารถยึดครองประเทศได้
ไม่เท่านั้น หากต้องยุบองค์กร สถาบันต่างๆ ยกเลิกโทษคดียุบพรรค ตามเงื่อนไขของนักโทษชายรายนี้ทั้งหมด ก็หมายความว่า ยกประเทศทั้งประเทศให้ “ทักษิณ”ไปเลย
อีกหัวเรี่ยวหัวแรงหลักอีกรายที่ต้องกระตุ้น “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ การเล่นบทถอย พร้อมเจรจา ก็รู้อยู่แล้ว นช.ทักษิณ มองประชาธิปัตย์ เป็นแค่เบี้ย การเจรจาจึงไม่ใช่จะใช้ได้ในตอนนี้
ที่อ้อมๆแอ้มๆ ยื่นไมตรี ก็เริ่มพูดและสงสัยกันแล้วว่า “เทพเทือก” แหยทำไมหนักหนากับนักโทษชาย หรือมีอะไรให้ต้องกลัว “หลุด” จากปาก“เพื่อนเก่า” !!?
และที่ต้องกระตุกเตือนกันอย่างแรงๆ บรรดาขุนทหาร แม่ทัพนายกอง รวมทั้ง รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คุมเหล่าทัพที่มีภารกิจรักษาความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และราชบัลลังก์ พึงสังวรในภารกิจหน้าที่รับผิดชอบ
โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร และน้องๆ “บูรพาพยัคฆ์” ทหารเสือราชินี ร.21 รอ. ที่ขึ้นตรงกับ พล.ร.2 รอ. กำลังผงาดในกองทัพบก ทั้งพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ. พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่1
อย่ามัวแต่เคลิ้มกับคำทำนายหมอดู จนไม่แอกทีฟ หากยังมองว่า “เรื่องของใครของมัน” ก็ให้ระวัง สุดท้ายมีสิทธิที่จะพังยกเข่ง!
เพราะหากจับสัญญาณ จากเวทีเสื้อแดง ก็รู้เขารู้เรา “ทหารเสือ” ที่แผ่สยายปีกผงาดอยู่ในกองทัพบก นั่นก็ย่อมปิดกั้นอีกสายหนึ่ง โดยเฉพาะนายทหาร “วงศ์เทวัญ” ที่เติบโตจาก พล.1.รอ.
เรื่องนี้ คนของทักษิณ ก็มียุทธวิธีเจาะ บ่อนเซาะ ขยายถ่างความขัดแย้ง
ชื่อของ พล.ท.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เริ่มถูกพูดถึงบ่อยครั้ง ทั้งในกลุ่มคนระบอบทักษิณ และโดยเฉพาะบนเวทีเสื้อแดง อีกทั้ง ให้รับฟังถ้อยแถลงของมูลนิธิองค์กรกลางฯ ที่ เปิดประเด็นแหลมคม เกี่ยวกับท่าทีของทหาร ที่เกี่ยวโยงกับ “ทุน” เอาไว้อย่างน่าจับตา
ดังนั้นพยัคฆ์น้อยใหญ่ถ้ามัวซุ่มซ่อน รอจังหวะสอง จังหวะเสียบอยู่ ในยามที่บ้านเมืองต้องพึ่งพาผู้ทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาบ้านเมือง หากพลาดพลั้ง ก็อาจไม่มีโอกาสแก้ตัว!
8-9-10 เมษาฯนี้ รู้กัน!
กำหนดดีเดย์ชักธงรบของ ทักษิณ ที่ ปลุกเร้าชาว “เสื้อแดง”ให้มารวมตัว สำแดงพลังเพื่อเผด็จศึก โค่นระบอบอำมาตยาธิปไตย ไม่แน่ใจว่า เป็นฤกษ์ผานาที ฤกษ์งามยามดีเช่นไร
เพราะบ้างก็วิเคราะห์ว่า มีอะไรคาบเกี่ยวกับวันที่ 6 เมษายน “วันจักรี” บ้างก็ว่า เกี่ยวข้องกับวันก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านมา 2 วัน เปรียบเหมือนรัฐบาลอภิสิทธิ์ เป็น “ทารกน้อย” ไร้ภูมิคุ้มกัน
ที่แน่ๆ 8 เม.ย.เป็นต้นไป “แดงเดือด” ของจริง เว้นเสียแต่ว่า ยุทธวิธี “ตีเพื่อเจรจา” จะบรรลุเป้าหมาย ผู้ใหญ่ที่ไหว้วานให้เชื่อมต่อ จดหมายหลายฉบับ ที่ส่งไปหลายทาง
ทั้งผ่านทาง “หญิงสูงส่ง” ผู้มีใจภักดิ์ กับทักษิณ หรือ“ชายวงใน” ที่ทำงานสูงแต่จิตใจเอนเอียงให้ทักษิณ ทำงานสำเร็จ
แม้จะรีบปฏิเสธ เพื่อไม่ให้“ทัพแดง”รู้เบื้องลึกจนเสียมวลชนที่ระดมปลุกปั่น ทั้งที่ก็เป็นเพียงเครื่องมือ สาวกเป็นเพียงแค่เบี้ย สำหรับการเจรจาของตัวเองก็ตาม
หากช่องปิดฟ้าไม่เปิด แผน ส่งสัญญาณตีกระหน่ำเกิดแน่ โดยเฉพาะที่แกนนำหัวขวด ประกาศจะระดมไพร่พลมาชุมนุมใหญ่ 3 แสนคน โดยจะใช้เงินบริจาค 5 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่าย
ทั้งหมดไม่เกินจริง เพียงแต่พูดน้อยไปหน่อย ปล่อยออกมาไม่หมด เพราะของจริงรู้กันในพรรคเพื่อไทยแล้วว่า งานนี้ มีใบสั่งจาก “นายใหญ่” พร้อมรบทั้ง 26 หัวเมือง
26 จังหวัด ต้องพร้อมเพรียง พื้นที่ละ 1หมื่น เป็นอย่างต่ำ พร้อมสนับสนุนน้ำเลี้ยงเสบียงกรัง ค่าใช้จ่ายไม่อั้น โดยเมื่อประเมินคร่าวๆ แค่ค่ารถค่าเดินทาง อาหารการกิน 3-4 มื้อต่อวัน อย่างต่ำๆ หัวละ1ใบเทา
คำนวณแล้ว 26 คูณ 10,000 คูณ 1ใบเทา ย่อมๆ 260,000,000 เท่านั้น กับเวลา 3วัน ในการเปิดสงครามประชาชนเทียมๆ เพื่อ“ทักษิณ” เกมสั้นเผด็จศึกตามคำโอ่
คูณ 3 เข้าไป ก็ไม่ถึง 1 พันล้าน คุ้มค่าสำหรับเกมล้มกระดาน-ชิงบ้านชิงเมือง หรือจะหวังผล “ตีกระหน่ำ” เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรอง
ที่แน่ๆคึกไปด้วยก็บรรดา “แดงซ้าย” ที่แฝงตัว อยู่ใน “ซ้ายแม้ว”ว่ากันว่า เวลานี้นอกจาก “แกนเปิด ”สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ -จรัล ดิษฐาภิชัย -อดิศร เพียงเกษ
ยังมี “ แกนปิด”ไม่เปิดตัว หน้าเก่าเจ้าเดิม “หมอคอมฯ”- “บิ๊กอ้วน” และผองเพื่อนสหาย สโมสร 19 ปลุกเร้ามวลชนเต็มอัตราศึก
“แดงจัด” ชุดนี้แหละ ที่อาจทำให้ “ทักษิณ” ปิดทางเจรจา
แต่ที่ต้องจับตาจริงๆ จากคำประกาศเชิญชวน “ลูกทาส” มารวมตัวครั้งนี้ของทักษิณ ที่กวักมือเรียกให้มาร่วมเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง โดยทึกทักเอาเองว่าเป็นสงครามประชาชนอีกครั้งของประเทศไทย เพื่อเดินไปสู่ประชาธิปไตย
นักโทษชาย เน้นย้ำหลายครั้ง ถึง “ผู้นำศาสนา” ที่มีหัวใจสีแดง” ให้มาร่วมทัพลุยเดือด
ข่าวแว่วมาว่า เวลานี้บรรดา“พลพรรคจานบิน” ของสำนัก“ธรรมะขายตรง” บรรดาเครือข่ายสาวกที่มีจำนวนมหาศาล พลังบุญล้นเหลือ ได้รับสัญญาณแจ้งบอกกันถ้วนหน้า
ให้ไปร่วมโห่ร้อง “ชิตังเม”โดยพร้อมเพรียง ในฐานะมวลชนจัดตั้งชุดล่วงหน้า ก่อนถึงวันดีเดย์เผด็จศึก!