"อภิสิทธิ์"เผยการประชุม จี 20 ผ่านพ้นด้วยดี ได้พบปะผู้นำประเทศต่างๆและผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ ทั้งยูเอ็น ธนาคารโลกไอเอ็มเอฟ ดับเบิลยูทีโอ ทั้ง4 องค์กร รับปากจะมาประชุมอาเซียนบวก 3 และอาเซียนบวก 6 ที่พัทยา
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากร่วมประชุมจี 20 ที่ประเทศอังกฤษ วานนี้(3เม.ย.) ว่า เป็นการไปร่วมในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งถือว่าผ่านพ้นไปด้วยดี และได้มีโอกาสพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆ ทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ได้กระชับความสัมพันธ์ และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหา และวิกฤติเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมไปถึงประธานธนาคารโลก ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก และเลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งทั้ง 4 คน ยืนยันว่าพร้อมที่จะเดินทางมาประชุมที่ประเทศไทยในสัปดาห์หน้าในช่วงการประชุมอาเซียนบวก 3 และอาเซียนบวก 6 ที่พัทยา ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมจี 20 ให้ความสำคัญกับประเทศกำลังพัฒนา กับเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีมาตรการหรือข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมในเรื่องการให้องค์กรระหว่างประเทศ หรือสถาบันการเงินระหว่างประเทศ มีทรัพยากร และมีเงินทุนเพิ่มขึ้นในการเข้ามาสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยการพัฒนาเศรษฐกิจต่างๆ จะไม่มีเงื่อนไข หรือเป็นไปในลักษณะที่มุ่งช่วยผู้มีรายได้น้อย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะก่อนหน้านี้ การแก้ปัญหาของกลุ่มเศรษฐกิจใหญ่ๆ จะมุ่งเฉพาะเรื่องระบบสถาบันการเงินในประเทศของตัวเอง และในการประชุมครั้งนี้ผู้นำเศรษฐกิจหลักๆ ของโลกได้ตกลงที่จะเจรจาการค้ารอบใหม่ ซึ่งเป็นผลดีในแง่การส่งสัญญาณ เรื่องการไม่กีดกันทางการค้า ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ประเมินกันว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก น่าจะอยู่ประมาณครึ่งปีแรกของปี 2553 โดยจะมีมาตรการต่างๆ เสริมเข้าไป ซึ่งตรงนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย ที่ได้รับผลกระทบมาจากข้างนอกเป็นหลัก และกรณีที่มุ่งในเรื่องภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง เรื่องการสร้างงานก็จะเป็นผลดีต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ที่ลอนดอน
นายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ ที่กรุงลอนดอนเมื่อวันพฤหัสบดี (2) ปฏิเสธไม่ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วง "เสื้อแดง" พร้อมกับบอกว่าการชุมนุมที่ดำเนินมาเกือบสัปดาห์ของกลุ่มนี้ จะไม่ทำให้รัฐบาลของเขาหันเหความสนใจออกไปจากการหาทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังทรุดตัว
"เราคิดว่าในขณะนี้ ประเทศชาติจะไปได้ดีกว่าด้วยการที่อยู่ในภาวะมีเสถียรภาพ ด้วยการที่รัฐบาลกำลังเข้าแก้ไขความต้องการอย่างเร่งด่วนของประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ" นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ ขณะที่เขาไปประชุมซัมมิตกลุ่มจี 20 ในกรุงลอนดอน ในฐานะผู้แทนของสมาคมอาเซียน
นายอภิสิทธิ์ ซึ่งรอยเตอร์กล่าวว่า ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งจากสมาชิกรัฐสภาในเดือนธันวาคม กล่าวว่า เท่าที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้ กลุ่มผู้ประท้วง "เสื้อแดง" ได้สร้างผลกระทบต่อรัฐบาลของเขาอย่างน้อยนิดที่สุด
"ตราบเท่าที่มีคนต้องการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญของพวกเขา (ที่จะทำการประท้วง) ภายในขอบเขตของกฎหมายแล้ว พวกเขาก็สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้ เราเคยมีการประท้วงใหญ่ๆ หลายครั้งในช่วงสองสามเดือนท้ายๆ มานี้ โดยที่ไม่ได้เกิดความรุนแรงใดๆ และโดยที่ไม่ได้มีความวุ่นวายใดๆ และเราคิดว่าคราวนี้ก็จะเป็นเช่นนั้นอีก" นายกรัฐมนตรีไทยวัย 44 ปีผู้จบจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด บอก
นายอภิสิทธิ์เผยว่า รัฐบาลของเขากำลังตระเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสอง ซึ่งจะมีมาตรการด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานภาคสาธารณะด้วย อันจะช่วยทำให้เศรษฐกิจกลับมามีอัตราการเติบโตเป็นบวกได้อีกครั้งภายในสิ้นปีนี้
นายกรัฐมนตรีไทย กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงความรุนแรงได้ ถึงแม้ความขัดแย้งกันระหว่างพวกผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านทักษิณ จะเดินมาถึงทางตันไม่มีทางออก และเขาไม่คิดว่าจะเห็นความวุ่นวายในระดับเดียวกับที่กลุ่มผู้ประท้วงทักษิณเข้าปิดล้อมสนามบินในกรุงเทพฯ เมื่อปีที่แล้ว
"อารมณ์ความรู้สึกในประเทศไทยเวลานี้เป็นที่ชัดเจน คนไทยต้องการเดินหน้าต่อไป เราจะไม่ได้เห็นสิ่งที่เราเห็นเมื่อปีที่แล้วเกิดขึ้นซ้ำอีก" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากร่วมประชุมจี 20 ที่ประเทศอังกฤษ วานนี้(3เม.ย.) ว่า เป็นการไปร่วมในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งถือว่าผ่านพ้นไปด้วยดี และได้มีโอกาสพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆ ทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ได้กระชับความสัมพันธ์ และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหา และวิกฤติเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมไปถึงประธานธนาคารโลก ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก และเลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งทั้ง 4 คน ยืนยันว่าพร้อมที่จะเดินทางมาประชุมที่ประเทศไทยในสัปดาห์หน้าในช่วงการประชุมอาเซียนบวก 3 และอาเซียนบวก 6 ที่พัทยา ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมจี 20 ให้ความสำคัญกับประเทศกำลังพัฒนา กับเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีมาตรการหรือข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมในเรื่องการให้องค์กรระหว่างประเทศ หรือสถาบันการเงินระหว่างประเทศ มีทรัพยากร และมีเงินทุนเพิ่มขึ้นในการเข้ามาสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยการพัฒนาเศรษฐกิจต่างๆ จะไม่มีเงื่อนไข หรือเป็นไปในลักษณะที่มุ่งช่วยผู้มีรายได้น้อย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะก่อนหน้านี้ การแก้ปัญหาของกลุ่มเศรษฐกิจใหญ่ๆ จะมุ่งเฉพาะเรื่องระบบสถาบันการเงินในประเทศของตัวเอง และในการประชุมครั้งนี้ผู้นำเศรษฐกิจหลักๆ ของโลกได้ตกลงที่จะเจรจาการค้ารอบใหม่ ซึ่งเป็นผลดีในแง่การส่งสัญญาณ เรื่องการไม่กีดกันทางการค้า ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ประเมินกันว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก น่าจะอยู่ประมาณครึ่งปีแรกของปี 2553 โดยจะมีมาตรการต่างๆ เสริมเข้าไป ซึ่งตรงนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย ที่ได้รับผลกระทบมาจากข้างนอกเป็นหลัก และกรณีที่มุ่งในเรื่องภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง เรื่องการสร้างงานก็จะเป็นผลดีต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ที่ลอนดอน
นายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ ที่กรุงลอนดอนเมื่อวันพฤหัสบดี (2) ปฏิเสธไม่ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วง "เสื้อแดง" พร้อมกับบอกว่าการชุมนุมที่ดำเนินมาเกือบสัปดาห์ของกลุ่มนี้ จะไม่ทำให้รัฐบาลของเขาหันเหความสนใจออกไปจากการหาทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังทรุดตัว
"เราคิดว่าในขณะนี้ ประเทศชาติจะไปได้ดีกว่าด้วยการที่อยู่ในภาวะมีเสถียรภาพ ด้วยการที่รัฐบาลกำลังเข้าแก้ไขความต้องการอย่างเร่งด่วนของประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ" นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ ขณะที่เขาไปประชุมซัมมิตกลุ่มจี 20 ในกรุงลอนดอน ในฐานะผู้แทนของสมาคมอาเซียน
นายอภิสิทธิ์ ซึ่งรอยเตอร์กล่าวว่า ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งจากสมาชิกรัฐสภาในเดือนธันวาคม กล่าวว่า เท่าที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้ กลุ่มผู้ประท้วง "เสื้อแดง" ได้สร้างผลกระทบต่อรัฐบาลของเขาอย่างน้อยนิดที่สุด
"ตราบเท่าที่มีคนต้องการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญของพวกเขา (ที่จะทำการประท้วง) ภายในขอบเขตของกฎหมายแล้ว พวกเขาก็สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้ เราเคยมีการประท้วงใหญ่ๆ หลายครั้งในช่วงสองสามเดือนท้ายๆ มานี้ โดยที่ไม่ได้เกิดความรุนแรงใดๆ และโดยที่ไม่ได้มีความวุ่นวายใดๆ และเราคิดว่าคราวนี้ก็จะเป็นเช่นนั้นอีก" นายกรัฐมนตรีไทยวัย 44 ปีผู้จบจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด บอก
นายอภิสิทธิ์เผยว่า รัฐบาลของเขากำลังตระเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสอง ซึ่งจะมีมาตรการด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานภาคสาธารณะด้วย อันจะช่วยทำให้เศรษฐกิจกลับมามีอัตราการเติบโตเป็นบวกได้อีกครั้งภายในสิ้นปีนี้
นายกรัฐมนตรีไทย กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงความรุนแรงได้ ถึงแม้ความขัดแย้งกันระหว่างพวกผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านทักษิณ จะเดินมาถึงทางตันไม่มีทางออก และเขาไม่คิดว่าจะเห็นความวุ่นวายในระดับเดียวกับที่กลุ่มผู้ประท้วงทักษิณเข้าปิดล้อมสนามบินในกรุงเทพฯ เมื่อปีที่แล้ว
"อารมณ์ความรู้สึกในประเทศไทยเวลานี้เป็นที่ชัดเจน คนไทยต้องการเดินหน้าต่อไป เราจะไม่ได้เห็นสิ่งที่เราเห็นเมื่อปีที่แล้วเกิดขึ้นซ้ำอีก" นายกรัฐมนตรีกล่าว
