เดอะมอลล์ เร่งทยอยรีโนเวตแผนกสินค้าเด็กและของเด็กเล่นให้หมดคิวปีนี้คือ บางกะปิและโคราช หลังผลตอบรับสาขาอื่นที่เสร็จแล้วยอดขายเพิ่มขึ้น 10% เดินเกมตลาดมุ่งจัดกิจกรรมตอบรับกลุ่มครอบครัว ทุ่มงบตลาดปีนี้ 80 ล้านบาท ล่าสุดจัดงาน เดอะมอลล์ อินเตอร์เนชันแล ทอยส์ แอนด์ เกมส์ โชว์ 2009 ครั้งที่ 6 หวังโกยยอด 25 ล้านบาท มั่นใจปีนี้ทั้งแผนกรายได้ทะลุ 1,870 ล้านบาท เติบโต 10%
นายสมเกียรติ โชคประจักษ์ชัด ผู้จัดการทั่วไป สายบริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯเตรียมทำการรีโนเวตแผนกสินค้าเด็กและของเด็กเล่นต่อเนื่องคือสาขา บางกะปิ และสาขาโคราช หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รีโนเวตสาขาอื่นไปเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดที่เสร็จไปวานนี้คือ สาขางามวงศ์วาน ซึ่งหลังจากปรับเรียบร้อยแล้วทำให้แต่ละสาขามียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งรูปโฉมใหม่จะเน้นคาแรคเตอร์ของแบรนด์สินค้าให้มีความชัดเจนมากขึ้น
เนื่องจากตลาดของสินค้าเด็กอ่อนและของเด็กเล่นมีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง พ่อแม่เริ่มให้ความสำคัญกับสินค้าของเล่นมากขึ้น เพราะเป็นการเพิ่มพูนปัญญา และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับครอบครัวด้วย โดยกล้าใช้จ่ายมากขึ้น ส่วนสินค้าเด็กเองก็เติบโตเช่นกัน เช่นกลุ่มเสื้อผ้าของเด็กวัยพรีทีนอายุ 8-14 ปี ซึ่งจะหาซื้อเสื้อผ้าลำบากมาก ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเราพยายามทำตลาดตรงนี้ให้เป็นแฟชั่นมากขึ้น จากเดิมที่เน้นแบบเบสิค
ทั้งนี้ตลาดรวมของสินค้าเด็กและของเด็กเล่น ไม่สามารถประเมินว่าเท่าใด แต่ก็มีการเติบโตต่อเนื่องอีกทั้งการแข่งขันรุนแรงด้วย โดยในส่วนของเดอะมอลล์เองนั้น ปีที่แล้วมีรายได้จากแผนกนี้มากกว่า 1,700 ล้านบาท เติบโต 9% จากปี 2550 แบ่งสัดส่วนเป็น สินค้าเสื้อผ้าเด็ก 70% และสินค้าของเด็กเล่น 30% สาขาที่ทำรายได้สูงสุดคือ พารากอน เอ็มโพเรียม และบางกะปิตามลำดับ และปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,850 ล้านบาท เติบโต 10%
แนวทางการทำตลาดของแผนกนี้ จะเน้นการจัดกิจกรรมแบบเจาะกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้สามารถขยายตลาดได้ รวมทั้งกลุ่มนักสะสมด้วย ผ่านกิจกรรม และโปรโมชันต่อเนื่อง จะมีงานใหญ่ปีนี้ประมาณ 5-6 งาน ด้วยงบประมาณตลาดรวม 80 ล้านบาท รวมทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตรด้วย ล่าสุดคือ การจัดงาน เดอะมอลล์ อินเตอร์เนชันแล ทอยส์ แอนด์ เกมส์ โชว์ 2009 ครั้งที่ 6 ที่เดอะมอลล์สาขาบางกะปิ วันที่ 4-19 เมษายนนี้ พื้นที่ 5,000 ตารางเมตร จำนวน 16 วัน มากกว่าครั้งที่แล้วที่ 12 วัน โดยใช้งบประมาณจัดมากกว่า 3 ล้านบาท คาดว่าตลอดการจัดงานจะมียอดขายรวมกว่า 25 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานมากกว่า 200,000 คน
ภายในงานแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักคือ 1.โซนนิทรรศการความรู้ มีไฮไลท์คือ หุ่นยนต์ “คุณหมอพระราชทาน” ต้นแบบหุ่นยนต์ตัวแรกของประเทศไทย ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2497 2.โซนเวิร์คชอป มีทั้งกิจกรรมและสันทนาการมากมาย 3.ทอยส์โชว์ โซนสินค้าเด็กและของเด็กเล่น ซึ่งปีนี้มีซัปพลายเออร์เข้าร่วมงานมากกว่า 50 ราย โดยมีรายใหม่เข้ามาร่วมประมาณ 4-5 ราย
“ในงานนี้จะมีสินค้าของเด็กเล่นใหม่ๆมานำเสนอ พร้อมทั้งโปรโมชั่นมากมาย ราคาลดสูงสุดถึง 70% ยังมีโปรโมชั่นผ่อน 0% กับซิตี้แบงก์ด้วย เมื่อซื้อสินค้าสูงกว่า 1,500 บาท มั่นใจว่างานจะสำเร็จเหมือนทุกปี แม้ว่าปีนี้เศรษฐกิจจะยังไม่ค่อยดีก็ตาม เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุน เช่น เช็คช่วยชาติที่รัฐบาลนำมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ประชาชนออกมาจับจ่าย ซึ่งทางแผนกเองก็ยังมีแคมเปญช้อปช่วยชาติ รวมทั้งช่วงจัดงานเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ด้วย” นายสมเกียรติกล่าว
นายสมเกียรติ โชคประจักษ์ชัด ผู้จัดการทั่วไป สายบริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯเตรียมทำการรีโนเวตแผนกสินค้าเด็กและของเด็กเล่นต่อเนื่องคือสาขา บางกะปิ และสาขาโคราช หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รีโนเวตสาขาอื่นไปเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดที่เสร็จไปวานนี้คือ สาขางามวงศ์วาน ซึ่งหลังจากปรับเรียบร้อยแล้วทำให้แต่ละสาขามียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งรูปโฉมใหม่จะเน้นคาแรคเตอร์ของแบรนด์สินค้าให้มีความชัดเจนมากขึ้น
เนื่องจากตลาดของสินค้าเด็กอ่อนและของเด็กเล่นมีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง พ่อแม่เริ่มให้ความสำคัญกับสินค้าของเล่นมากขึ้น เพราะเป็นการเพิ่มพูนปัญญา และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับครอบครัวด้วย โดยกล้าใช้จ่ายมากขึ้น ส่วนสินค้าเด็กเองก็เติบโตเช่นกัน เช่นกลุ่มเสื้อผ้าของเด็กวัยพรีทีนอายุ 8-14 ปี ซึ่งจะหาซื้อเสื้อผ้าลำบากมาก ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเราพยายามทำตลาดตรงนี้ให้เป็นแฟชั่นมากขึ้น จากเดิมที่เน้นแบบเบสิค
ทั้งนี้ตลาดรวมของสินค้าเด็กและของเด็กเล่น ไม่สามารถประเมินว่าเท่าใด แต่ก็มีการเติบโตต่อเนื่องอีกทั้งการแข่งขันรุนแรงด้วย โดยในส่วนของเดอะมอลล์เองนั้น ปีที่แล้วมีรายได้จากแผนกนี้มากกว่า 1,700 ล้านบาท เติบโต 9% จากปี 2550 แบ่งสัดส่วนเป็น สินค้าเสื้อผ้าเด็ก 70% และสินค้าของเด็กเล่น 30% สาขาที่ทำรายได้สูงสุดคือ พารากอน เอ็มโพเรียม และบางกะปิตามลำดับ และปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,850 ล้านบาท เติบโต 10%
แนวทางการทำตลาดของแผนกนี้ จะเน้นการจัดกิจกรรมแบบเจาะกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้สามารถขยายตลาดได้ รวมทั้งกลุ่มนักสะสมด้วย ผ่านกิจกรรม และโปรโมชันต่อเนื่อง จะมีงานใหญ่ปีนี้ประมาณ 5-6 งาน ด้วยงบประมาณตลาดรวม 80 ล้านบาท รวมทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตรด้วย ล่าสุดคือ การจัดงาน เดอะมอลล์ อินเตอร์เนชันแล ทอยส์ แอนด์ เกมส์ โชว์ 2009 ครั้งที่ 6 ที่เดอะมอลล์สาขาบางกะปิ วันที่ 4-19 เมษายนนี้ พื้นที่ 5,000 ตารางเมตร จำนวน 16 วัน มากกว่าครั้งที่แล้วที่ 12 วัน โดยใช้งบประมาณจัดมากกว่า 3 ล้านบาท คาดว่าตลอดการจัดงานจะมียอดขายรวมกว่า 25 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานมากกว่า 200,000 คน
ภายในงานแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักคือ 1.โซนนิทรรศการความรู้ มีไฮไลท์คือ หุ่นยนต์ “คุณหมอพระราชทาน” ต้นแบบหุ่นยนต์ตัวแรกของประเทศไทย ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2497 2.โซนเวิร์คชอป มีทั้งกิจกรรมและสันทนาการมากมาย 3.ทอยส์โชว์ โซนสินค้าเด็กและของเด็กเล่น ซึ่งปีนี้มีซัปพลายเออร์เข้าร่วมงานมากกว่า 50 ราย โดยมีรายใหม่เข้ามาร่วมประมาณ 4-5 ราย
“ในงานนี้จะมีสินค้าของเด็กเล่นใหม่ๆมานำเสนอ พร้อมทั้งโปรโมชั่นมากมาย ราคาลดสูงสุดถึง 70% ยังมีโปรโมชั่นผ่อน 0% กับซิตี้แบงก์ด้วย เมื่อซื้อสินค้าสูงกว่า 1,500 บาท มั่นใจว่างานจะสำเร็จเหมือนทุกปี แม้ว่าปีนี้เศรษฐกิจจะยังไม่ค่อยดีก็ตาม เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุน เช่น เช็คช่วยชาติที่รัฐบาลนำมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ประชาชนออกมาจับจ่าย ซึ่งทางแผนกเองก็ยังมีแคมเปญช้อปช่วยชาติ รวมทั้งช่วงจัดงานเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ด้วย” นายสมเกียรติกล่าว
