ASTVผู้จัดการรายวัน-ย้ายดอนเมืองกลับสุวรรณภูมิวันแรกก็วุ่นวายแล้ว ระบบเช็กอินล่มเป็นชั่วโมง แถมมีปัญหาความแออัด เหตุจัดระบบรองรับผู้โดยสารไม่ดี ทั้งๆ ที่คุยโวไว้เยอะเตรียมทุกอย่างรองรับไว้พร้อมแล้ว การบินไทยเผยมีปัญหาเล็กน้อย แก้ไขได้ “ณรงค์ศักดิ์”ระบุอีก 6 เดือนรู้ผลมีกำไรหรือไม่ ยันการย้ายกลับช่วยลดค่าใช้จ่ายกว่า 600 ล้านบาทต่อปี ด้านนกแอร์ฉวยจังหวัดเพิ่มเที่ยวบินที่ดอนเมืองรองรับผู้โดยสาร
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวานนี้ (29 มี.ค.) เป็นวันแรกที่สายการบินไทยเที่ยวบินในประเทศเริ่มไปใช้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบินแรกที่ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คือ TG 020 ออกจากสุวรรณภูมิเวลา 06.00น. ถึงอุบลราชธานี 07.05 น. ซึ่งในช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. มีผู้โดยสารทยอยเดินทางมาเช็คอินตั๋วโดยสาร แต่ไม่สามารถเช็คอินได้ เนื่องจากระบบคอมพิเตอร์ขัดข้อง ส่งผลให้เกิดการวุ่นวาย ทำให้ผู้โดยสารที่มารอการเช็คอินตั๋วหนาแน่นและเกิดความแออัด จนกระทั่วเลาประมาณ 05.45 น.จึงสามารถแก้ไขระบบคอมพิเตอร์และกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง
สำหรับบรรยากาศโดยรอบตั้งแต่ช่วงเช้า มีผู้โดยสารไปใช้บริการอย่างหนาแน่น ทั้งในส่วนของเที่ยวบินในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในบริเวณเคาเตอร์เช็คอิน โซนA และ B ซึ่งมีความโกลาหลอย่างมาก เพราะมีการจัดพื้นที่สำหรับการเช็คอินแบบหมู่คณะใกล้กลับบริเวณทางออกขึ้นเครื่อง
นอกจากนี้ การบินไทยยังได้มีการตั้งเคาเตอร์ เซอร์วิส ตรงกลางระหว่างเคาเตอร์เช็คอิน โซน A และ B ทำให้พื้นที่ที่จะให้บริการผู้โดยสารลดลง จนเกิดการเบียดเสียด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้านั้นมีผู้โดยสารของการบินไทย 1 รายที่จะเดินทางไปจ.เชียงใหม่ เกิดความสับสนและเดินทางไปที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งทางการบินไทยได้ช่วยเหลือและจัดรถไปรับและนำมาขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น คือ ระบบเช็คอินล่มตั้งแต่เวลา 04.00 น. ซึ่งทอท. ได้พยายามแก้ไข จนกระทั่วเวลาประมาณ 05.10 น. จึงแก้ไขแล้วเสร็จ พร้อมทั้งเปิดให้บริการได้ ส่วนสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
“บริการหลังจากที่สายการบินไทยย้ายมานั้น มีขลุกขลักเล็กน้อย คือ ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ เกิดความสับสนในเคาเตอร์เช็คอิน เดิมจะจัดให้อยู่ที่โซน C แต่ได้มีการปรับปรุงใหม่ย้ายให้ไปอยู่โซน B ซึ่งการบินไทยได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้ให้บริการผู้โดยสาร สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น ได้เพิ่มเครื่องเอ็กซ์เรย์เป็น 8 เครื่องจากเดิมมีเพียง 5 เครื่อง”นายเสรีรัตน์กล่าว
นายเล็ก กลิ่นวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการประเมินในเบื้องต้น พบว่ามีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิน แฟคเตอร์) ของเที่ยวบินภายในประเทศอยู่ที่ 80% ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอใจ และหลังจากนี้น่าจะเห็นผลว่าการย้ายกลับมาที่สุวรรณภูมินั้นลดภาระขาดทุนได้หรือไม่
พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สำนักงานเลขานุการ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าวว่า มีปัญหาเพียงเล็กน้อยจากการเช็คอินแบบหมู่คณะ ซึ่งได้มีการนำทั้งส่วนในและต่างประเทศมาไว้ที่เดียวกัน ทำให้เกิดความแออัด แต่ทางทอท.ได้เตรียมจัดพื้นที่ใหม่ไว้ให้ที่โซน D นอกจากนี้ การบินไทยได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง 7 วัน เพื่อดูแลผู้โดยสารในกรณีหลงไปดอนเมือง
“หลังการย้ายเที่ยวบินภายในประเทศทั้งหมด มาให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองในช่วงเช้าที่ผ่านมานั้นพบว่ามีผู้โดยสารมาใช้บริการจำนวนมาก มีเคบินแฟคเตอร์ประมาณ 70-80% ถ้ามีเคบินแฟคเตอร์อยู่ในระดับนี้ต่อเนื่อง คาดว่าภายใน 6 เดือนก็น่าจะมีกำไรและลดภาระขาดทุนของการบินไทยได้”พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์กล่าว
พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ ยืนยันว่า มาตรการย้ายเที่ยวบินจากสนามบินดอนเมืองกลับสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นหนึ่งในแผนปรับปรุงธุรกิจ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้จริงปีละกว่า 600 ล้านบาท เพราะบริษัทสามารถใช้ฐานปฏิบัติการเพียงแห่งเดียว ส่งผลให้ลดการจ้างงานจากภายนอก (Outsource) ลง แต่ถ้าผลไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ฝ่ายบริหารก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ
นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบิน นกแอร์ กล่าวว่า หลังจากการบินไทยได้ย้ายเที่ยวบินจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทุกเที่ยวบินแล้ว ทำให้สายการบินนกแอร์ ต้องปรับกลยุทธ์ให้บริการผู้โดยสารใหม่ เพราะยังมีผู้โดยสารจำนวนมากต้องการใช้บริการที่ดอนเมืองเหมือนเดิม แต่ยอมรับว่ามีลูกค้าประจำของการบินไทยที่ต้องการขึ้นเครื่องกับการบินไทยย้ายตามไปสุวรรณภูมิด้วยเช่นกัน ดังนั้น เพื่อรองรับผู้โดยสารที่ยังต้องการเดินทางที่ดอนเมือง นกแอร์จึงเตรียมเพิ่มเที่ยวบินของนกแอร์ เป็น 30 เที่ยวบินต่อวัน จากเดิมให้บริการอยู่ 26 เที่ยวบินต่อวันในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะการเตรียมรองรับผู้โดยสารเดินทางช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ซึ่งต้องเที่ยวบินพิเศษเพิ่มเติมให้เพียงพอ
“ยอมรับว่าในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหา การวางแผนการเดินทางของประชาชนในขณะนี้ไม่ได้วางแผนไว้เป็นระยะยาว ซึ่งหากจะเดินทางแต่ละครั้งจะเริ่มตัดสินใจประมาณ 3-4 วัน ก่อนการสำรองที่นั่งเพื่อเดินทาง ดังนั้น สายการบินจึงต้องติดตามดูการสำรองที่นั่งของประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์นี้น่าจะมีผู้โดยสารเดินทางที่สนามบินดอนเมืองเป็นจำนวนมาก” นายพาที กล่าว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า บรรยากาศที่ท่าอากาศยานดอนเมืองขณะนี้ หลังจากการบินไทยได้ย้ายออกไปเริ่มมีจำนวนผู้โดยสารลดดลงบ้าง แต่ก็ยังพอมีผู้โดยสารเดินทาง เพราะมีสายการบินวันทูโกให้บริการอยู่ 14-16 เที่ยวบินต่อวัน สายการบินนกแอร์ 26 เที่ยวบินต่อวัน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวานนี้ (29 มี.ค.) เป็นวันแรกที่สายการบินไทยเที่ยวบินในประเทศเริ่มไปใช้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบินแรกที่ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คือ TG 020 ออกจากสุวรรณภูมิเวลา 06.00น. ถึงอุบลราชธานี 07.05 น. ซึ่งในช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. มีผู้โดยสารทยอยเดินทางมาเช็คอินตั๋วโดยสาร แต่ไม่สามารถเช็คอินได้ เนื่องจากระบบคอมพิเตอร์ขัดข้อง ส่งผลให้เกิดการวุ่นวาย ทำให้ผู้โดยสารที่มารอการเช็คอินตั๋วหนาแน่นและเกิดความแออัด จนกระทั่วเลาประมาณ 05.45 น.จึงสามารถแก้ไขระบบคอมพิเตอร์และกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง
สำหรับบรรยากาศโดยรอบตั้งแต่ช่วงเช้า มีผู้โดยสารไปใช้บริการอย่างหนาแน่น ทั้งในส่วนของเที่ยวบินในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในบริเวณเคาเตอร์เช็คอิน โซนA และ B ซึ่งมีความโกลาหลอย่างมาก เพราะมีการจัดพื้นที่สำหรับการเช็คอินแบบหมู่คณะใกล้กลับบริเวณทางออกขึ้นเครื่อง
นอกจากนี้ การบินไทยยังได้มีการตั้งเคาเตอร์ เซอร์วิส ตรงกลางระหว่างเคาเตอร์เช็คอิน โซน A และ B ทำให้พื้นที่ที่จะให้บริการผู้โดยสารลดลง จนเกิดการเบียดเสียด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้านั้นมีผู้โดยสารของการบินไทย 1 รายที่จะเดินทางไปจ.เชียงใหม่ เกิดความสับสนและเดินทางไปที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งทางการบินไทยได้ช่วยเหลือและจัดรถไปรับและนำมาขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น คือ ระบบเช็คอินล่มตั้งแต่เวลา 04.00 น. ซึ่งทอท. ได้พยายามแก้ไข จนกระทั่วเวลาประมาณ 05.10 น. จึงแก้ไขแล้วเสร็จ พร้อมทั้งเปิดให้บริการได้ ส่วนสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
“บริการหลังจากที่สายการบินไทยย้ายมานั้น มีขลุกขลักเล็กน้อย คือ ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ เกิดความสับสนในเคาเตอร์เช็คอิน เดิมจะจัดให้อยู่ที่โซน C แต่ได้มีการปรับปรุงใหม่ย้ายให้ไปอยู่โซน B ซึ่งการบินไทยได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้ให้บริการผู้โดยสาร สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น ได้เพิ่มเครื่องเอ็กซ์เรย์เป็น 8 เครื่องจากเดิมมีเพียง 5 เครื่อง”นายเสรีรัตน์กล่าว
นายเล็ก กลิ่นวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการประเมินในเบื้องต้น พบว่ามีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิน แฟคเตอร์) ของเที่ยวบินภายในประเทศอยู่ที่ 80% ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอใจ และหลังจากนี้น่าจะเห็นผลว่าการย้ายกลับมาที่สุวรรณภูมินั้นลดภาระขาดทุนได้หรือไม่
พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สำนักงานเลขานุการ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าวว่า มีปัญหาเพียงเล็กน้อยจากการเช็คอินแบบหมู่คณะ ซึ่งได้มีการนำทั้งส่วนในและต่างประเทศมาไว้ที่เดียวกัน ทำให้เกิดความแออัด แต่ทางทอท.ได้เตรียมจัดพื้นที่ใหม่ไว้ให้ที่โซน D นอกจากนี้ การบินไทยได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง 7 วัน เพื่อดูแลผู้โดยสารในกรณีหลงไปดอนเมือง
“หลังการย้ายเที่ยวบินภายในประเทศทั้งหมด มาให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองในช่วงเช้าที่ผ่านมานั้นพบว่ามีผู้โดยสารมาใช้บริการจำนวนมาก มีเคบินแฟคเตอร์ประมาณ 70-80% ถ้ามีเคบินแฟคเตอร์อยู่ในระดับนี้ต่อเนื่อง คาดว่าภายใน 6 เดือนก็น่าจะมีกำไรและลดภาระขาดทุนของการบินไทยได้”พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์กล่าว
พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ ยืนยันว่า มาตรการย้ายเที่ยวบินจากสนามบินดอนเมืองกลับสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นหนึ่งในแผนปรับปรุงธุรกิจ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้จริงปีละกว่า 600 ล้านบาท เพราะบริษัทสามารถใช้ฐานปฏิบัติการเพียงแห่งเดียว ส่งผลให้ลดการจ้างงานจากภายนอก (Outsource) ลง แต่ถ้าผลไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ฝ่ายบริหารก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ
นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบิน นกแอร์ กล่าวว่า หลังจากการบินไทยได้ย้ายเที่ยวบินจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทุกเที่ยวบินแล้ว ทำให้สายการบินนกแอร์ ต้องปรับกลยุทธ์ให้บริการผู้โดยสารใหม่ เพราะยังมีผู้โดยสารจำนวนมากต้องการใช้บริการที่ดอนเมืองเหมือนเดิม แต่ยอมรับว่ามีลูกค้าประจำของการบินไทยที่ต้องการขึ้นเครื่องกับการบินไทยย้ายตามไปสุวรรณภูมิด้วยเช่นกัน ดังนั้น เพื่อรองรับผู้โดยสารที่ยังต้องการเดินทางที่ดอนเมือง นกแอร์จึงเตรียมเพิ่มเที่ยวบินของนกแอร์ เป็น 30 เที่ยวบินต่อวัน จากเดิมให้บริการอยู่ 26 เที่ยวบินต่อวันในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะการเตรียมรองรับผู้โดยสารเดินทางช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ซึ่งต้องเที่ยวบินพิเศษเพิ่มเติมให้เพียงพอ
“ยอมรับว่าในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหา การวางแผนการเดินทางของประชาชนในขณะนี้ไม่ได้วางแผนไว้เป็นระยะยาว ซึ่งหากจะเดินทางแต่ละครั้งจะเริ่มตัดสินใจประมาณ 3-4 วัน ก่อนการสำรองที่นั่งเพื่อเดินทาง ดังนั้น สายการบินจึงต้องติดตามดูการสำรองที่นั่งของประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์นี้น่าจะมีผู้โดยสารเดินทางที่สนามบินดอนเมืองเป็นจำนวนมาก” นายพาที กล่าว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า บรรยากาศที่ท่าอากาศยานดอนเมืองขณะนี้ หลังจากการบินไทยได้ย้ายออกไปเริ่มมีจำนวนผู้โดยสารลดดลงบ้าง แต่ก็ยังพอมีผู้โดยสารเดินทาง เพราะมีสายการบินวันทูโกให้บริการอยู่ 14-16 เที่ยวบินต่อวัน สายการบินนกแอร์ 26 เที่ยวบินต่อวัน