ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นพี่สาวคนโตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งได้ถึงแก่กรรมโดยสงบเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2552
และต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่สามารถกลับมาร่วมงานศพของผู้เป็นพี่สาวได้ดังความปรารถนา
และต้องขอกล่าวกับคนทั้งปวงว่าคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร นั้นแม้เกิดในตระกูลชินวัตร แต่ก็มิได้เกี่ยวข้องใดๆ ในทางการเมืองเช่นเดียวกับคนในตระกูลชินวัตรอีกหลายคน เช่น พลเอกอุทัย ชินวัตร ขุนนางตงฉินของแผ่นดินอีกคนหนึ่ง เป็นต้น
ที่ต้องกล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่าได้รู้และเข้าใจความรู้สึกของผู้คนในตระกูลชินวัตรเป็นอย่างดีว่า ต่างก็มีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับความแตกแยกอันเป็นไปในบ้านเมืองขณะนี้ และผลกระทบนั้นก็กระทบถึงคนในตระกูลชินวัตรทุกคน เช่นเดียวกับที่กระทบถึงคนไทยทุกคนด้วย
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนในแผ่นดินนี้ รวมทั้งคุณทักษิณ ชินวัตร จะได้เข้าใจให้ตรงกันว่าเมื่อมีความแตกแยกแตกสามัคคีขึ้นในแผ่นดินแล้ว ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจก็ย่อมบังเกิดแก่คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนในตระกูลใด
เพราะเราอยู่ในแผ่นดินเดียวกัน อยู่ภายใต้ธงมหาราชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกัน สุขทุกข์ประการใดก็กระทบถึงกันไปหมด จึงไม่ใช่เรื่องที่จะยินดีในความทุกข์ของคนอื่น หรือเป็นทุกข์ในความสุขของคนอื่น
ทำไมคนไทยจึงต้องแตกแยกแตกสามัคคีกันเล่า?
การทั้งนั้นเกิดแต่การรับรู้ข้อมูลและการปลุกเร้าที่ต่างกัน ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในความรู้สึกนึกคิดเหินห่างไกลออกไปจากศูนย์รวมใจของไทยทั้งชาติ และเมื่อถือหลักแห่งความสามัคคีต่างกันก็เกิดแตกความสามัคคีกัน
แต่ไหนแต่ไรมาแผ่นดินไทยไม่เคยแตกแยกถึงปานนี้ เพราะเรามีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นร่มธงชัยให้คนไทยทุกคน คนไทยไม่ว่าอยู่แห่งหนตำบลไหนมีศูนย์รวมใจเดียวกัน มีหลักแห่งใจเดียวกัน จึงไม่มีวันแตกแยกแตกสามัคคีกัน
แต่การเมืองที่สามานย์ได้ทำให้คนไทยจำนวนหนึ่งเกิดไขว้เขวแล้วหันเหตนออกไปจากศูนย์รวมใจของไทยทั้งชาติไปยึดมั่นถือมั่นในหลักอื่น ดังนั้นเมื่อมีหลักแห่งความสามัคคีต่างกัน จึงเกิดแตกความสามัคคีกัน
เรื่องนี้คุณทักษิณ ชินวัตร จะต้องคิดให้มาก จะต้องใคร่ครวญโดยแยบคายว่ามีส่วนในความเป็นไปเหล่านี้หรือไม่เพียงใด หากคิดได้ใคร่ครวญถูกตรงก็จะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สนองคุณชาติบ้านเมือง เข้ามามีส่วนร่วมในการหยุดยั้งการแตกสามัคคีมิให้บานปลายจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง
ฟังเสียงคุณทักษิณจากสื่อที่ถ่ายทอดแล้วสะเทือนใจ เพราะคนเรานั้นเมื่อเกิดมาแล้วแม้มีความตายเป็นที่สุดเป็นธรรมดา แต่ก็เป็นวิสัยโลกที่ย่อมมีความทุกข์ มีความอาลัยในความพลัดพรากจากสิ่งที่รักหรือคนที่รัก
คุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร เป็นพี่สาวคนโตของครอบครัวคุณทักษิณ จัดเป็นพี่สาวที่เป็นพี่ใหญ่และเป็นร่มไทรของน้องๆ ตลอดมา ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับพี่น้องคนไหนทั้งนั้น จึงย่อมเป็นที่รักเคารพของคุณทักษิณด้วย แม้ว่าจะเป็นความรักที่ต่างกันกับความรักที่มีต่อน้องบางคน เช่น คุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็ตาม
คุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร จากไปในวัยอันไม่มากนัก เพราะด้วยอายุเพียง 62 ปี ซึ่งถือว่าอายุยังไม่มาก เพราะอายุเฉลี่ยของผู้หญิงในปัจจุบันนี้อยู่ที่ 70 ปี จึงอาจกล่าวได้ว่าตายก่อนวัยอันควรถึง 8 ปี
การตายของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ความจริงก็ไม่ควรเป็นข่าวโด่งดังเท่าใดนัก เพราะเป็นการตายของคนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งตัวของท่านเองก็ชอบความเรียบง่ายและสงบสุข แต่ที่มาดังกระหึ่มไปทั้งเมืองก็เพราะเป็นพี่ของคุณทักษิณซึ่งกำลังดังสนั่นประเทศไทย จึงพลอยดังตามไปด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าให้ความดังแบบนี้ผ่านไปเปล่าๆ เพราะเป็นความดังที่แสดงธรรมให้เห็นอยู่ในตัวเอง หากเห็นธรรมอันแสดงอยู่นั้นก็ย่อมยังประโยชน์และจะเป็นผลบุญกุศลถึงผู้ตายในสัมปรายภพ
การตายของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ก็เป็นประจักษ์พยานแห่งความเป็นจริงของโลกของชีวิตอีกครั้งหนึ่งว่า ชีวิตทั้งหลายมีความตายเป็นที่สุด เมื่อเกิดแล้วก็มีความแก่ มีความเจ็บ และมีความตายเป็นธรรมดา ไม่มีใครที่จะหลีกหนีความจริงนี้ไปได้
จะดิ้นรนไปอยู่ที่ไหนๆ ในโลกหรือในโรงแรมอันเลิศหรูหรือแม้ในขนำน้อยในทุ่งนาก็ไม่สามารถหลีกพ้นความตายไปได้เลย และเมื่อตายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้
คนอันเป็นที่รักไม่ว่าในครอบครัวหรือนอกครอบครัวออกไป ไม่ว่าจะรักกันถึงขั้นไหนๆ ดูดดื่มกันได้เพียงใด ก็ไม่มีใครตามไปด้วย คงจะต้องไปแต่โดดเดี่ยวเดียวดายทั้งสิ้น
ถึงจะมั่งมีศรีสุขประการใด ทรัพย์สิ่งศฤงคารทั้งปวงก็เอาสิ่งใดไปไม่ได้เลย ต้องทิ้งเอาไว้ข้างหลังทั้งสิ้น
ยศถาบรรดาศักดิ์ ชื่อเสียงเกียรติคุณทั้งหลายก็พาติดตัวไปไม่ได้ ล้วนต้องทิ้งไว้ข้างหลังทั้งสิ้น
ตายแล้วก็ไม่มีอะไรเหลือ อย่างมากก็เหลือเถ้ากระดูกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาจะเอาไปลอยแม่น้ำหรือทะเล หรือฝังไว้ในดิน ซึ่งไม่มีความหมาย ไม่มีคุณค่าอะไร
ชีวิตนี้จึงเป็นของไม่เที่ยง มีความเสื่อมสลายไปอย่างไม่หยุดยั้ง มีความดับสูญเป็นที่สุด ไม่มีสิ่งใดเป็นตัวตนของตน ตัวอย่างการตายของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ย่อมประจักษ์ความจริงดังกล่าวให้เห็นอย่างชัดเจน
คุณทักษิณและพี่น้องชินวัตรอื่นๆ ทุกคนก็ควรเห็นความจริงที่เกิดกับชีวิตของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ตามความเป็นจริงดังที่กล่าวมานี้ ส่วนคนอื่นๆ ที่อยู่นอกออกไปก็ย่อมเห็นความจริงเป็นแบบเดียวกันทั้งนั้น และความจริงอันนี้ย่อมมาถึงตัวของทุกคนในสักวันหนึ่ง ไม่เว้นให้กับใครทั้งสิ้น
ดังนั้นในโอกาสอย่างนี้จึงควรมีน้ำใจอนุโมทนาในธรรมอันคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ได้แสดงในวาระสุดท้ายของกายอันยาววาหนาคืบนี้ และควรเป็นอนุสติที่สำคัญให้กับคุณทักษิณในการอนุโมทนาในธรรมอันคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ได้แสดงให้เห็นประจักษ์นี้ด้วย
เพราะคุณทักษิณในวันนี้เวลาของชีวิตก็ผ่านไปมากแล้ว วัยย่างเข้า 60 ปีแล้ว น้อยกว่าอายุของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร เพียง 2 ปีเท่านั้น เป็นผู้ที่ความแก่เข้าครอบงำแล้ว และย่อมมีความเจ็บป่วยเข้าครอบงำบ้างเป็นครั้งเป็นคราวเป็นวาระตามควรแก่กรณี
ทั้งกำลังเดินไปสู่วาระสุดท้ายของชีวิตเหมือนกับทุกชีวิตที่เกิดมาแล้ว โดยเวลาที่ยังจะเดินกันต่อไปนั้นลองพิจารณาดูให้ดีเถิดก็จะเห็นชัดว่าช่างสั้นนัก และสั้นกว่าเวลาที่ผ่านมาแล้วหลายเท่า ที่สำคัญคือมันจะไปถึงที่หมายปลายทางในเวลาไหนก็ไม่รู้ หากเป็นนาฬิกาก็เป็นเวลาใกล้พลบแล้วไม่ใช่หรือ?
เมื่อเป็นอย่างนี้จะเอาอะไรกับชีวิตนี้นักหนาเล่า คำพูดที่ว่า “ทักษิณแพ้ไม่เป็น” ก็ดี “ทักษิณผิดไม่เป็น” ก็ดี ไม่ใช่คำพูดที่เป็นธรรมหรือเป็นความสัตย์แต่ประการใด หากเป็นเนื้อคำที่เป็นยาพิษอยู่ข้างใน แต่อาจเป็นเครื่องชะโลมใจได้บางครั้งบางคราว โดยพิษร้ายจะแทรกซึมซ่านเกาะกุมหัวใจจนเกิดอันตรายอย่างร้ายแรงได้ทุกเมื่อ
คนแพ้ไม่เป็นกับคนที่ผิดไม่เป็นนั้นไม่ใช่คนดอก คนเราเกิดมาแล้วย่อมมีแพ้มีชนะ ย่อมมีผิดมีถูก แพ้แล้วก็เพียรแก้ใหม่ ทำสิ่งใหม่ที่ดีที่งาม และเป็นประโยชน์ ผิดแล้วก็ทำใหม่ในสิ่งที่ถูก ความถูกต้องก็จะบังเกิดขึ้น
ไม่ว่าใครทั้งนั้นหากแพ้ไม่เป็นหรือผิดไม่เป็นก็ย่อมไม่ใช่คน เพราะถ้าใครมีความยึดมั่นถือมั่นอย่างนี้ย่อมเป็นความยึดมั่นถือมั่นที่วิปริต ซึ่งเป็นเถยจิตของคนบ้า และไม่มีคุณค่าทางความเป็นจริงใดๆ เลย
อันคนเรานั้นหากใจทรงไว้ซึ่งอุเบกขาธรรมก็ไม่มีวันพ่ายแพ้ ก็แลเมื่อไม่ปรารถนาชัยชนะแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะพ่ายแพ้ได้ และใครจะทำให้พ่ายแพ้ก็ไม่ได้ด้วย ความพ่ายแพ้จะมีขึ้นก็เฉพาะผู้ปรารถนาความชนะเท่านั้น ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ใจวางเฉยต่อความแพ้แลชนะแล้ว เมื่อนั้นความแพ้ก็จะไม่กล้ำกรายอีกเลย
เช่นเดียวกัน หากมีสติบริสุทธิ์ตั้งมั่นด้วยดี ความผิดความถูกก็ไม่มีคุณค่าหรือความหมายใดๆ เพราะผิดถูกนั้นเป็นแค่สิ่งสมมติขึ้นในกาลเวลาหนึ่งๆ สมมติขึ้นสำหรับคนที่มีความยึดมั่นถือมั่นในความไร้แก่นสารและเป็นตัวตั้งแห่งทุกข์เท่านั้น
จึงพึงตั้งสติให้บริสุทธิ์ ให้ตั้งมั่น ให้มีความเอื้อเฟื้อเมตตาต่อเพื่อนผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายทั้งหลาย รวมทั้งตัวเองด้วย ดังนี้แล้วก็จะอยู่เหนือความถูกความผิด และไม่ตกเป็นทาสของความถูกความผิดหรือความแพ้ชนะอีกต่อไป
ความตายของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร เป็นเหตุปรารภการแสดงธรรมดังพรรณนามานี้ ย่อมยังประโยชน์แก่ผู้ที่มีน้ำใจใฝ่ธรรม และเห็นความจริงแห่งธรรมอันประจักษ์อยู่เบื้องหน้าสายตาตนเป็นแน่แท้.
และต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่สามารถกลับมาร่วมงานศพของผู้เป็นพี่สาวได้ดังความปรารถนา
และต้องขอกล่าวกับคนทั้งปวงว่าคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร นั้นแม้เกิดในตระกูลชินวัตร แต่ก็มิได้เกี่ยวข้องใดๆ ในทางการเมืองเช่นเดียวกับคนในตระกูลชินวัตรอีกหลายคน เช่น พลเอกอุทัย ชินวัตร ขุนนางตงฉินของแผ่นดินอีกคนหนึ่ง เป็นต้น
ที่ต้องกล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่าได้รู้และเข้าใจความรู้สึกของผู้คนในตระกูลชินวัตรเป็นอย่างดีว่า ต่างก็มีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับความแตกแยกอันเป็นไปในบ้านเมืองขณะนี้ และผลกระทบนั้นก็กระทบถึงคนในตระกูลชินวัตรทุกคน เช่นเดียวกับที่กระทบถึงคนไทยทุกคนด้วย
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนในแผ่นดินนี้ รวมทั้งคุณทักษิณ ชินวัตร จะได้เข้าใจให้ตรงกันว่าเมื่อมีความแตกแยกแตกสามัคคีขึ้นในแผ่นดินแล้ว ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจก็ย่อมบังเกิดแก่คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนในตระกูลใด
เพราะเราอยู่ในแผ่นดินเดียวกัน อยู่ภายใต้ธงมหาราชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกัน สุขทุกข์ประการใดก็กระทบถึงกันไปหมด จึงไม่ใช่เรื่องที่จะยินดีในความทุกข์ของคนอื่น หรือเป็นทุกข์ในความสุขของคนอื่น
ทำไมคนไทยจึงต้องแตกแยกแตกสามัคคีกันเล่า?
การทั้งนั้นเกิดแต่การรับรู้ข้อมูลและการปลุกเร้าที่ต่างกัน ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในความรู้สึกนึกคิดเหินห่างไกลออกไปจากศูนย์รวมใจของไทยทั้งชาติ และเมื่อถือหลักแห่งความสามัคคีต่างกันก็เกิดแตกความสามัคคีกัน
แต่ไหนแต่ไรมาแผ่นดินไทยไม่เคยแตกแยกถึงปานนี้ เพราะเรามีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นร่มธงชัยให้คนไทยทุกคน คนไทยไม่ว่าอยู่แห่งหนตำบลไหนมีศูนย์รวมใจเดียวกัน มีหลักแห่งใจเดียวกัน จึงไม่มีวันแตกแยกแตกสามัคคีกัน
แต่การเมืองที่สามานย์ได้ทำให้คนไทยจำนวนหนึ่งเกิดไขว้เขวแล้วหันเหตนออกไปจากศูนย์รวมใจของไทยทั้งชาติไปยึดมั่นถือมั่นในหลักอื่น ดังนั้นเมื่อมีหลักแห่งความสามัคคีต่างกัน จึงเกิดแตกความสามัคคีกัน
เรื่องนี้คุณทักษิณ ชินวัตร จะต้องคิดให้มาก จะต้องใคร่ครวญโดยแยบคายว่ามีส่วนในความเป็นไปเหล่านี้หรือไม่เพียงใด หากคิดได้ใคร่ครวญถูกตรงก็จะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สนองคุณชาติบ้านเมือง เข้ามามีส่วนร่วมในการหยุดยั้งการแตกสามัคคีมิให้บานปลายจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง
ฟังเสียงคุณทักษิณจากสื่อที่ถ่ายทอดแล้วสะเทือนใจ เพราะคนเรานั้นเมื่อเกิดมาแล้วแม้มีความตายเป็นที่สุดเป็นธรรมดา แต่ก็เป็นวิสัยโลกที่ย่อมมีความทุกข์ มีความอาลัยในความพลัดพรากจากสิ่งที่รักหรือคนที่รัก
คุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร เป็นพี่สาวคนโตของครอบครัวคุณทักษิณ จัดเป็นพี่สาวที่เป็นพี่ใหญ่และเป็นร่มไทรของน้องๆ ตลอดมา ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับพี่น้องคนไหนทั้งนั้น จึงย่อมเป็นที่รักเคารพของคุณทักษิณด้วย แม้ว่าจะเป็นความรักที่ต่างกันกับความรักที่มีต่อน้องบางคน เช่น คุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็ตาม
คุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร จากไปในวัยอันไม่มากนัก เพราะด้วยอายุเพียง 62 ปี ซึ่งถือว่าอายุยังไม่มาก เพราะอายุเฉลี่ยของผู้หญิงในปัจจุบันนี้อยู่ที่ 70 ปี จึงอาจกล่าวได้ว่าตายก่อนวัยอันควรถึง 8 ปี
การตายของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ความจริงก็ไม่ควรเป็นข่าวโด่งดังเท่าใดนัก เพราะเป็นการตายของคนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งตัวของท่านเองก็ชอบความเรียบง่ายและสงบสุข แต่ที่มาดังกระหึ่มไปทั้งเมืองก็เพราะเป็นพี่ของคุณทักษิณซึ่งกำลังดังสนั่นประเทศไทย จึงพลอยดังตามไปด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าให้ความดังแบบนี้ผ่านไปเปล่าๆ เพราะเป็นความดังที่แสดงธรรมให้เห็นอยู่ในตัวเอง หากเห็นธรรมอันแสดงอยู่นั้นก็ย่อมยังประโยชน์และจะเป็นผลบุญกุศลถึงผู้ตายในสัมปรายภพ
การตายของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ก็เป็นประจักษ์พยานแห่งความเป็นจริงของโลกของชีวิตอีกครั้งหนึ่งว่า ชีวิตทั้งหลายมีความตายเป็นที่สุด เมื่อเกิดแล้วก็มีความแก่ มีความเจ็บ และมีความตายเป็นธรรมดา ไม่มีใครที่จะหลีกหนีความจริงนี้ไปได้
จะดิ้นรนไปอยู่ที่ไหนๆ ในโลกหรือในโรงแรมอันเลิศหรูหรือแม้ในขนำน้อยในทุ่งนาก็ไม่สามารถหลีกพ้นความตายไปได้เลย และเมื่อตายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้
คนอันเป็นที่รักไม่ว่าในครอบครัวหรือนอกครอบครัวออกไป ไม่ว่าจะรักกันถึงขั้นไหนๆ ดูดดื่มกันได้เพียงใด ก็ไม่มีใครตามไปด้วย คงจะต้องไปแต่โดดเดี่ยวเดียวดายทั้งสิ้น
ถึงจะมั่งมีศรีสุขประการใด ทรัพย์สิ่งศฤงคารทั้งปวงก็เอาสิ่งใดไปไม่ได้เลย ต้องทิ้งเอาไว้ข้างหลังทั้งสิ้น
ยศถาบรรดาศักดิ์ ชื่อเสียงเกียรติคุณทั้งหลายก็พาติดตัวไปไม่ได้ ล้วนต้องทิ้งไว้ข้างหลังทั้งสิ้น
ตายแล้วก็ไม่มีอะไรเหลือ อย่างมากก็เหลือเถ้ากระดูกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาจะเอาไปลอยแม่น้ำหรือทะเล หรือฝังไว้ในดิน ซึ่งไม่มีความหมาย ไม่มีคุณค่าอะไร
ชีวิตนี้จึงเป็นของไม่เที่ยง มีความเสื่อมสลายไปอย่างไม่หยุดยั้ง มีความดับสูญเป็นที่สุด ไม่มีสิ่งใดเป็นตัวตนของตน ตัวอย่างการตายของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ย่อมประจักษ์ความจริงดังกล่าวให้เห็นอย่างชัดเจน
คุณทักษิณและพี่น้องชินวัตรอื่นๆ ทุกคนก็ควรเห็นความจริงที่เกิดกับชีวิตของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ตามความเป็นจริงดังที่กล่าวมานี้ ส่วนคนอื่นๆ ที่อยู่นอกออกไปก็ย่อมเห็นความจริงเป็นแบบเดียวกันทั้งนั้น และความจริงอันนี้ย่อมมาถึงตัวของทุกคนในสักวันหนึ่ง ไม่เว้นให้กับใครทั้งสิ้น
ดังนั้นในโอกาสอย่างนี้จึงควรมีน้ำใจอนุโมทนาในธรรมอันคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ได้แสดงในวาระสุดท้ายของกายอันยาววาหนาคืบนี้ และควรเป็นอนุสติที่สำคัญให้กับคุณทักษิณในการอนุโมทนาในธรรมอันคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร ได้แสดงให้เห็นประจักษ์นี้ด้วย
เพราะคุณทักษิณในวันนี้เวลาของชีวิตก็ผ่านไปมากแล้ว วัยย่างเข้า 60 ปีแล้ว น้อยกว่าอายุของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร เพียง 2 ปีเท่านั้น เป็นผู้ที่ความแก่เข้าครอบงำแล้ว และย่อมมีความเจ็บป่วยเข้าครอบงำบ้างเป็นครั้งเป็นคราวเป็นวาระตามควรแก่กรณี
ทั้งกำลังเดินไปสู่วาระสุดท้ายของชีวิตเหมือนกับทุกชีวิตที่เกิดมาแล้ว โดยเวลาที่ยังจะเดินกันต่อไปนั้นลองพิจารณาดูให้ดีเถิดก็จะเห็นชัดว่าช่างสั้นนัก และสั้นกว่าเวลาที่ผ่านมาแล้วหลายเท่า ที่สำคัญคือมันจะไปถึงที่หมายปลายทางในเวลาไหนก็ไม่รู้ หากเป็นนาฬิกาก็เป็นเวลาใกล้พลบแล้วไม่ใช่หรือ?
เมื่อเป็นอย่างนี้จะเอาอะไรกับชีวิตนี้นักหนาเล่า คำพูดที่ว่า “ทักษิณแพ้ไม่เป็น” ก็ดี “ทักษิณผิดไม่เป็น” ก็ดี ไม่ใช่คำพูดที่เป็นธรรมหรือเป็นความสัตย์แต่ประการใด หากเป็นเนื้อคำที่เป็นยาพิษอยู่ข้างใน แต่อาจเป็นเครื่องชะโลมใจได้บางครั้งบางคราว โดยพิษร้ายจะแทรกซึมซ่านเกาะกุมหัวใจจนเกิดอันตรายอย่างร้ายแรงได้ทุกเมื่อ
คนแพ้ไม่เป็นกับคนที่ผิดไม่เป็นนั้นไม่ใช่คนดอก คนเราเกิดมาแล้วย่อมมีแพ้มีชนะ ย่อมมีผิดมีถูก แพ้แล้วก็เพียรแก้ใหม่ ทำสิ่งใหม่ที่ดีที่งาม และเป็นประโยชน์ ผิดแล้วก็ทำใหม่ในสิ่งที่ถูก ความถูกต้องก็จะบังเกิดขึ้น
ไม่ว่าใครทั้งนั้นหากแพ้ไม่เป็นหรือผิดไม่เป็นก็ย่อมไม่ใช่คน เพราะถ้าใครมีความยึดมั่นถือมั่นอย่างนี้ย่อมเป็นความยึดมั่นถือมั่นที่วิปริต ซึ่งเป็นเถยจิตของคนบ้า และไม่มีคุณค่าทางความเป็นจริงใดๆ เลย
อันคนเรานั้นหากใจทรงไว้ซึ่งอุเบกขาธรรมก็ไม่มีวันพ่ายแพ้ ก็แลเมื่อไม่ปรารถนาชัยชนะแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะพ่ายแพ้ได้ และใครจะทำให้พ่ายแพ้ก็ไม่ได้ด้วย ความพ่ายแพ้จะมีขึ้นก็เฉพาะผู้ปรารถนาความชนะเท่านั้น ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ใจวางเฉยต่อความแพ้แลชนะแล้ว เมื่อนั้นความแพ้ก็จะไม่กล้ำกรายอีกเลย
เช่นเดียวกัน หากมีสติบริสุทธิ์ตั้งมั่นด้วยดี ความผิดความถูกก็ไม่มีคุณค่าหรือความหมายใดๆ เพราะผิดถูกนั้นเป็นแค่สิ่งสมมติขึ้นในกาลเวลาหนึ่งๆ สมมติขึ้นสำหรับคนที่มีความยึดมั่นถือมั่นในความไร้แก่นสารและเป็นตัวตั้งแห่งทุกข์เท่านั้น
จึงพึงตั้งสติให้บริสุทธิ์ ให้ตั้งมั่น ให้มีความเอื้อเฟื้อเมตตาต่อเพื่อนผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายทั้งหลาย รวมทั้งตัวเองด้วย ดังนี้แล้วก็จะอยู่เหนือความถูกความผิด และไม่ตกเป็นทาสของความถูกความผิดหรือความแพ้ชนะอีกต่อไป
ความตายของคุณเยาวลักษณ์ ชินวัตร เป็นเหตุปรารภการแสดงธรรมดังพรรณนามานี้ ย่อมยังประโยชน์แก่ผู้ที่มีน้ำใจใฝ่ธรรม และเห็นความจริงแห่งธรรมอันประจักษ์อยู่เบื้องหน้าสายตาตนเป็นแน่แท้.
