00 หลายคนกำลังรอดูกันว่า การเคลื่อนพลในวันนี้ (26 มี.ค.) ของ “คนเสื้อแดง” ภายใต้บัญชาการของ นักโทษที่หลบหนีคดีอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” จะมีพลังมากน้อยแค่ไหน และจะปักหลักยืดเยื้อได้นานวันได้หรือไม่ แต่ถ้าให้เดาล่วงหน้าจุดที่ “พีค” สูงสุดน่าจะเป็นวันศุกร์-เสาร์ ที่ 27-28 มี.ค. หลังจากนั้นก็น่าจะค่อยๆฝ่อลงตามลำดับ
00 ดังนั้นก็ต้องจับตาสถานการณ์ภายในช่วงเวลาดังกล่าวว่าจะมีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ ถ้าโชคดีวางแผน “ตั้งรับ”ได้ดี ใช้อ่อนสยบแข็ง ไม่เล่นตามเกมของ“ทักษิณ” หากผ่านสอง สามวันอันตรายนี้ไปได้ รัฐบาลก็น่าปลอดโปร่งไปได้อีกพักใหญ่
00 สาเหตุสำคัญก็คือตามหลักจิตวิทยามวลชนแล้ว การชุมนุมจะคึกคักในช่วงวันสองวันแรก หากไม่มีเงื่อนไขใหม่ที่ยั่วยุให้คนเข้าร่วมมากขึ้น ก็จะเกิดแรงกดดันสะท้อนกลับที่เห็นได้ชัดก็มีทั้งในเรื่องของสภาพจราจร ที่คนในกรุงเทพฯ ที่ปิดหูปิดตามักไม่ชอบรถติด คงได้ด่ากันขรมแน่
00 อีกทั้งในช่วงนี้เป็นช่วงงานกาชาด ก็จะกระทบกับความไม่สะดวกกับชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของ และอาจทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้า นอกจากนี้คนที่เข้าร่วมชุมนุมส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัดก็ต้องเดินทางกลับบ้าน จะอยู่นานหลายวันไม่ได้ ดังนั้นการที่แกนนำ“หัวขวด” บอกว่าจะปักหลักยืดเยื้อก็ไม่น่าเป็นไปได้
00 มองในฟากรัฐบาลนาทีนี้ไม่อยากพูดให้เสียน้ำลาย เพราะรู้สึกเซ็งเต็มทีกับวิธีการต่อกร กับ “เครือข่ายแม้ว” ทำเหมือนไม่เข้าใจว่า “เป้าหมาย” สูงสุดของคนเหล่านี้อยู่ที่ไหน คงไม่ใช่แค่รัฐบาล หรือองคมนตรีแล้ว แต่“เหนือ”ไปกว่านั้น ขนาดนายกฯยังบอกเองว่าเคยเห็น “แผนตากสิน” หรือ แผน “TAKSIN” ด้วยตามาแล้ว แต่กลับไม่มีการขยายผล “ย้อนศร”กับคนเสื้อแดงเอาบ้าง ว่าแผนที่ว่านั้นเป้าหมายคือโค่นล้ม “สถาบันเบื้องสูง” !!
00 ดังนั้นจึงอยากถามว่า คนไทยยังจะยอมรับได้อยู่อีกหรือ และอยากรู้นักว่าบรรดาคนเสื้อแดงทั้งหลายที่อุตส่าห์ตากแดดตากฝน หาเช้ากินค่ำออกมาต่อสู้ให้กับ“เศรษฐีแสนล้าน” ที่มีข้อกล่าวหาว่าทุจริตสารพัด และศาลก็ได้ตัดสินลงโทษจำคุกไปแล้ว และศาลที่ว่านี่ก็คือ ศาลยุติธรรม ไม่ใช่ “ศาลเตี้ย” สักหน่อย
00 ไม่เข้าใจว่าคนอย่าง“สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” คิดอะไรอยู่ ไม่กล้าใช้ความกล้าหาญใช้สื่อของรัฐชี้แจงความเป็นจริง (ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ) เพราะจะใช้วิธีสื่อมาสื่อไป ให้ชาวบ้านใช้วิจารณญาณเองมันใช้ไม่ได้ และที่ผ่านมา “เสี่ยแม้ว” ใช้วิธีเหลี่ยมจัด เป่าหูรากหญ้าอยู่ข้างเดียว แถมยังมีขบวนการปล่อยข่าวลือสารพัดจน “เกลียด” ฝังใจ
00 ดังนั้นก็ต้องจับตาสถานการณ์ภายในช่วงเวลาดังกล่าวว่าจะมีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ ถ้าโชคดีวางแผน “ตั้งรับ”ได้ดี ใช้อ่อนสยบแข็ง ไม่เล่นตามเกมของ“ทักษิณ” หากผ่านสอง สามวันอันตรายนี้ไปได้ รัฐบาลก็น่าปลอดโปร่งไปได้อีกพักใหญ่
00 สาเหตุสำคัญก็คือตามหลักจิตวิทยามวลชนแล้ว การชุมนุมจะคึกคักในช่วงวันสองวันแรก หากไม่มีเงื่อนไขใหม่ที่ยั่วยุให้คนเข้าร่วมมากขึ้น ก็จะเกิดแรงกดดันสะท้อนกลับที่เห็นได้ชัดก็มีทั้งในเรื่องของสภาพจราจร ที่คนในกรุงเทพฯ ที่ปิดหูปิดตามักไม่ชอบรถติด คงได้ด่ากันขรมแน่
00 อีกทั้งในช่วงนี้เป็นช่วงงานกาชาด ก็จะกระทบกับความไม่สะดวกกับชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของ และอาจทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้า นอกจากนี้คนที่เข้าร่วมชุมนุมส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัดก็ต้องเดินทางกลับบ้าน จะอยู่นานหลายวันไม่ได้ ดังนั้นการที่แกนนำ“หัวขวด” บอกว่าจะปักหลักยืดเยื้อก็ไม่น่าเป็นไปได้
00 มองในฟากรัฐบาลนาทีนี้ไม่อยากพูดให้เสียน้ำลาย เพราะรู้สึกเซ็งเต็มทีกับวิธีการต่อกร กับ “เครือข่ายแม้ว” ทำเหมือนไม่เข้าใจว่า “เป้าหมาย” สูงสุดของคนเหล่านี้อยู่ที่ไหน คงไม่ใช่แค่รัฐบาล หรือองคมนตรีแล้ว แต่“เหนือ”ไปกว่านั้น ขนาดนายกฯยังบอกเองว่าเคยเห็น “แผนตากสิน” หรือ แผน “TAKSIN” ด้วยตามาแล้ว แต่กลับไม่มีการขยายผล “ย้อนศร”กับคนเสื้อแดงเอาบ้าง ว่าแผนที่ว่านั้นเป้าหมายคือโค่นล้ม “สถาบันเบื้องสูง” !!
00 ดังนั้นจึงอยากถามว่า คนไทยยังจะยอมรับได้อยู่อีกหรือ และอยากรู้นักว่าบรรดาคนเสื้อแดงทั้งหลายที่อุตส่าห์ตากแดดตากฝน หาเช้ากินค่ำออกมาต่อสู้ให้กับ“เศรษฐีแสนล้าน” ที่มีข้อกล่าวหาว่าทุจริตสารพัด และศาลก็ได้ตัดสินลงโทษจำคุกไปแล้ว และศาลที่ว่านี่ก็คือ ศาลยุติธรรม ไม่ใช่ “ศาลเตี้ย” สักหน่อย
00 ไม่เข้าใจว่าคนอย่าง“สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” คิดอะไรอยู่ ไม่กล้าใช้ความกล้าหาญใช้สื่อของรัฐชี้แจงความเป็นจริง (ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ) เพราะจะใช้วิธีสื่อมาสื่อไป ให้ชาวบ้านใช้วิจารณญาณเองมันใช้ไม่ได้ และที่ผ่านมา “เสี่ยแม้ว” ใช้วิธีเหลี่ยมจัด เป่าหูรากหญ้าอยู่ข้างเดียว แถมยังมีขบวนการปล่อยข่าวลือสารพัดจน “เกลียด” ฝังใจ