xs
xsm
sm
md
lg

“วิชา” ขยายผลสอบ 7 ต.ค.ทมิฬ ชี้อานุภาพและวิถีการยิง หวังเข่นฆ่า ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิชา มหาคุณ
ป.ป.ช.ยืนยันจะต้องมีรับผิดชอบในเหตุการณ์ 7 ตุลาทมิฬเพิ่ม เหตุสลายการชุมนุมไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐาน ป้องกันข้อครหาเป็นศาลเตี้ย ยอมรับอานุภาพแก๊สน้ำตาและวิถีการยิง หวังผลเข่นฆ่าประชาชนจริง

วันนี้ (23 มี.ค.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้รับผิดชอบสำนวนการไต่สวน คดีการสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 กล่าวถึงความคืบหน้าของ คดีระหว่างการเป็นวิทยากรในการอบรมเชิงปฎิบัติการเรื่อง “การมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของประชาชนและสื่อมวลชน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ว่า การไต่สวนคดีนี้ คงจะให้รวดเร็วตามที่หลายฝ่ายและกระแสสังคม เรียกร้องไม่ได้เพราะการตรวจสอบต้องเป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งถ้าหากเร่งสรุปสำนวนคดีโดยขาดข้อเท็จจริงบางประการ ทำแบบนั้นนเรียกว่าศาลเตี้ย

นายวิชา กล่าวว่า ตอนนี้ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 7 คนไปเรียบร้อยแล้ว โดยจะให้ทุกคนมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 27 และ 30 มี.ค.นี้ หลังจากนั้น ก็ต้องมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ส่วนการดำเนินการในตอนนี้คณะทำงานของ ป.ป.ช.ได้รับข้อมูลทางวิชาการที่เกี่ยวข้องหลายประการจากผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะเรื่องการใช้แก๊สน้ำตา เพราะผู้เชี่ยวชาญที่ได้มาให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช.นั้น ระบุว่า แก๊สน้ำตาไม่มีอานุภาพ ทำให้คนต้องประสบกับความบาดเจ็บถึงขั้นขาขาด จึงสงสัยว่าแก๊สน้ำตาที่ตำรวจใช้ในวันนั้น ทำไมถึงทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บถึงขนาดนี้

กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวว่า เช่นเดียวกับวิถีการยิงผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อมูล ว่า การยิงที่ถูกวิธีต้องเป็นลักษณะของการยิงแบบวิถีโค้ง เพื่อป้องกันฝูงชนได้รับบาดเจ็บจากการใช้แก๊สน้ำตาโดยตรง แต่ปรากฏว่า ในวันนั้น มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าการยิงแก๊สน้ำตาในกรณีนี้ ไม่ใช่แบบวิถีโค้ง ซึ่งทั้งหมดในเรื่องนี้ต้องมีผู้ที่ต้องรับผิดชอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น