วานนี้ ( 25 มี.ค.) นายเชาวนะ ไตรมาศ รองเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงถึงการพิจารณาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้อภิปรายดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญว่า ตามที่ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 20 มี.ค. กรณีการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยได้อภิปรายความตอนหนึ่งว่า
"...สุดท้ายนี้ค่ะ ต้องเรียนต่อท่านประธานว่า วันนี้ที่ดิฉันมาอยู่พรรคเพื่อไทย เพราะว่าอดีตพรรคของดิฉันต้องถูกยุบไป ถูกศาลทางรัฐธรรมนูญกลั่นแกล้ง แต่มาถึงวันนี้ ดิฉันและพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ต้องขอฝากขอบคุณไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ที่ยุบพรรคพลังประชาชนไป...” โดยมีการถ่ายทอดภาพ และเสียงผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย หรือ สถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภาไปทั่วประเทศ
นายเชาวนะกล่าวว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญในฐานะหน่วยธุรการของศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเห็นว่า การกล่าวข้อความดังกล่าวต่อที่ประชุมสภาฯ โดยมีการถ่ายทอดภาพและเสียงให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับชมและรับฟัง ย่อมทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า การพิจารณาวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ตามคำวินิจฉัยที่ 20/2551 ในเรื่องที่อัยการสูงสุดขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชน เป็นการกลั่นแกล้งที่ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นตามรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
"ถ้อยคำดังกล่าว ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญถูกดูหมิ่น เกลียดชัง จึงได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษขอให้พนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง ดำเนินคดีกับ น.ส.วิสาระดี ในความผิดดูหมิ่นศาล หรือผู้พิพากษา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 และฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานที่กระทำตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา136 เพื่อพิทักษ์รักษาศักดิ์สิทธิ์ขององค์กร และสถาบันศาลไม่ให้ถูกละเมิด แต่ในทางส่วนตัวยังไม่มีตุลาการคนใด แสดงความประสงค์จะเอาความ จึงไม่มีการแจ้งความในความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นด้วยการโฆษณา" นายเชาวนะกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการแจ้งความครั้งนี้ ตุลาการรับทราบและเห็นชอบด้วยหรือไม่ นายเชาวนะ กล่าวว่า เป็นการดำเนินการของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการทั้ง 9 คน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จะรับรู้การดำเนินคดีหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่ขอยืนยันว่าเป็นการดำเนินการโดยไม่ได้มีจิตใจอาฆาตมาดร้ายใคร เพียงแต่เมื่อเห็นว่าสถาบันศาลรัฐธรรมนูญ เป็นสถาบันสำคัญสถาบันหนึ่งของชาติ ก็ต้องดำเนินการพิทักษ์ปกป้องความเป็นสถาบันเอาไว้
เมื่อถามว่ากรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยพูดในต่างกรรม ต่างวาระโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ นายเชาวนะ กล่าวว่ายังไม่มีข้อมูลในส่วนนั้น แต่การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาลโดยสุจริตใจ หรือแสดงความเห็นเชิงวิชาการ ก็สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าหากน.ส.วิสาระดี แสดงความเสียใจ และขอโทษ ทางสำนักงานจะถอนฟ้องหรือไม่ นายเชาวนะ กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลานั้น จึงไม่สามารถตอบได้ แต่ในฐานะที่สำนักงานศาลเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี หน้าที่ต่อไปก็เป็นของเจ้าพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป คงไม่ย้อนกลับมาที่สำนักงานศาลอีก และความผิดกรณีดังกล่าว เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน
เมื่อถามว่าต่อไปผู้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องนำกรณีนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ใช่หรือไม่ นายเชาวนะ กล่าวว่า การแสดงความเห็นเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะดำเนินการได้ สำนักงานศาลจะไม่ดำเนินการใดๆในลักษณะที่ลิดรอนสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญของประชาชน
ด้านน.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขอดูรายละเอียดในการยื่นฟ้องก่อน ซึ่งจะให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องคดี ส่วนตัวเห็นว่าส.ส.หลายคนก็พูดมาก่อนหน้านี้แล้วไม่เห็นเป็นไร จึงแปลกใจว่าเหตุใดเมื่อตนพูด กลับจะมีการดำเนินคดี
"...สุดท้ายนี้ค่ะ ต้องเรียนต่อท่านประธานว่า วันนี้ที่ดิฉันมาอยู่พรรคเพื่อไทย เพราะว่าอดีตพรรคของดิฉันต้องถูกยุบไป ถูกศาลทางรัฐธรรมนูญกลั่นแกล้ง แต่มาถึงวันนี้ ดิฉันและพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ต้องขอฝากขอบคุณไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ที่ยุบพรรคพลังประชาชนไป...” โดยมีการถ่ายทอดภาพ และเสียงผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย หรือ สถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภาไปทั่วประเทศ
นายเชาวนะกล่าวว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญในฐานะหน่วยธุรการของศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเห็นว่า การกล่าวข้อความดังกล่าวต่อที่ประชุมสภาฯ โดยมีการถ่ายทอดภาพและเสียงให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับชมและรับฟัง ย่อมทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า การพิจารณาวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ตามคำวินิจฉัยที่ 20/2551 ในเรื่องที่อัยการสูงสุดขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชน เป็นการกลั่นแกล้งที่ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นตามรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
"ถ้อยคำดังกล่าว ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญถูกดูหมิ่น เกลียดชัง จึงได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษขอให้พนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง ดำเนินคดีกับ น.ส.วิสาระดี ในความผิดดูหมิ่นศาล หรือผู้พิพากษา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 และฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานที่กระทำตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา136 เพื่อพิทักษ์รักษาศักดิ์สิทธิ์ขององค์กร และสถาบันศาลไม่ให้ถูกละเมิด แต่ในทางส่วนตัวยังไม่มีตุลาการคนใด แสดงความประสงค์จะเอาความ จึงไม่มีการแจ้งความในความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นด้วยการโฆษณา" นายเชาวนะกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการแจ้งความครั้งนี้ ตุลาการรับทราบและเห็นชอบด้วยหรือไม่ นายเชาวนะ กล่าวว่า เป็นการดำเนินการของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการทั้ง 9 คน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จะรับรู้การดำเนินคดีหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่ขอยืนยันว่าเป็นการดำเนินการโดยไม่ได้มีจิตใจอาฆาตมาดร้ายใคร เพียงแต่เมื่อเห็นว่าสถาบันศาลรัฐธรรมนูญ เป็นสถาบันสำคัญสถาบันหนึ่งของชาติ ก็ต้องดำเนินการพิทักษ์ปกป้องความเป็นสถาบันเอาไว้
เมื่อถามว่ากรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยพูดในต่างกรรม ต่างวาระโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ นายเชาวนะ กล่าวว่ายังไม่มีข้อมูลในส่วนนั้น แต่การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาลโดยสุจริตใจ หรือแสดงความเห็นเชิงวิชาการ ก็สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าหากน.ส.วิสาระดี แสดงความเสียใจ และขอโทษ ทางสำนักงานจะถอนฟ้องหรือไม่ นายเชาวนะ กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลานั้น จึงไม่สามารถตอบได้ แต่ในฐานะที่สำนักงานศาลเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี หน้าที่ต่อไปก็เป็นของเจ้าพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป คงไม่ย้อนกลับมาที่สำนักงานศาลอีก และความผิดกรณีดังกล่าว เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน
เมื่อถามว่าต่อไปผู้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องนำกรณีนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ใช่หรือไม่ นายเชาวนะ กล่าวว่า การแสดงความเห็นเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะดำเนินการได้ สำนักงานศาลจะไม่ดำเนินการใดๆในลักษณะที่ลิดรอนสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญของประชาชน
ด้านน.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขอดูรายละเอียดในการยื่นฟ้องก่อน ซึ่งจะให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องคดี ส่วนตัวเห็นว่าส.ส.หลายคนก็พูดมาก่อนหน้านี้แล้วไม่เห็นเป็นไร จึงแปลกใจว่าเหตุใดเมื่อตนพูด กลับจะมีการดำเนินคดี