xs
xsm
sm
md
lg

“ฟูจิ”ปรับโมเดลธุรกิจสู้สร้าง3ขาหลักรับฟิล์มร่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “ฟูจิ” รื้อโมเดลธุรกิจใหม่ รับเศรษฐกิจแย่ ตลาดฟิล์มรวมวูบหนักเหลือแค่ 2 ล้านม้วนต่อปี ชู 3 ขาหลักสร้างรายได้ เผยคาดรายได้รวมปี 2552 ไม่โต พร้อมลุยกล้องจิจิตอลหนักหวังเพิ่มแชร์เป็น 15%
นายมนัส กนกภัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยสภาพปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น รวมทั้งตลาดฟิล์มที่หดตัวลงอย่างหนักกว่าที่คาดการณ์ไว้คือ เดิมช่วงปี 2540 ตลาดฟิล์มรวมกัน 23 ล้านม้วนแต่พอเกิดวิกฤติช่วงปี 2540 ตลาดลดลง 50% และเหลือแค่ 2 ล้านม้วนในปีนี้ ทำให้บริษัทฯต้องปรับโมเดลการทำธุรกิจใหม่
โดยโมเดลใหม่ แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักคือ 1.กลุ่มธุรกิจการให้บริการ เช่น ขายเครื่องมือแพทย์ สัดส่วนรายได้ขณะนี้ 20% 2.กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเทคโนโลยีสูง สัดส่วนรายได้ 30% 3.กลุ่ม คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ สัดส่วนรายได้ 50%
นายมนัสกล่าวว่า สาเหตุของการปรับโมเดลใหม่ ก็เพื่อให้มีความชัดเจนในการทำธุรกิจและสามารถพัฒนาระบบรวมทั้งสินค้า และช่องทางการจำหน่ายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ว่า ตลาดฟิล์มจะหดตัวเหลือ 0% ในอนาคต ฟูจิกไม่ได้รับผลกระทบเพราะเรามีขาธุรกิจที่หลากหลายได้เปรียบคู่แข่ง
ทั้งนี้ผลประกอบการปีที่แล้วบริษัทฯมีรายได้รวม 2,100 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการขายสินค้าหลักคือ กลุ่มฟิล์ม 2%, กลุ่มแล็ปสีและกระดาษสี 20%, กลุ่มกล้องดิจิตอล 30%, กลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์ 22%, กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ 11%, กลุ่มฟิล์มภาพยนตร์ 13% และอื่นๆ 2% ตามเป้าหมาย โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้คงที่ไม่เติบโต และตั้งงบตลาดรวมไว้ที่ 130 ล้านบาท ลดจากปีที่แล้วที่ใช้ 150 ล้านบาท
นายสิทธิเวช เศวตรพัชร์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล อิมเมจจิ้ง กล่าวว่า ปีนี้ฟูจิตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งกล้องดิจิตอลรวมไว้ที่ 15% จากปีที่แล้วที่มีแชร์ 13% หรือมียอดขายกว่า 130,000 ยูนิต และใช้งบตลาดส่วนกล้องดิจิตอล 80 ล้านบาท ปีนี้จะออกกล้องใหม่ 4 รุ่นครึ่งปีแรก
สำหรับการแข่งขันปีนี้จะรุนแรงมากขึ้น โดยช่องทางที่เติบโตมากที่สุดคือ ช่องทางออร์กาไนเซอร์โฟโต้ เช่น บิ๊กคาเมร่า โฟโต้ฮัท สัดส่วนช่องทางนี้ 45% และช่องทางออร์กาไนเซอร์นอนโฟโต้ เช่น ดิสเคานท์สโตร์ต่างๆ เชนสโตร์ ร้านเพาเวอร์บาย ร้านพาวเวอร์มอลล์ เป็นต้น ซึ่งกล้องระดับราคาต่ำกว่า 5,000 บาท จะขายดี และปีนี้ตลาดจะเน้นที่ 10 ล้านพิกเซล
โดยตลาดรวมกล้องดิจิตอลทั้งคอมแพ็คและดีเอสแอลอาร์ปีที่แล้วมีประมาณ 1,100,000 ยูนิต เติบโต 20% มูลค่าตลาดรวม 10,000 ล้านบาท เติบโต 11% ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,200,000 ยูนิต ส่วนแบ่งกล้องดิจิตอลเมื่อปีที่แล้วพบว่า โซนี่มี 24%, แคนอน 18%, ฟูจิ 13%, โอลิมปัส 10% , โกดัก 8%, ซัมซุง 7%, นิคอน 6%, พานาโซนิค 6%,คาสิโอ 3%, เพนแทค 1% อื่น 4%
กำลังโหลดความคิดเห็น