บิ๊ก คาเมร่า พลาดฝัน ปีก่อนปิดรายได้ที่ 1,100 ล้านบาท โตเพียง 10% จากที่หวังไว้ 30% เหตุสภาพเศรษฐกิจและการเมืองรุมเร้า ปีนี้ทุ่มเม็ดเงิน 150 ล้านบาท อัดฉีดบูมตลาดเต็มที่ ผุดรายการโทรทัศน์ เผยเทรนด์กล้อง ดิจิตอล เอสแอลอาร์ มาแรง เตรียมผุด บิ๊ก โปร คาเมร่า อีก 10 สาขา เชื่อดันรายได้โตแน่ 10% สิ้นปีนี้
นายชาญ เธียรกาญจนวงศ์ ประธาน บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา บิ๊ก คาเมร่า มียอดขาย 1,100 ล้านบาท เติบโต 10% ต่ำกว่าเป้า 30% ที่วางไว้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองเป็นหลัก และคาดว่า ปีนี้เศรษฐกิจก็จะยังไม่ดีขึ้น โดยปีนี้จะมุ่งเน้นทำตลาดแบบเจาะจงมากยิ่งขึ้น ทั้งกลุ่มรักการถ่ายภาพ และกลุ่มรักเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ คาดว่า จะทำให้บริษัทฯมีรายได้โตขึ้นอย่างน้อย 10%
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป เมื่อช่วงปลายปี 2550 ที่ผ่านมา ได้เริ่มวางแผนการดำเนินธุรกิจของบิ๊ก คาเมร่าใหม่ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป โดยหวังให้บิ๊ก คาเมร่า เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เป็นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค
โดยได้ปรับภาพลักษณ์แบรนด์และปรับเปลี่ยนหน้าร้านบิ๊ก คาเมร่า รวมไปถึงปรับโลโก้ของ บิ๊ก คาเมร่าใหม่ด้วย ส่วนปีนี้จะสานต่อการวางแผนงานเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการปรับแผนการทำงานภายในองค์กร เพื่อให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จัดอบรมพนักงานขาย รวมไปถึงระบบโลจิสติกให้มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทได้วางงบประมาณลงทุนด้านต่างๆ ปีนี้ไว้กว่า 150 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.งบประมาณเกี่ยวกับส่งเสริมการขาย 50 ล้านบาท จะมีกิจกรรมต่างๆ หลายรายการ เช่น บิ๊กคลับ, โฟโต้ คลินิก และกิจกรรมเวิร์กชอป 2.งบสำหรับการขยายสาขา 70 ล้านบาท โดยจะขยายเพิ่มอีก 30 สาขา มุ่งเน้นในต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็น ร้าน บิ๊ก โปร คาเมร่า 10 สาขา รวมคาดว่าจะมีสาขาทั่วประเทศกว่า 150 สาขา ในสิ้นปี 2551 ซึ่งการขยายบิ๊ก โปร คาเมร่า เนื่องจากพบว่าเทรนด์ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพระดับมืออาชีพมากยิ่งขึ้น เชื่อว่า การเติบโตของกล้องดิจิตอล แบบเอสแอลอาร์ปีนี้จะโตขึ้นอีก 20% ถึงแม้จะมีแชร์ในตลาดกล้องดิจิตอลเพียง 10-20% ก็ตาม
3.งบประมาณด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15-20% ซึ่งปีนี้จะเป็นปีแรกที่บิ๊ก คาเมร่าจะผลิตรายการโทรทัศน์ขึ้น ซึ่งจะเป็นรายการประเภทท่องเที่ยว ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วย เพื่อต้องการดึงจำนวนฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ให้ยังคงใช้บริการกับทางบิ๊ก คาเมร่า เช่นเดิม
สำหรับตลาดรวมกล้องดิจิตอลจาก 9 แสนยูนิตในปีก่อน ปีนี้เชื่อว่าจะอยู่ที่ 1 ล้านยูนิต แบ่งเป็น กล้องคอมแพค 80% และ แบบเอสแอลอาร์ 20% โดยมูลค่าของตลาดอยู่ที่ประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท ซึ่งกล้องคอมแพคปีนี้มองว่าในแง่จำนวนจะโตเพียง 10% ส่วนเอสแอลอาร์จะโตถึง 20%
นายธนสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมา โซนี่ ได้มอบให้ทาง บิ๊ก คาเมร่า เป็นผู้จำหน่ายกล้องคอมแพคให้ด้วย ถึงแม้จะไม่ครบทุกสาขา แต่ปีนี้จากที่กระแสเอสแอลอาร์บูมขึ้น คาดว่า ทางโซนี่จะมอบให้ทางบิ๊ก คาเมร่า จำหน่ายกล้องเอสแอลอาร์เพิ่มขึ้นอีกด้วย จากที่เพิ่งเริ่มจำหน่ายกล้องดิจิตอลของโซนี่ สัดส่วนยอดขายยังน้อยอยู่ โดยมีแคนอน เป็นแบรนด์ที่บิ๊กคาเมร่าจำหน่ายได้มากที่สุด ประมาณ 30% ของยอดขายรวมทั้งหมด” นายธนสิทธิ์ กล่าว
นายชาญ เธียรกาญจนวงศ์ ประธาน บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา บิ๊ก คาเมร่า มียอดขาย 1,100 ล้านบาท เติบโต 10% ต่ำกว่าเป้า 30% ที่วางไว้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองเป็นหลัก และคาดว่า ปีนี้เศรษฐกิจก็จะยังไม่ดีขึ้น โดยปีนี้จะมุ่งเน้นทำตลาดแบบเจาะจงมากยิ่งขึ้น ทั้งกลุ่มรักการถ่ายภาพ และกลุ่มรักเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ คาดว่า จะทำให้บริษัทฯมีรายได้โตขึ้นอย่างน้อย 10%
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป เมื่อช่วงปลายปี 2550 ที่ผ่านมา ได้เริ่มวางแผนการดำเนินธุรกิจของบิ๊ก คาเมร่าใหม่ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป โดยหวังให้บิ๊ก คาเมร่า เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เป็นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค
โดยได้ปรับภาพลักษณ์แบรนด์และปรับเปลี่ยนหน้าร้านบิ๊ก คาเมร่า รวมไปถึงปรับโลโก้ของ บิ๊ก คาเมร่าใหม่ด้วย ส่วนปีนี้จะสานต่อการวางแผนงานเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการปรับแผนการทำงานภายในองค์กร เพื่อให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จัดอบรมพนักงานขาย รวมไปถึงระบบโลจิสติกให้มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทได้วางงบประมาณลงทุนด้านต่างๆ ปีนี้ไว้กว่า 150 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.งบประมาณเกี่ยวกับส่งเสริมการขาย 50 ล้านบาท จะมีกิจกรรมต่างๆ หลายรายการ เช่น บิ๊กคลับ, โฟโต้ คลินิก และกิจกรรมเวิร์กชอป 2.งบสำหรับการขยายสาขา 70 ล้านบาท โดยจะขยายเพิ่มอีก 30 สาขา มุ่งเน้นในต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็น ร้าน บิ๊ก โปร คาเมร่า 10 สาขา รวมคาดว่าจะมีสาขาทั่วประเทศกว่า 150 สาขา ในสิ้นปี 2551 ซึ่งการขยายบิ๊ก โปร คาเมร่า เนื่องจากพบว่าเทรนด์ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพระดับมืออาชีพมากยิ่งขึ้น เชื่อว่า การเติบโตของกล้องดิจิตอล แบบเอสแอลอาร์ปีนี้จะโตขึ้นอีก 20% ถึงแม้จะมีแชร์ในตลาดกล้องดิจิตอลเพียง 10-20% ก็ตาม
3.งบประมาณด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15-20% ซึ่งปีนี้จะเป็นปีแรกที่บิ๊ก คาเมร่าจะผลิตรายการโทรทัศน์ขึ้น ซึ่งจะเป็นรายการประเภทท่องเที่ยว ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วย เพื่อต้องการดึงจำนวนฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ให้ยังคงใช้บริการกับทางบิ๊ก คาเมร่า เช่นเดิม
สำหรับตลาดรวมกล้องดิจิตอลจาก 9 แสนยูนิตในปีก่อน ปีนี้เชื่อว่าจะอยู่ที่ 1 ล้านยูนิต แบ่งเป็น กล้องคอมแพค 80% และ แบบเอสแอลอาร์ 20% โดยมูลค่าของตลาดอยู่ที่ประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท ซึ่งกล้องคอมแพคปีนี้มองว่าในแง่จำนวนจะโตเพียง 10% ส่วนเอสแอลอาร์จะโตถึง 20%
นายธนสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมา โซนี่ ได้มอบให้ทาง บิ๊ก คาเมร่า เป็นผู้จำหน่ายกล้องคอมแพคให้ด้วย ถึงแม้จะไม่ครบทุกสาขา แต่ปีนี้จากที่กระแสเอสแอลอาร์บูมขึ้น คาดว่า ทางโซนี่จะมอบให้ทางบิ๊ก คาเมร่า จำหน่ายกล้องเอสแอลอาร์เพิ่มขึ้นอีกด้วย จากที่เพิ่งเริ่มจำหน่ายกล้องดิจิตอลของโซนี่ สัดส่วนยอดขายยังน้อยอยู่ โดยมีแคนอน เป็นแบรนด์ที่บิ๊กคาเมร่าจำหน่ายได้มากที่สุด ประมาณ 30% ของยอดขายรวมทั้งหมด” นายธนสิทธิ์ กล่าว