xs
xsm
sm
md
lg

องคมนตรีห่วงแม้วปั่นหัวคนไทยผบ.ตร.สั่งถอดเทปเอาผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน- องคมนตรีนัดหารือสถานการณ์บ้านเมือง "ป๋า"ห่วง"แม้ว"โฟนอินปั่นหัวคนไทยสร้างความแตกแยก ด้าน"พัชรวาท"สั่งถอดเทปแม้วปลุกระดมคนเสื้อแดง พาดพิงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เพื่อหาทางดำเนินการตามกม. พร้อมประเมินสถานการณ์ชุมนุมใหญ่ 26 มี.ค. อย่างใกล้ชิด ขณะที่วอร์รูมปชป.ระบุแนวโน้มรุนแรงแน่ เพราะ"แม้ว" ลงมาบัญชาการเอง ด้าน"อนุพงษ์"ยันแผนลอบสังหาร ไม่มีมูล
แหล่งข่าวในที่ประชุมทำเนียบองคมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมทำเนียบองคมนตรี วานนี้ (24 มี.ค.) มี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ นั่งเป็นประธานการประชุม ซึ่งการประชุมครั้งนี้ มีองคมนตรี ขอลาป่วย 2-3 คน ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการหารือในหลายประเด็น โดยเฉพาะสถานการณ์บ้านเมือง ที่เกิดความขัดแย้งกันอยู่ในขณะนี้ โดยอยากให้ทุกฝ่ายยึดถือกฎหมายบ้านเมืองเป็นหลัก
“ตอนนี้บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งกันอย่างหนัก โดยเฉพาะประเด็นการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยระบบวีดีโอลิงค์ ที่มีการพาดพิงถึงพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และองคมนตรีอีกหลายท่าน ว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการโค่นล้มระบอบทักษิณ ซึ่งในที่ประชุมไม่ค่อยสบายใจกับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะจะเป็นการมุ่งทำให้เกิดความแตกแยกกันมากขึ้น" แหล่งข่าวในที่ประชุมระบุ
แหล่งข่าวยังบอกด้วยว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะอยากให้การเมืองแก้ไขกันเอง แต่ท่านเป็นห่วงเรื่องการพาดพิงองคมนตรีมากกว่า เพราะไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดว่า องคมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งๆ ที่อำนาจหน้าที่ขององคมนตรีไม่มีฐานะที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่ได้หารือถึงการทำงานของรัฐบาล เพราะเห็นว่าไม่ห่วงการทำงานของรัฐบาล เพราะคิดว่าน่าจะแก้ไขปัญหาของประเทศไปได้ด้วยดี และเรื่องทุกอย่างต้องปล่อยให้ทางรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเอง

**ห่วง"แม้ว"โฟนอินทำแตกแยก
คนใกล้ชิดพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กล่าวว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้มีปฏิกิริยา หรือออกอากาศวิตกกับสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินพาดพิงองคมนตรี และ กองทัพ ที่ระบุว่ามีการจับมือกันโค่นล้มระบอบทักษิณ แต่พล.อ.เปรม ห่วงเรื่องความแตกแยกของคนในชาติมากกว่า เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งมีการโฟนอินมากเท่าไร สถานการณ์บ้านเมืองก็จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความแตกแยกของคนในสังคมที่นับวันจะเริ่มมากขึ้น
"การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ต้องการเรียกมวลชนให้ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล และกองทัพ และรวมกลุ่มคนที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ ทั้งนี้เห็นว่า การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ มีทั้งข้อดีและข้อเสียของตัวมันเอง ข้อดีคือพ.ต.ท.ทักษิณ จะได้มวลชนเพื่อมาสนับสนุนในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อ ส่วนผลเสีย คือพ.ต.ท.ทักษิณ จะขาดความเชื่อถือจากนานาประเทศ เพราะตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ยอมเดินทางมาเข้าประเทศ เพื่อรับโทษตามที่ศาลพิจารณา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังคงเป็นนักโทษ จะพูดโจมตีรัฐบาลและกองทัพอย่างไร นานาประเทศก็คงคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขี้แพ้ชวนตี" คนใกล้ชิด พล.อ.เปรมระบุ
** พัชรวาทสั่งถอดเทปคำพูดแม้ว
ในวันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงมาตรการดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมใหญ่ ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.)หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ประชุมประเมินสถานการณ์การจากข้อมูลทางการข่าว คาดว่าการชุมนุมก็คงจะเหมือนเดิม เพื่อแสดงออกทางการเมือง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ
ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการจัดกำลังเหมือนการชุมนุมครั้งที่ผ่านมา โดยมีการประสานขอกำลังทหารมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นการแสดงออกทางการเมืองตามปกติ
ส่วนการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค.ที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งเนื้อหามีความรุนแรงมากขึ้น เพราะมีการพาดพิงบุคคลสำคัญหลายคน พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ตำรวจมีการเฝ้าติดตามการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณโดยตลอด โดยเมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา มีการกล่าวพาดพิงถึงบุคคลอื่นพอสมควร มีทั้งภาพ และเสียงค่อนข้างชัดเจน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ถอดเทปว่ามีการพาดพิงถึงใคร อย่างไร ขณะเดียวกันให้ฝ่ายกฎหมายของ ตร.ไปพิจารณาว่า เข้าข่ายความผิดหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าม็อบรุนแรงขึ้น จะดำเนินการอย่างไร ตำรวจอาจไม่กล้าดำเนินการ เพราะเกรงจะถูกป.ป.ช.ชี้มูล พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวยืนยันว่า จะใช้มาตรการเดิม ซึ่งเน้นการเจรจาเป็นหลัก ตำรวจทำเหมือนเดิม ยืนยันว่าไม่เสียกำลังใจแน่นอน
**รับพิจารณาเปลี่ยนทีมสอบพธม.
พล.ต.อ.พัชรวาท ยังกล่าวถึงกรณีนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นหนังสือต่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เพื่อขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดีที่กลุ่มพันธมิตรฯตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นสิทธิ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องมาได้ หลังรับเรื่องแล้วนายสุเทพ ก็จะส่งเรื่องมายังตร. โดยจะให้ฝ่ายกฎหมายเข้าพิจารณาดูว่า กรณีดังกล่าวเข้าหลักเกณฑ์ และไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆหรือไม่ ซึ่งหากเข้าหลักเกณฑ์ และไม่ได้รับความเป็นธรรมจริง ก็จะพิจารณาให้
**สันติบาลเชื่อชุมนุมไม่รุนแรง
พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เปิดเผยถึงการติดตามความเคลื่อนไหวก่อนการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ว่าตอนนี้ตัวเลขของกลุ่มที่จะมาร่วมชุมนุมยังไม่นิ่ง ยังประเมินไม่ได้ว่าจะมามากน้อยแค่ไหน วันนี้ (25 มี.ค.) จะมีการประชุมเจ้าหน้าที่ด้านการข่าวเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ส่วนการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีรายงานว่า จะโฟนอินมายังกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น จะมีเจ้าหน้าที่บันทึกเนื้อหาการสนทนาไว้อย่างละเอียด เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพื่อนำมาตรวจสอบ

**ตร.ใช้แผน"กรกฎ48" ดูแลม็อบ
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คงใช้แผน "กรกฏ48" เป็นหลัก ซึ่งเชื่อว่าน่าจะใช้กำลังเท่าเดิม คือใช้ตำรวจ 22 กองร้อย หรือ 3,300 นาย ดูแลโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และใช้กำลังทหาร อีก 6,000 นาย เตรียมไว้ดูแลภายในทำเนียบรัฐบาล
"สำหรับเราคงต้องดูแลทำเนียบรัฐบาลเป็นหลัก ไม่ให้มีใครเข้าไปได้ รวมทั้งได้รับมอบหมายให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าออกของข้าราชการทำเนียบฯ" ผบช.น.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ในช่วงเช้าวันที่ 26 มี.ค. หลังจากนั้น จะเดินผ่านถนนราชดำเนิน ไปชุมนุมกันที่บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล สำหรับการรักษาความปลอดภัย เบื้องต้นตำรวจนครบาล ได้เตรียมกำลังไว้ทั้งสิ้น 27 กองร้อย หรือประมาณ 4 พันนาย

**ทหารพร้อมหนุนตำรวจคุมม็อบ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวยืนยันว่า ไม่มีปัญหา เพราะมีการประสานความร่วมมือกันระหว่างตำรวจและทหารแล้ว เมื่อตำรวจขอมา ทหารก็ออกไป ส่วนที่กลุ่ม นปช.ประกาศว่าจะล้อมทำเนียบฯโดยไม่ให้ครม.เข้ามาทำงานได้ ก็ไม่เป็นไร เราพยายามรักษาความปลอดภัยให้นายกรัฐมนตรี และครม. เข้ามาทำงานในทำเนียบฯได้ ส่วนการโฟนอินของ พ.ตท.ทักษิณ นั้นตนไม่กังวล จะกังวลทำไมเพราะคนพูด ต้องรับผิดชอบในคำพูดของตัวเอง
เมื่อถามว่ากองทัพจะปกป้ององคมนตรีอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทำอยู่แล้วไม่ต้องห่วง
ส่วนการชุมนุมในวันที่ 26 มี.ค.นี้ จะรุนแรงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประชาชน ว่าจะมากน้อยเพียงใด แต่ประชาชนน่าจะรู้ว่า สิ่งใดควร ไม่ควร

**"อนุพงษ์"ซัดแผนลอบสังหารไม่มีมูล
พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินพาดพิงองคมนตรี และกองทัพโค่นล้ม “ระบอบทักษิณ”ว่า ตนไม่มองในเรื่องนี้ แต่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตน เรื่องการสอบสังหารนั้น ยืนยันว่าไม่มีมูล ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าผบ.ทบ.มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการทำปฏิวัติ 19 ก.ย.49 พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า มีคำถามอื่นอีกหรือไม่ เพราะเขารู้กันหมดแล้ว ตนคงไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ เพราะ เรื่องปฏิวัติมันจบไปนานแล้ว ขณะนี้ประเทศชาติกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งนักวิชาการออกมาระบุว่า ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจจะรุนแรงในเดือนพ.ค.นี้ เราจึงควรมองว่า จะทำอย่างไรที่จะสร้างสภาวการณ์ที่เอื้ออำนวยต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ที่จะส่งผลกระทบกับประชาชน ตนสนใจในเรื่องนี้มากกว่า
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินปลุกระดมคนไทย ให้มาต่อสู้กับทหาร หากมีการปฏิวัติอีก พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ความสงบสุขของประเทศชาติ คิดว่าคนไทยเข้าใจว่า ไม่มีประโยชน์ที่คนไทยจะมีปัญหาเรื่องความขัดแย้ง เมื่อถามว่าถึงเวลาที่จะเอาจริงในการดำเนินคดีกับพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีความคิดเห็น เรื่องนี้การเมืองดำเนินการอยู่แล้ว
**เสื้อแดงเตรียมสร้างความวุ่นวาย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการที่หลายฝ่ายกังวลว่าการชุมนมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 26 มี.ค.จะรุนแรงมากขึ้นว่า ใครๆก็เป็นห่วงกันทั้งนั้น เพราะสังเกตดูว่าเขาได้ดำเนินการเป็นขบวนการ เป็นขั้นตอน และมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เราก็ติดตามดูกันมาตลอด ก็เห็นว่าเขาเดินไปในแนวนั้นจริงๆ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพยายามจะอดทน และจะทำเท่าที่กฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการได้ ขณะเดียวกัน ก็จะไม่ยอมให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายเป็นอันขาด เราจะคุ้มครองสถานที่ราชการ รวมไปถึงทรัพย์สิน และสิทธิของประชาชน
เมื่อถามว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะโฟนอินมาถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นการท้าทายรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ ตอบว่า คิดว่าไม่ใช่เรื่องท้าทายรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของความตั้งใจในการปลุกระดมประชาชนให้เข้าใจผิดกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งไม่ถือว่าเกี่ยวข้องกับรัฐบาลชุดนี้เลย แต่เชื่อว่า พี่น้องประชาชนจะเข้าใจสถานการณ์ดี ยิ่งพ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวรุนแรง และไม่บังควรน่าจะเป็นผลเสียหายต่อตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง
**แฉแผนแม้วทำสงคราม 5 แนวรบ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวตอบโต้กรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ท้าทายให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยแผนตากสินว่า หากทางพรรคเพื่อไทยต้องการทราบ สามารถดูได้จากสื่อมวลชน ที่สรุปว่า แผนตากสินพูดถึงการทำสงคราม 5 แนวรบ คือ 1. สงครามชนชั้นกรรมาชีพ 2. สงครามประชาธิปไตย 3. สงครามกระบวนการยุติธรรม 4. สงครามการข่าว 5. สงครามการเมือง ซึ่งการดำเนินการของแผนดังกล่าว สอดรับกันระหว่าง กลุ่มคนเสื้อแดง และพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร โดยพฤติกรรมของคนเหล่านี้ เป็นการจาบจ้วง องคมนตรี กระบวนการยุติธรรม และ ตัวบุคคลค่อนข้างชัดเจน
วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ชักธงรบอย่างเปิดเผย ยกตัวอย่างคำพูด ส.ส.พรรคเพื่อไทยคนหนึ่งที่ระบุว่า วันนี้ทุกคนเปิดหน้าสู้แล้ว มีอะไรที่ต้องเกรงกันอีก การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 26 มี.ค.นี้ จะเป็นการขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ แบบแม่น้ำ100 สาย คือ มีประชาชนมาร่วมจากทุกสารทิศ ถือว่า สอดรับกับแผนตากสิน
**"แม้ว"บัญชาการเองคาดรุนแรงแน่
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมคณะทำงานปฏิบัติการเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง (วอร์รูม)ว่า การชุมนุมวันที่ 26 มี.ค. สุ่มเสียงต่อความรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมา เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ลงมาสั่งการด้วยตัวเอง โดยดำเนินการใน 2 วิธี คือ 1. สร้างฐานอำนาจเชิงจิตวิทยามวลชน ผ่านการสื่อสารมวลชนเพื่อปลุกระดม 2.ใช้มวลชนกดดันสร้างอำนาจต่อรองระหว่างตนเองกับสถาบันฯ เปิดทางให้เกิดความขัดแย้งนำสู่ความเปลี่ยนแปลงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาโดยอยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งพรรคหวังว่า การร่วมหารือระหว่างนายกรัฐมนตรี และฝ่ายค้านจะนำสู่การหาทางออกให้กับประเทศได้

**"ชวรัตน์"สั่งผู้ว่าฯจับตาเสื้อแดง
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ในจังหวัดต่างๆ ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯในวันที่ 26 มี.ค.นี้ว่า กระทรวงมหาดไทย ได้กำชับกับผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดต่างๆ ให้ดูแลการเคลื่อนไหวของประชาชน หากมีการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีประสิทธิภาพ ก็ต้องมีการคาดโทษ แต่ยืนยันไม่ได้เป็นการกดดันข้าราชการ เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น