xs
xsm
sm
md
lg

ขรก.ฉ้อฉลหมดสิทธิเออร์รี่ฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายศุภรัตน์ ควรหา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม. เห็นชอบมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุ ก่อนกำหนด) หรือเออร์รี่ รีไทร์ สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ.2553 ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังพลภาครัฐ (คปร.) เมื่อวันที่ 2 มี.ค.52 ตามที่ กพ.กำหนด โดยมีหลักการมาตราการปรับปรุงอำตรากำลังของส่วนราชการ เป็นไปตามมติ ครม. 28 ส.ค.50 โดยมีการปรับเปลี่ยนดังนี้
1.ปรับจำนวนสูงสุดของผู้เข้าร่วมมาตรการฯ ตามสัดส่วนของข้าราชการอายุ 50 ปีขึ้นไปที่มีในส่วนราชการ (จากตั้งแต่ร้อยละ 10 จนถึงร้อยละ 20 ขึ้นไปของ ข้าราชการอายุ 50 ปีขึ้นไป) และใช้กลไกขอ อ.ก.พ.กระทรวงในการเกลี่ยโควตา ผู้เข้าร่วมมาตรการฯ ภายในกระทรวงโดยให้ใช้งบประมาณเงินก้อนของส่วนราชการ ที่ผู้เข้าร่วมมาตรการฯสังกัด
2. เพิ่มเติมการกำหนดคุณสมบัติของผู้ออกจากราชการตามมาตรการฯ โดยจะต้องไม่เป็นจำเลยในคดีอาญา ซึ่งมิใช่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท เพื่อให้เป็นไปตามเตนารมณ์ของมาตรการฯ ที่กำหนดคุณสมบัติเฉพาะผู้ที่ไม่มีข้อ กล่าวหาใดๆ เป็นคุณสมบัติของผู้ออกจากราชการตามาตรการฯ ซึ่งจะมีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์เงินก้อน 8-15 เท่า
ทั้งนี้ รวมไปถึงข้าราชการที่ถูกสอบสวนในชั้นอนุกรรมการ ก.พ. (อ.ก.พ.) หรือ ในชั้นสอลสวนขององค์กรอิสระต่างๆ โดยตามกฎหมายแล้ว ข้าราชการไม่สามารถที่จะลาออกก่อนได้หาอยู่ในระหว่างการสอบสวน
รายงานข่าวแจ้งว่า เกณฑ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นนั้น เพื่อป้องกันข้าราชการที่กำลังถูกสั่งพักราชการ ถูกสอบสวนหรือสอบหาข้อเท็จจริงทางวินัย พิจารณาโทษทางวินัย รายงานการลงโทษทางวินัย หรือพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งโทษทางวินัย หรือเป็นผู้ต้องหา หรือจำเลยในคดีอาญา เข้าร่วมโครงการเพื่อรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว อันจะเป็นเรื่องที่ผิดกับหลักการของโครงการ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงาน ก.พ. รายงานจำนวนผู้เข้าร่วมมาตรการและประมาณการงบประมาณในปีงบประมาณ 2552 สำหรับข้าราชการ จำนวน 13,883 คน คาดว่าจะใช้งบประมาณ 7,590.9 ล้านบาท โดยเป็นการจ่ายเงินบำเหน็จ 1,579.1 ล้านบาท เป็นการจ่ายเงินบำนาญ 2,072 ล้านบาท และเป็นเงินค่าบำเหน็จดำรงชีพ 2,718.6 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการในส่วนที่ 1 และ 2 ที่ ครม.มีมติให้ส่วนราชการปรับเปลี่ยนสถานภาพโดยออกจากระบบราชการ และส่วนราชการประสงค์จะยุบเลิกบางภารกิจ ไม่มีการกำหนดจำนวนของกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมมาตรการ ซึ่งใช้งบกลางดำเนินการ โดยจะยุบตำแหน่งนั้นไปตามผู้เข้าร่วมโครงการ
ขณะที่ในส่วนที่ 3 มีผู้เข้าร่วมโครงการ 424 คน จากส่วนราชการที่มีอัตรากำลังเกิน โดยกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 10 ของกลุ่มเป้าหมาย ใช้งบประมาณภายในวงเงิน งบบุคลากรที่ได้รับจัดสรร จำนวน 195.2 ล้านบาท และให้ยุบตำแหน่งของผู้เข้าร่วมโครงการ
ในส่วนที่ 4 มีผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 1,205 คน ในส่วนราชการที่มีอัตรากำลังเหมาะสมกับบทบาท ภารกิจ แต่มีประเด็นจำนวนข้าราชการสูงอายุ (50 ปีขึ้นไป) มากกว่าร้อยละที่กำหนดโดยปรับจำนวนสูงสุดของผู้เข้าร่วมมาตรการฯ (โควตา) ตามสัดส่วนของข้าราชการอายุ 50 ปีขึ้นไปที่มีในส่วนราชการ (จากอัตราร้อยละ 10 จนถึงร้อยละ 20 ขึ้นไปของข้าราชการอายุ 50 ปีขึ้นไป) โดยให้ อ.ก.พ.กระทรวงพิจารณาเกลี่ยจำนวนผู้เข้าร่วม ใช้งบประมาณภายในวงเงิน งบบุคลากรที่ได้รับจัดสรร จำนวน 456.6 ล้านบาทโดยจะไม่ยุบตำแหน่ง แต่ส่วนราชการจะต้องไม่มีการจ้างผู้ที่เข้าร่วมมาตรการในลักษณะการจ้างกำลังคนประเภทอื่น
ในส่วนที่ 5 มีผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 12,254 คน ในส่วนราชการที่มีอัตรากำลังไม่เพียงพอแก่การทำงานตามบทบาท ภารกิจ และมีประเด็นจำนวนข้าราชการสูงสุดอายุ (50 ปีขึ้นไป) มากกว่าร้อยละที่กำหนดโดยปรับจำนวนสูงสุดของผู้เข้าร่วมมาตรการฯ (โควตา) ตามสัดส่วนของข้าราชการอายุ 50 ปีขึ้นไปที่มีในส่วนราชการ (จากอัตราร้อยละ 10 จนถึงร้อยละ 20 ขึ้นไปของข้าราชการอายุ 50 ปีขึ้นไป) โดยให้ อ.ก.พ.กระทรวงพิจารณาเกลี่ยจำนวนผู้เข้าร่วม ใช้งบประมาณภายในวงเงินงบบุคลากรที่ได้รับจัดสรร จำนวน 6,939 ล้านบาท โดยจะไม่ยุบตำแหน่งแต่ส่วนราชการจะต้องไม่มีการจ้างผู้ที่เข้าร่วมมาตรการในลักษณะการจ้างกำลังคนประเภทอื่น
กำลังโหลดความคิดเห็น