xs
xsm
sm
md
lg

IMFเตือนศก.โลกปีนี้หดตัว1%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเจนซี - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนเศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัวถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเร่งแก้ไขปัญหาสินทรัพย์เน่าเสียในระบบธนาคารโดยเร็ว

ในรายงาน 2 ฉบับซึ่งนำเสนอต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีคลังกลุ่ม จี-20 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไอเอ็มเอฟยืนยันการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจที่เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะเริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ในปี 2010 และว่าทุกฝ่ายควรจะมุ่งเน้นการสะสางปัญหา "สินทรัพย์เน่าเสีย" ในระบบสถาบันการเงินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

"แม้แต่ในประเทศที่ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาในภาคการเงิน ความรุนแรงของวิกฤตการเงินโลกครั้งนี้ก็อาจทำให้เกิดความตึงตัวขึ้นได้" รายงานของไอเอ็มเอฟระบุ พร้อมทั้งเสนอแนะว่ากลุ่มประเทศ จี-20 ควรมีแผนรองรับปัญหาในระบบสถาบันการเงินอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ปัญหาของสถาบันการเงินส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

ไอเอ็มเอฟยังคงคาดการณ์ในคราวนี้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกว่าจะติดลบ 1% ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ไอเอ็มเอฟยังพยากรณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2009 นี้จะมีอัตราขยายตัวประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่ถึงกับหดตัว แต่ขณะเดียวกันก็เตือนว่าความรุนแรงของวิกฤตการณ์ทางการเงินอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปมากกว่าเดิมได้

เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของไอเอ็มเอฟกล่าวว่า การฟื้นตัวอย่างยั่งยืนจะเกิดขึ้นไม่ได้ตราบใดที่ภาคการเงินยังไม่มีเสถียรภาพ และบรรดาเศรษฐกิจชั้นนำของโลกไม่ดำเนินนโยบายสอดประสานกันอย่างเป็นเอกภาพในการแก้ไขปัญหา

รายงานของไอเอ็มเอฟทั้งสองฉบับจะเป็นข้อมูลสำคัญในที่ประชุมสุดยอดผู้นำ จี-20 ที่กรุงลอนดอนในวันที่ 2 เมษายนนี้ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะแสวงหาแนวทางในการดำเนินมาตรการร่วมกันเพื่อบรรเทาความรุนแรงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย

เจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟกล่าวว่า แนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคตนั้นยังคงมีความเสี่ยงในเชิงลบค่อนข้างสูง และรายงานการพยากรณ์ครั้งต่อไปอาจมีการปรับลดตัวเลขลงไปอีกก็เป็นได้ หากระดับของความเสี่ยงยังมีความรุนแรงอยู่เหมือนเดิม

รายงานของไอเอ็มเอฟระบุว่า ณ เวลาปัจจุบัน บรรดาเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังคงตกอยู่ในภาวะถดถอยรุนแรง อัตราการหดตัวของจีดีพีในปี 2009 นี้จะอยู่ระหว่าง 3.0 ถึง 3.5 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าสถานการณ์จะกระเตื้องขึ้นในปี 2010 โดยอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ระดับ 0 เปอร์เซ็นต์

เมื่อแยกเป็นแต่ละราย เศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มจะหดตัวลง 2.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในเขตยูโรโซนจะหดตัวลงประมาณ 3.2 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจหดตัวรุนแรงถึง 5.8 เปอร์เซ็นต์ ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่ระดับติดลบ 0.2 เปอร์เซ็นต์ในปี 2010

รายงานของไอเอ็มเอฟเสนอแนะให้ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สำหรับสหรัฐฯและญี่ปุ่นนั้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ใกล้ระดับ 0 เปอร์เซ็นต์แล้ว คงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก แต่ธนาคารกลางของยุโรปยังสามารถปรับลดลงอีกได้ แม้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะมีผลในเชิงกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อยก็ตาม

ขณะเดียวกัน รายงานของไอเอ็มเอฟยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า พวกเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่และพวกเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา ก็กำลังชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว มีแนวโน้มที่อัตราการเติบโตในปี 2009 นี้ลดลงมาอยู่ระหว่าง 1.5 ถึง 2.5 เปอร์เซ็นต์ ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.5 ถึง 4.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2010
ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศในยุโรปตะวันออกและยุโรปกลาง จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้รุนแรงที่สุด เนื่องจากมีปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและการลดลงอย่างรวดเร็วของเงินทุนไหลเข้า

สำหรับกลุ่มประเทศในเอเชีย จะได้รับผลกระทบรุนแรงจากการตกต่ำของภาคการส่งออก ขณะที่ละตินอเมริกา ก็จะถูกฉุดรั้งโดยความตึงตัวในตลาดเงินและการชะลอตัวของภาคการส่งออกเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น