วานนี้(18 มี.ค.)เวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นำ ด.ญ.มุกดามาศ วุฒิลาภ อายุ 8 ปี และญาติ เข้าพบ พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น.เพื่อขอความช่วยเหลือและติดตามคดี กรณี นางมาลี วุฒิลาภ อายุ 53 ปี มารดาของ ด.ญ.มุกดามาศ ถูกนายสังเวียน นันทะพันธ์ อายุ 43 ปี ที่มาเช่าบ้านพักในชุมชนพัฒนาการ 1 และได้กู้ยืมเงินของนางมาลีไปแล้วถูกทวงเงิน จนเกิดความไม่พอใจใช้ขวานฟันศีรษะนางมาลี จนกะโหลกแตกได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 1 มี.ค.เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และแจ้งความไว้ที่ สน.บางโพงพาง แล้วคดีไม่คืบหน้า โดย ด.ญ.มุกดามาศ ได้นำเงินสดจำนวน 5 หมื่นบาท มาเป็นเงินรางวัลให้กับผู้ให้เบาะแสหรือจับกุมคนร้ายได้ด้วย
นอกจากนี้ยังขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดชุดคุ้มครองญาติพี่น้องของผู้บาดเจ็บ เนื่องจากถูกผู้ต้องหาข่มขู่ว่าจะทำร้ายญาติ และผู้ที่เป็นพยาน รวมทั้งจะเผาชุมชน หลังรับเรื่อง พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว ส่วนความล่าช้าของคดีได้กำชับกับตำรวจท้องที่ ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่รายละเอียดหรือแนวทางการสืบสวนบางอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้ จึงอาจทำให้ญาติเป็นกังวลว่าตำรวจปฏิบัติงานล่าช้า สำหรับการข่มขู่ของผู้ต้องหานั้นจะจัดกำลังตำรวจให้การคุ้มครองและดูแลความปลอดภัยของญาติและคนในชุมชน
ต่อมาเวลา 13.00 น.ที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมมาสุข ผกก.บางโพงพาง ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของ นางมาลี วุฒิลาภ ที่พักรักษาอาการบาดเจ็บ ที่ชั้น 15 หอศัลยกรรมหญิง โดยมี นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร รอง ผอ.ด้านการแพทย์ของโรงพยาบาล นพ.ชัชวาลย์ แซ่เฮ้ง นพ.ศัลยกรรมประสาท เจ้าของไข้ให้การต้อนรับ โดย พล.ต.ต.สุพร ได้มอบกระเช้าดอกไม้ให้นายสำแล วุฒิลาภ อายุ 61 ปี สามี นางมาลี พร้อมอวยพรให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว พร้อมรับปากจะช่วยดำเนินการจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
ด้าน นพ.ชัชวาลย์ กล่าวว่า เมื่อรับคนไข้เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลในวันแรก พบว่า คนไข้กะโหลกศีรษะแตก ไม่รู้สึกตัว ได้ผ่าตัดสมองไปแล้ว 2 ครั้ง พร้อมเจาะคออีก 1 ครั้ง โดยจะผ่าตัดซ่อมจมูกและกระดูกใบหน้าอีกครั้งหนึ่ง ขณะนี้อาการของคนไข้ดีขึ้น เริ่มรู้สึกตัว สามารถสื่อสารได้ในระดับหนึ่ง ฟังเข้าใจ ทำตามได้ แต่ยังไม่สามารถพูดได้เนื่องจากเจาะบริเวณลำคออยู่ ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ตาของคนไข้จะบอดหรือไม่ นอกจากนี้คิดว่า จะต้องใช้ระยะเวลาในการดูอาการของคนไข้เป็นปี
ขณะที่ พ.ต.อ.กสิณ กล่าวว่า ในส่วนของการติดตามจับกุมผู้ต้องหานั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่เฝ้าจุดต่างๆ ที่คิดว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ รวมทั้งพื้นที่ภูมิลำเนาเดิมของผู้ต้องหาด้วย นอกจากนี้ ได้ส่งหมายจับไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ต่างๆแล้ว เพื่อช่วยในการติดตามจับกุมคนร้ายอีกทางหนึ่ง รวมทั้งกองทะเบียนประวัติอาชญากร ก็ได้มีการออกประกาศสืบจับ เพื่อกระจายหมายจับไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ รวมทั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองต่างๆ เพื่อป้องกันผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ
นอกจากนี้ยังขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดชุดคุ้มครองญาติพี่น้องของผู้บาดเจ็บ เนื่องจากถูกผู้ต้องหาข่มขู่ว่าจะทำร้ายญาติ และผู้ที่เป็นพยาน รวมทั้งจะเผาชุมชน หลังรับเรื่อง พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว ส่วนความล่าช้าของคดีได้กำชับกับตำรวจท้องที่ ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่รายละเอียดหรือแนวทางการสืบสวนบางอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้ จึงอาจทำให้ญาติเป็นกังวลว่าตำรวจปฏิบัติงานล่าช้า สำหรับการข่มขู่ของผู้ต้องหานั้นจะจัดกำลังตำรวจให้การคุ้มครองและดูแลความปลอดภัยของญาติและคนในชุมชน
ต่อมาเวลา 13.00 น.ที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมมาสุข ผกก.บางโพงพาง ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของ นางมาลี วุฒิลาภ ที่พักรักษาอาการบาดเจ็บ ที่ชั้น 15 หอศัลยกรรมหญิง โดยมี นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร รอง ผอ.ด้านการแพทย์ของโรงพยาบาล นพ.ชัชวาลย์ แซ่เฮ้ง นพ.ศัลยกรรมประสาท เจ้าของไข้ให้การต้อนรับ โดย พล.ต.ต.สุพร ได้มอบกระเช้าดอกไม้ให้นายสำแล วุฒิลาภ อายุ 61 ปี สามี นางมาลี พร้อมอวยพรให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว พร้อมรับปากจะช่วยดำเนินการจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
ด้าน นพ.ชัชวาลย์ กล่าวว่า เมื่อรับคนไข้เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลในวันแรก พบว่า คนไข้กะโหลกศีรษะแตก ไม่รู้สึกตัว ได้ผ่าตัดสมองไปแล้ว 2 ครั้ง พร้อมเจาะคออีก 1 ครั้ง โดยจะผ่าตัดซ่อมจมูกและกระดูกใบหน้าอีกครั้งหนึ่ง ขณะนี้อาการของคนไข้ดีขึ้น เริ่มรู้สึกตัว สามารถสื่อสารได้ในระดับหนึ่ง ฟังเข้าใจ ทำตามได้ แต่ยังไม่สามารถพูดได้เนื่องจากเจาะบริเวณลำคออยู่ ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ตาของคนไข้จะบอดหรือไม่ นอกจากนี้คิดว่า จะต้องใช้ระยะเวลาในการดูอาการของคนไข้เป็นปี
ขณะที่ พ.ต.อ.กสิณ กล่าวว่า ในส่วนของการติดตามจับกุมผู้ต้องหานั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่เฝ้าจุดต่างๆ ที่คิดว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ รวมทั้งพื้นที่ภูมิลำเนาเดิมของผู้ต้องหาด้วย นอกจากนี้ ได้ส่งหมายจับไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ต่างๆแล้ว เพื่อช่วยในการติดตามจับกุมคนร้ายอีกทางหนึ่ง รวมทั้งกองทะเบียนประวัติอาชญากร ก็ได้มีการออกประกาศสืบจับ เพื่อกระจายหมายจับไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ รวมทั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองต่างๆ เพื่อป้องกันผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ