ASTV ผู้จัดการรายวัน – สมาคมส่งเสริมฯ พร้อมให้ความร่วมมือผู้เสียหายจากกรณีถูกปลอมใบหุ้นปูนใหญ่ ส่งหนังสือถึงผู้บริหาร “ปูนซิเมนต์ไทย” ขอให้เพิ่มวาระการประชุมและชี้แจงแนวทางป้องกันและแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยช่วยโหวต 25 มี.ค.นี้ ด้านนายกสมาคมฯ “วิชัย” เผยนักลงทุนแห่ร้องเรียนสมาคมฯ หลังได้รับความเสียหายจากมูลค่าหุ้นหด – ผู้บริหารบจ. มีพฤติกรรมส่อเค้าทุจริต
นายวิชัย พูลวรลักษณ์ นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เปิดเผยถึง แนวนโยบายการช่วยเหลือผู้ถือหุ้นรายย่อย หลังจากช่วงที่ผ่านมาได้เกิดความเสียหายต่อบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง ว่า สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยได้ส่งหนังสือไปยังบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ให้มีการเพิ่มวาระการประชุมเพื่อที่จะชี้แจงข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปลอมใบ รวมถึงแนวทางป้องกันหรือช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้นได้รับทราบ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนายพิบูลย์ศักดิ์ สุขพงษ์ ทนายความกองมรดกของนายวรรโณทัย อมาตยกุล ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากหุ้นที่นายประพันธ์ ชูเมือง พนักงานของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ลักและปลอมใบหุ้นไปขายได้มีการส่งหนังสือมายังสมาคมส่งเสริมฯ ให้ช่วยประสานงานกับนักลงทุนรายย่อยให้มีการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น SCC ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ และช่วยลงคะแนนเสียงสนับสนุนให้มีการเพิ่มวาระอื่นๆ ให้ทางประธานที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ SCC มีการชี้แจงแนวทางดูแลผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหายจากการปลอมใบหุ้นดังกล่าว
โดยการดำเนินการดังกล่าวนั้น จะช่วยทำให้เกิดผลดีต่อ SCC ในเรื่องที่มีความโปร่งใส และทางสมาคมส่งเสริมฯจะมีการไปขอรายชื่อนักลงทุนรายย่อยของ SCC กับทางบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TSD เพื่อที่จะทราบรายชื่อและประสานให้นักลงทุนรายย่อยมีการช่วยลงคะแนนเสียงให้มีการบรรจุวาระอื่นๆ ในการประชุมครั้งนี้
“เราทำหนังสือไปยัง SCC ขอให้เพิ่มวาระเพื่อให้ทางประธานที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีการชี้แจงความเสียหาย แนวทางป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นให้กับผู้ถือหุ้นทราบแม้ว่าจะมีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นไปแล้วหากมีผู้ถือหุ้นร้องขอให้มีการชี้แจงทาง SCCก็จะต้องมีการชี้แจงเพื่อให้เกิดความโปร่งใส”นายวิชัย
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวทางสมาคมส่งเสริมฯ จะพยายามที่จะมีการติดต่อไปยังนักลงทุนรายย่อยให้ครบทุกราย แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะทำได้ทั้งหมดหรือไม่ เพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ แต่จะพยายามติดต่อให้ได้มากที่สุด และทางสมาคมส่งเสริมฯ เองจะช่วยโหวตเช่นกัน แต่ยังไม่ทราบว่าเสียงที่รวบรวมได้นั้นจะพอมี 1 ใน 3 หรือไม่ โดยทางสมาคมส่งเสริมฯได้มีการส่งหนังสือไปยังทนายความของตระกูลอมาตยกุลแล้วว่าจะให้การช่วยเหลือในการดำเนินการดังกล่าว
นายวิชัย กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีนักลงทุนเข้ามาร้องเรียนกับทางสมาคมส่งเสริมฯ อย่างต่อเนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ได้รับความเสียหาย จากมูลค่าหุ้นที่ลดลง ความเสียหายที่เกิดจากการที่บริษัทมีการลดทุน การขายสินทรัพย์ออกไป รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่ส่อเค้าไปในทางทุจริต ฯลฯ
“จากเรื่องที่มีนักลงทุนรายย่อยร้องเรียนมา หากสมาคมส่งเสริมฯ สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันที ทางสมาคมส่งเสริมฯจะมีการดำเนินการทันทีเช่นกัน แต่ทางสมาคมส่งเสริมฯก็ไม่สามารถที่จะมีการช่วยเหลือได้หมด โดยจะพยายามจะช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด” นายวิชัย กล่าว
ส่วนกรณีของ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI กรณีที่ผู้บริหารบริษัทมีการยักยอกเงินและหุ้นนั้น ทางสมาคมส่งเสริมฯคงจะไม่มีการดำเนินการใดอีก เพราะขณะนี้กระบวนการได้เข้าไปอยู่ในกระบวนการกฎหมายแล้ว จากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการกล่าวโทษและมีการอายัดทรัพย์สินไปแล้วต้องปล่อยเป็นตามกระบวนการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินการต่อไป แต่ทางสมาคมส่งเสริมฯ จะติดตามถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างไร
นายวิชัย พูลวรลักษณ์ นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เปิดเผยถึง แนวนโยบายการช่วยเหลือผู้ถือหุ้นรายย่อย หลังจากช่วงที่ผ่านมาได้เกิดความเสียหายต่อบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง ว่า สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยได้ส่งหนังสือไปยังบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ให้มีการเพิ่มวาระการประชุมเพื่อที่จะชี้แจงข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปลอมใบ รวมถึงแนวทางป้องกันหรือช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้นได้รับทราบ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนายพิบูลย์ศักดิ์ สุขพงษ์ ทนายความกองมรดกของนายวรรโณทัย อมาตยกุล ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากหุ้นที่นายประพันธ์ ชูเมือง พนักงานของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ลักและปลอมใบหุ้นไปขายได้มีการส่งหนังสือมายังสมาคมส่งเสริมฯ ให้ช่วยประสานงานกับนักลงทุนรายย่อยให้มีการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น SCC ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ และช่วยลงคะแนนเสียงสนับสนุนให้มีการเพิ่มวาระอื่นๆ ให้ทางประธานที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ SCC มีการชี้แจงแนวทางดูแลผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหายจากการปลอมใบหุ้นดังกล่าว
โดยการดำเนินการดังกล่าวนั้น จะช่วยทำให้เกิดผลดีต่อ SCC ในเรื่องที่มีความโปร่งใส และทางสมาคมส่งเสริมฯจะมีการไปขอรายชื่อนักลงทุนรายย่อยของ SCC กับทางบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TSD เพื่อที่จะทราบรายชื่อและประสานให้นักลงทุนรายย่อยมีการช่วยลงคะแนนเสียงให้มีการบรรจุวาระอื่นๆ ในการประชุมครั้งนี้
“เราทำหนังสือไปยัง SCC ขอให้เพิ่มวาระเพื่อให้ทางประธานที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีการชี้แจงความเสียหาย แนวทางป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นให้กับผู้ถือหุ้นทราบแม้ว่าจะมีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นไปแล้วหากมีผู้ถือหุ้นร้องขอให้มีการชี้แจงทาง SCCก็จะต้องมีการชี้แจงเพื่อให้เกิดความโปร่งใส”นายวิชัย
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวทางสมาคมส่งเสริมฯ จะพยายามที่จะมีการติดต่อไปยังนักลงทุนรายย่อยให้ครบทุกราย แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะทำได้ทั้งหมดหรือไม่ เพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ แต่จะพยายามติดต่อให้ได้มากที่สุด และทางสมาคมส่งเสริมฯ เองจะช่วยโหวตเช่นกัน แต่ยังไม่ทราบว่าเสียงที่รวบรวมได้นั้นจะพอมี 1 ใน 3 หรือไม่ โดยทางสมาคมส่งเสริมฯได้มีการส่งหนังสือไปยังทนายความของตระกูลอมาตยกุลแล้วว่าจะให้การช่วยเหลือในการดำเนินการดังกล่าว
นายวิชัย กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีนักลงทุนเข้ามาร้องเรียนกับทางสมาคมส่งเสริมฯ อย่างต่อเนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ได้รับความเสียหาย จากมูลค่าหุ้นที่ลดลง ความเสียหายที่เกิดจากการที่บริษัทมีการลดทุน การขายสินทรัพย์ออกไป รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่ส่อเค้าไปในทางทุจริต ฯลฯ
“จากเรื่องที่มีนักลงทุนรายย่อยร้องเรียนมา หากสมาคมส่งเสริมฯ สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันที ทางสมาคมส่งเสริมฯจะมีการดำเนินการทันทีเช่นกัน แต่ทางสมาคมส่งเสริมฯก็ไม่สามารถที่จะมีการช่วยเหลือได้หมด โดยจะพยายามจะช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด” นายวิชัย กล่าว
ส่วนกรณีของ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI กรณีที่ผู้บริหารบริษัทมีการยักยอกเงินและหุ้นนั้น ทางสมาคมส่งเสริมฯคงจะไม่มีการดำเนินการใดอีก เพราะขณะนี้กระบวนการได้เข้าไปอยู่ในกระบวนการกฎหมายแล้ว จากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการกล่าวโทษและมีการอายัดทรัพย์สินไปแล้วต้องปล่อยเป็นตามกระบวนการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินการต่อไป แต่ทางสมาคมส่งเสริมฯ จะติดตามถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างไร
