บีบีซีนิวส์/รอยเตอร์ – อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ยักษ์ใหญ่ประกันภัยสัญชาติสหรัฐฯที่กำลังซวนเซ ส่งหนังสือถึงกระทรวงการคลังอเมริกัน แจ้งว่าบริษัทยินยอมกระทำตามข้อเรียกร้องที่ให้ปรับโครงสร้างการจ่ายเงินโบนัสแก่พนักงาน
ในหนังสือที่ เอดเวิร์ด ลิดดี ประธานของเอไอจี เขียนไปถึงรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ทิโมธี ไกธ์เนอร์ ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ในสื่อต่างๆ เขาระบุว่าจะตัดลดโบนัสในปี 2009 ที่จ่ายให้แก่พวกผู้บริหารระดับสูงลงเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เงินโบนัสที่ได้ทำความตกลงกันไว้ในปี 2008 นั้น ยังจะต้องจ่ายตามนั้น เนื่องจากมีผลผูกพันตามกฎหมายไปแล้ว
เอไอจีซึ่งเคยมีฐานะเป็นบริษัทประกันภัยรายใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อวัดจากมูลค่าตามราคาตลาดหลักทรัพย์ ต้องรับเงินช่วยเหลือกู้ชีวิตจากรัฐบาลสหรัฐฯหลายระลอก รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 180,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่กลางปี 2008 เป็นต้นมา โดยเชื่อกันว่า น่าจะเป็นบริษัทอเมริกันที่ได้รับความช่วยเหลือกู้ชีวิตจากรัฐบาลเป็นจำนวนเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ เอไอจีแสดงบทบาทสำคัญในการรับประกันความเสี่ยงให้แก่พวกธนาคารและสถาบันการเงินทั่วโลก และถูกมองว่ามีความสำคัญมากเกินกว่าที่จะปล่อยให้ล้มครืนลงไป
ในหนังสือฉบับดังกล่าว ลิดดีบอกว่า เขาตกอยู่ใต้แรงกดดันจากไกธ์เนอร์ ให้ต้องลดเงินโบนัสที่บริษัทจ่ายให้พนักงาน แต่เขาก็แก้ต่างว่า โบนัสที่ได้ตกลงกันไปในปี 2008 ก่อนที่ปัญหาของบริษัทจะบานปลายใหญ่โตมโหฬารนั้น ตามกฎหมายแล้วย่อมไม่สามารถที่จะไม่จ่ายได้
“พูดกันตรงไปตรงมาก็คือ เอไอจีถูกมัดมือมัดเท้าทำอะไรไม่ได้” ลิดดีเขียนไว้ในหนังสือของเขา
“ภายใต้สภาพการณ์ในปัจจุบัน ผมไม่ชอบการตกลงกันที่ทำไปแล้วเหล่านี้เลย และพบว่ามันเป็นเรื่องน่ารังเกียจและก็ยากลำบากที่จะต้องขอเสนอแนะกับท่านว่า เราจำเป็นต้องดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป”
เอไอจีนั้นได้ให้สัญญาที่จะจ่ายเงินโบนัสแก่พนักงานรวมทั้งสิ้นหลายร้อยล้านดอลลาร์
มีรายงานว่า ลิดดีและผู้บริหารระดับสูงอื่นๆ อีก 6 คน ยินยอมที่จะให้ลดเงินโบนัสลง
ขณะเดียวกัน ในหนังสือที่ลิดดีเขียนถึงไกธ์เนอร์ ก็บอกว่า เอไอจีจะดำเนินการอย่างดีที่สุดเพื่อลดเงินโบนัสลงมาให้ได้อย่างน้อย 30% ในปี 2009
ในหนังสือที่ เอดเวิร์ด ลิดดี ประธานของเอไอจี เขียนไปถึงรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ทิโมธี ไกธ์เนอร์ ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ในสื่อต่างๆ เขาระบุว่าจะตัดลดโบนัสในปี 2009 ที่จ่ายให้แก่พวกผู้บริหารระดับสูงลงเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เงินโบนัสที่ได้ทำความตกลงกันไว้ในปี 2008 นั้น ยังจะต้องจ่ายตามนั้น เนื่องจากมีผลผูกพันตามกฎหมายไปแล้ว
เอไอจีซึ่งเคยมีฐานะเป็นบริษัทประกันภัยรายใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อวัดจากมูลค่าตามราคาตลาดหลักทรัพย์ ต้องรับเงินช่วยเหลือกู้ชีวิตจากรัฐบาลสหรัฐฯหลายระลอก รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 180,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่กลางปี 2008 เป็นต้นมา โดยเชื่อกันว่า น่าจะเป็นบริษัทอเมริกันที่ได้รับความช่วยเหลือกู้ชีวิตจากรัฐบาลเป็นจำนวนเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ เอไอจีแสดงบทบาทสำคัญในการรับประกันความเสี่ยงให้แก่พวกธนาคารและสถาบันการเงินทั่วโลก และถูกมองว่ามีความสำคัญมากเกินกว่าที่จะปล่อยให้ล้มครืนลงไป
ในหนังสือฉบับดังกล่าว ลิดดีบอกว่า เขาตกอยู่ใต้แรงกดดันจากไกธ์เนอร์ ให้ต้องลดเงินโบนัสที่บริษัทจ่ายให้พนักงาน แต่เขาก็แก้ต่างว่า โบนัสที่ได้ตกลงกันไปในปี 2008 ก่อนที่ปัญหาของบริษัทจะบานปลายใหญ่โตมโหฬารนั้น ตามกฎหมายแล้วย่อมไม่สามารถที่จะไม่จ่ายได้
“พูดกันตรงไปตรงมาก็คือ เอไอจีถูกมัดมือมัดเท้าทำอะไรไม่ได้” ลิดดีเขียนไว้ในหนังสือของเขา
“ภายใต้สภาพการณ์ในปัจจุบัน ผมไม่ชอบการตกลงกันที่ทำไปแล้วเหล่านี้เลย และพบว่ามันเป็นเรื่องน่ารังเกียจและก็ยากลำบากที่จะต้องขอเสนอแนะกับท่านว่า เราจำเป็นต้องดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป”
เอไอจีนั้นได้ให้สัญญาที่จะจ่ายเงินโบนัสแก่พนักงานรวมทั้งสิ้นหลายร้อยล้านดอลลาร์
มีรายงานว่า ลิดดีและผู้บริหารระดับสูงอื่นๆ อีก 6 คน ยินยอมที่จะให้ลดเงินโบนัสลง
ขณะเดียวกัน ในหนังสือที่ลิดดีเขียนถึงไกธ์เนอร์ ก็บอกว่า เอไอจีจะดำเนินการอย่างดีที่สุดเพื่อลดเงินโบนัสลงมาให้ได้อย่างน้อย 30% ในปี 2009
