ASTVผู้จัดการายวัน – กรุงเทพดุสิตเวชการ พับแผนลงทุนในตะวันออกกลางเหตุพันธมิตรร่วมทุนไม่พร้อม รอเศรษฐกิจฟื้นเพื่อมาเจรจาอีกครั้ง ขณะที่หั่นงบลงทุนเหลือ 1 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ใช้ถึง 2 พันล้านบาท หลังวิกฤตเศรษฐกิจทำพิษกระทบรายได้บางสาขาหด ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10% หรือที่ 2.2 หมื่นล้านบาท
นายวัลลภ อภิคมประภา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตัดงบลงทุนลดลงเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ จึงทำให้ต้องเลื่อนแผนการลงทุนในโรงพยาบาลที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตห์ออกไปก่อนเนื่องจากพันธมิตรที่ร่วมลงทุนยังไม่พร้อม และขอดูสถานการณ์เศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจึงจะพิจารณาใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์รายได้ปีนี้ที่ 22,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 8- 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 21,831 ล้านบาท และพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ 7.6% โดยบริษัทเน้นเพิ่มปริมาณผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการกับโรงพยาบาลในเครือทุกสาขาให้เพิ่มขึ้น โดยจะนำกลยุทธ์การลดราคาเข้ามาใช้ และปรับปรุงการให้บริการเพื่อระตุ้นความสนใจ
สำหรับปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ใช้เงินลงทุน 2,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่อีก 2 แห่ง คือโรงพยาบาลที่พนมเปญ 100 เตียง ซึ่งแบ่งเป็นเฟสแรก 50 เตียง และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายนนี้ และโรงพยาบาลที่หัวหิน 50 เตียง ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องสิ่งแวดล้อม คาดได้รับคำตอบหลังสงกรานต์นี้ และสามารถเปิดให้บริหารได้ปี 2553 อีกทั้งใช้ซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ และปรับปรุงเครื่องมือการแพทย์เก่าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ภายใต้เศรษฐกิจเช่นนี้บริษัทไม่มีนโยบายในการปรับลดพนักงาน แต่จะใช้วิธีการโอนย้ายพนักงานไปยังสาขาที่เรามีอยู่ที่ยังมีความต้องการกำลังคนเพิ่ม เนื่องจากบางสาขายังมีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการ ส่วนบางสาขาผู้ป่วยหดหาย เรามองว่ามันคงชดเชยกันได้ทั้งในเรื่องของบุคลากร และรายได้" นายวัลลภ กล่าว
อย่างไรก็ตามภายใต้เศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ขณะนี้ บริษัทมีจำนวนผู้ป่วยต่างชาติช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ลดลง 3% แต่เมื่อเปรียบเทียบเป็นระยะเวลาปีต่อปี ปรับลดลง 2% ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน แต่หากเมื่อเทียบระยะเวลาเดือนต่อเดือนเพิ่มขึ้นประมาณ 19%
นายวัลลภ อภิคมประภา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตัดงบลงทุนลดลงเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ จึงทำให้ต้องเลื่อนแผนการลงทุนในโรงพยาบาลที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตห์ออกไปก่อนเนื่องจากพันธมิตรที่ร่วมลงทุนยังไม่พร้อม และขอดูสถานการณ์เศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจึงจะพิจารณาใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์รายได้ปีนี้ที่ 22,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 8- 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 21,831 ล้านบาท และพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ 7.6% โดยบริษัทเน้นเพิ่มปริมาณผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการกับโรงพยาบาลในเครือทุกสาขาให้เพิ่มขึ้น โดยจะนำกลยุทธ์การลดราคาเข้ามาใช้ และปรับปรุงการให้บริการเพื่อระตุ้นความสนใจ
สำหรับปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ใช้เงินลงทุน 2,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่อีก 2 แห่ง คือโรงพยาบาลที่พนมเปญ 100 เตียง ซึ่งแบ่งเป็นเฟสแรก 50 เตียง และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายนนี้ และโรงพยาบาลที่หัวหิน 50 เตียง ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องสิ่งแวดล้อม คาดได้รับคำตอบหลังสงกรานต์นี้ และสามารถเปิดให้บริหารได้ปี 2553 อีกทั้งใช้ซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ และปรับปรุงเครื่องมือการแพทย์เก่าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ภายใต้เศรษฐกิจเช่นนี้บริษัทไม่มีนโยบายในการปรับลดพนักงาน แต่จะใช้วิธีการโอนย้ายพนักงานไปยังสาขาที่เรามีอยู่ที่ยังมีความต้องการกำลังคนเพิ่ม เนื่องจากบางสาขายังมีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการ ส่วนบางสาขาผู้ป่วยหดหาย เรามองว่ามันคงชดเชยกันได้ทั้งในเรื่องของบุคลากร และรายได้" นายวัลลภ กล่าว
อย่างไรก็ตามภายใต้เศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ขณะนี้ บริษัทมีจำนวนผู้ป่วยต่างชาติช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ลดลง 3% แต่เมื่อเปรียบเทียบเป็นระยะเวลาปีต่อปี ปรับลดลง 2% ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน แต่หากเมื่อเทียบระยะเวลาเดือนต่อเดือนเพิ่มขึ้นประมาณ 19%