“วิทยา”ขอฟ้งเอกชนห้ามขายเหล้าสงกรานต์ ด้านเครือข่ายต้านเหล้าค้านจัดโซนนิง

“วิทยา” รับฟังความเห็นสร้างความเข้าใจภาคเอกชน ก่อนคุมห้ามขายเหล้า-เบียร์ ช่วงสงกรานต์นี้ ถกวันห้ามจำหน่าย รวมถึงพื้นที่ เล็งคุมขายเหล้าวันสำคัญทางศาสนา ด้านภาคประชาชนลุ้นประกาศห้ามขายเหล้าช่วงเทศกาล ค้านจัดโซนนิงเพราะทำไม่ได้แน่ เตรียมตบเท้าเข้าพบ รมว.สธ.วันที่ 4 มี.ค.นี้อีกรอบ หวังกระตุ้นให้แสดงจุดยืนเข้มแข็ง เตรียมสำรวจความเห็นนักท่องเที่ยวพร้อมเสนอเพิ่มเพื่อให้ข้อมูลรอบด้าน

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า

ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานภาคเอกชนผู้ผลิต ผู้นำเข้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และภาคบริการ การท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อหารือถึงแนวทางในการควบคุมการจำหน่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถประชุ่มได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยจะรับฟังความเห็นของภาคเอกชนว่าเห็นด้วยกับมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือไม่ โดยตนจะชี้แจงถึงเหตุผลและความจำเป็นของการมาตรการห้ามจำหน่ายดังกล่าวให้ภาคเอกชนเข้าใจมากขึ้น

จากนั้นจะนำผลการหารือดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ตนเป็นประธาน เพื่อสรุปเป็นมติเสนอไปยังคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและมีผลบังคับใช้ให้ทันเทศกาลสงกรานต์ปีนี้

“ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่จะออกมาตรการควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องขัดต่อศีลธรรม และเป็นปัญหาทางสังคม ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเบื้องต้น จะพิจารณาเรื่องห้ามวันจำหน่าย และพิจารณากำหนดพื้นที่ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย

นอกจากนี้ ยังเห็นด้วยที่จะมีการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนาด้วย ส่วนวันนักขัตฤกษ์อื่นๆ จะต้องมีการหารือในรายละเอียดอีกครั้งว่ามีความจำเป็นหรือไม่” นายวิทยา กล่าว

นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้การสรรหาคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ และองค์กรอิสระ รวม 6 คน เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบเท่านั้น จึงถือว่าสามารถทำงานได้สมบูรณ์แล้ว ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้ จะสามารถประชุมเพื่อวางแนวทางการทำงานให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ได้อย่างเต็มที่

ด้านนายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ภาคประชาชนเห็นด้วยกับแนวทางการประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 13-15 เมษายน โดยไม่มีข้อยกเว้น และไม่เห็นด้วยกับการจะประกาศโดยจัดเป็นโซนนิ่ง เพราะสร้างปัญหาในเรื่องการบังคับใช้ และสามารถปฏิบัติได้ยาก ในการแยกแยะว่าใครเป็นนักท่องเที่ยวบ้าง หรือ คำจำกัดความของนักท่องเที่ยวคืออะไร หรือ จะแบ่งแยกว่า กรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขายได้ จังหวัดอื่นขายไม่ได้ ย่อมไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องเพราะประเทศเดียวกันไม่ควรมีกฎหมายที่เป็น 2 มาตรฐาน ซึ่งเชื่อว่าหากประเทศไทยบังคับใช้กฎหมายให้เป็นหนึ่งเดียวแล้ว นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาก็จะสามารถเข้าใจได้

“รมว.สาธารณสุข ควรยึดถือปรัชญาของกระทรวงเพื่อลดจำนวนผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต จากอุบัติเหตุที่จะมาจากการเมาสุรา ไม่ควรคิดแทนกระทรวงอื่น เพราะจากข้อมูลชี้อย่างชัดเจนว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลนั้น สาเหตุหลักเกิดมาจากการเมาสุรา และยังมีปัญหาด้านอื่น เช่น อาชญากรรม สังคม ครอบครัว นายวิทยา ควรมีจุดยืดที่เข้มแข็งและทำเพื่อรักษาชีวิตของประชาชนไทย และลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุด้วย” นายคำรณ กล่าว

นายคำรณ กล่าวว่า ในวันที่ 4 มีนาคม นี้ ภาคประชาสังคมจะเดินทางเข้าพบนายวิทยา เพื่อนำข้อมูลผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลต่างๆ และขณะนี้กำลังจะสำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ว่า เห็นอย่างไรกับการใช้มาตรการดังกล่าว เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบรอบด้าน ซึ่งในส่วนของคนไทย มีข้อมูลความคิดเห็นจากประชาชน ผู้ประกอบการ แล้ว ว่าเห็นด้วยในการใช้มาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาล เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาประกอบเพื่อนำไปประกาศกฎหมายต่อไป