xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ศก.ถกย้ายดอนเมือง "โสภณ"หนุนกลับสุวรรณภูมิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"อภิสิทธิ์"โยนครม.เศรษฐกิจชี้ขาดย้ายดอนเมือง ส่วน“โสภณ”ถกหน่วยงาน ยันนโยบายย้ายการบินไทยกลับสุวรรณภูมิถูกต้อง เป็นความต้องการของการบินไทยลดค่าใช้จ่ายทันที 600 ล้านบาท เตรียมเจรจาบีบ วันทูโก นกแอร์ ย้ายตามในปีนี้ ย้ำดอนเมือง ต้องไม่มีเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ สหภาพฯที่คัดค้าน ยันคลังไม่เกี่ยวเรื่องนี้ เป็นเรื่องของคมนาคมจะรับผิดชอบเอง เผยเบื้องหลังสหภาพฯบินไทยแตก 2 ฝ่าย ค้านย้ายออกจากดอนเมือง ขณะที่อีกฝ่านขับไล่"แจ่มศรี" ประธานสหภาพฯ ไม่พอใจ ย้ายที่ประชุมไม่ขอมติก่อน ยันหาช่องทางถอดถอน ชี้เอาคนนอกร่วมวงปราศรัยไม่เหมาะสม ด้าน"แจ่มศรี"ระบุทำตามระเบียบ ขอคัดค้านการย้ายจากดอนเมือง แฉกลุ่มขับไล่ รับใช้ฝ่ายบริหารปกป้องตัวเอง เพราะกำลังถูกสอบวินัย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงปัญหาความขัดแย้งของบริษัทการบินไทยว่า ได้กำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือแผนการย้ายสนามบินจากดอนเมืองไปยังสุวรรณภูมิ ของบริษัทการบินไทย เพื่อทบทวนเกี่ยวกับแผนการใช้สนามบินเดี่ยว เพื่อเปรียบเทียบตัวเลขว่า สามารถลดต้นทุนได้อย่างไรบ้าง รวมทั้งให้รับฟังเสียงสะท้อนจากทั้งลูกค้าและพนักงานว่า จะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง ก่อนนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจในวันนี้

ส่วนกรณีที่มีชื่อ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่มองว่า ใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์ มาสมัครเป็นดีดีการบินไทย ยืนยันว่า คงไม่มีใครไปควบคุมหรือสั่งการ นายปิยสวัสดิ์ ได้ เพราะเป็นคนชอบทำงานอิสระ

"โสภณ"เมินนายกฯย้ายกลับสุวรรณภูมิ

วานนี้ (10 มี.ค.) นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้เรียกหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการย้ายเที่ยวบินภายในประเทศของการบินไทยจากสนามบินดอนเมืองกลับไปปฎิบัติการบินสนามบินสุวรรณภูมิประชุม เช่น นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมและประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ,นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) , นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. นายโชคชัย ปัญญายงค์ ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท การบินไทย และ กรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.)

โดยนายโสภณ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อยืนยันว่า นโยบายเรื่องการใช้สนามบินสุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียวไม่ผิดพลาด และกรณีที่การบินไทยย้ายเที่ยวบินกลับไปสุวรรณภูมิไม่ได้หมายความว่าจะปิดสนามบินดอนเมือง โดยกระทรวงคมนาคมมีนโยบาย 2 เรื่อง คือต้องการให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค (HUB) และเร่งฟื้นฟูกิจการบริษัทการบินไทย ซึ่งหลักการฟื้นฟูการบินไทยจะต้องลดรายจ่ายซึ่งที่เป็นรูปธรรมทำได้ทันทีไม่ต้องลงทุนเพิ่มการบินไทยได้ขอย้ายการบินจากดอนเมืองมาสุวรรณภูมิทั้งหมด โดยจะลดค่าใช้จ่ายได้ทันทีปีละ 600 ล้านบาท

นายโสภณ กล่าวว่า การบินไทยควรเป็นสายการบินหลักและรายใหญ่ของเส้นทางบินในประเทศ แต่ที่สุวรรณภูมิซึ่งเป็นตลาดหลักการบินไทยมีผู้โดยสารกว่า 4 แสนคนต่อเดือนส่วนที่ดอนเมืองมีแสนกว่าคน แต่กลับสู้ไทยแอร์เอเชียไม่ได้ สาเหตุเพราะเครื่องบินส่วนหนึ่งต้องแบ่งมาไว้ที่ดอนเมืองเครื่องบินมีจำกัด มีปัญหาในการบริหารจัดการ การหมุนเวียนการใช้เครื่องบินไม่ได้เต็มที่ ต้องบินเครื่องเปล่าไปมาดอนเมืองสุวรรณภูมิ ส่วนไทยแอร์เอเชียทำการบินที่สุวรรณภูมิแห่งเดียว ผู้โดยสารต่อเครื่องได้รับความสะดวกมากกว่า

นอกจากนี้ การที่ดอนเมืองและสุวรรณภูมิอยู่ห่างกันเพียง 18 กิโลเมตรขณะที่อังกฤษมี 2 สนามบินแต่ห่างกัน 24 กิโลเมตร เป็นปัญหาในการจัดการจราจรทางอากาศ เกิดจุดตัดบนอากาศกว่า 200 จุดต่อวัน มีความเสี่ยงสูง เครื่องบินทำการบินขึ้นลงแบบอัตโนมัติไม่ได้ ต้องจัดจราจรทางอากาศผิดธรรมชาติ เสียเวลา และน้ำมันเชื้อเพลิงรวมถึงต้องทำการบินลงต่ำเพื่อเลี่ยงจุดตัด ก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียง

บีบวันทูโก นกแอร์ ย้ายตามภายในปีนี้

สำหรับวันทูโก และนกแอร์ ซึ่งยังทำการบินที่ดอนเมืองอยู่นั้น นายโสภณกล่าวว่า จะเจรจาเพื่อให้ย้ายเที่ยวบินกลับไปสุวรรณภูมิภายในปีนี้ ดอนเมืองจะต้องไม่มีการบินเชิงพาณิชย์ โดยจะให้เวลาทั้ง2 สายการบินในการเตรียมความพร้อมทั้งในการหาสำนักงานที่สุวรรณภูมิและการจัดตารางการบินที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน เพราะหากยังมีสายการบินที่ดอนเมือง นโยบายเรื่องฮับและการแก้ปัญหาการจราจรทางอากาศก็จะยังคงอยู่ เพราะดอนเมืองกับสุวรรณภูมิทำการบินขึ้นลงพร้อมกันไม่ได้

“ได้ให้ฝ่ายบริหารการบินไทยไปชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มสหภาพฯที่คัดค้าน ยืนยันว่าการย้ายการบินไทยไม่ได้ทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กัยสายการบินใดสายการบินหนึ่ง แต่เป็นการสร้างศักยภาพให้การบินไทยให้แข่งขันกับสายการบินอื่นๆได้ ก่อนหน้านี้การบินไทยก็แอบย้ายเครื่องบินกลับไปสุวรรณภูมิบางส่วนแล้วเพราะแบกรับภาระขาดทุนไม่ไหว การใช้สุวรรณภูมิทำการบินเพียงแห่งเดียวจะแก้ปัญหาทั้งหมด และให้สุวรรณภูมิเป็นฮับ ขณะที่การมี 2 สนามบินทำให้ไทยแข่งขันกับสิงคโปร์และมาเลเซียไม่ได้”นายโสภณกล่าว

สำหรับการย้ายการบินไทยมาดอนเมืองถือเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดก่อน ตนไม่รับรู้แต่การย้ายครั้งนี้เป็นนโยบายรัฐบาลนี้ และ 29 มี.ค.การบินไทยต้องย้ายกลับสุวรรณภูมิทั้งหมด โดยมีเหตุผลที่การบินไทยต้องการย้ายเอง ส่วนกระทรวงการคลังนั้นแม้เป็นผู้ถือหุ้นแต่ เรื่องนี้เป็นส่วนของกระทรวงคมนาคมที่ตนเป็นผู้จัดการ และรับผิดชอบเรื่องนี้ ส่วนนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ลงมายุ่งกับเรื่องนี้แต่ก็แสดงความเป็นห่วง ซึ่งได้อธิบายไปแล้ว

“ผมยืนยันไม่ได้ย้ายเพื่อหาประโยชน์ ไม่ได้โกงใคร ย้ายเพื่อให้การบินไทยอยู่ได้ ส่วนคำครหาว่าย้ายกลับไปเพื่อต้องการให้สุวรรณภูมิแออัดจะได้ทำเฟส 2 นั้นต้องบอกว่า วันนี้จะย้ายหรือไม่ย้ายเฟส 2 ก็ต้องเดินหน้า”นายโสภณกล่าว

ไทยแอร์เอเชีย”ชี้บินไทยขาดทุนอย่าโทษคนอื่น

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชียกล่าวว่า ธุรกิจการบินวันนี้เป็นการแข่งขันเสรี จะอยู่ได้อย่างไรขึ้นกับการตลาด ซึ่งการบินไทยควรมองตัวเองไม่ควรโทษคนอื่น ก่อนหน้านี้ประเทศไทยไม่มีสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline) ไม่มีใครแข่งขันการบินไทยก็ขาดทุนการบินในประเทศ วันนี้มี Low Cost การบินไทยก็อ้างว่าขาดทุน

สำหรับ ไทยแอร์เอเชียไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารมากนัก ผู้โดยสารส่วนใหญ่ต้องขึ้นรถเพื่อไปขึ้นเครื่องบิน ไม่ค่อยได้ใช้สะพานเทียบเครื่องบินเพราะมีงบจำกัด แต่ผู้โดยสารก็ยังคงเลือกใช้บริการเพราะค่าโดยสารต่ำ ขณะที่การบินไทยควรมองสายการบินที่อยู่ในระดับเดียวกันและแข่งขันกับสายการบินเหล่านั้นมากกว่ามองไทยแอร์เอเชียเพราะลูกค้าคนละกลุ่ม

“ยอมรับว่าได้ทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมช่วงที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นรมว.คมนาคมเพราะมีแนวคิดเรื่องย้ายเที่ยวบิน จึงต้องการทราบนโยบายและแผนแม่บทการบริหารสนามบินทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิที่ชัดเจนแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ เราจึงอยู่ที่สุวรรณภูมิมาตลอด เพราะการย้ายไปมาต้องชัดเจน ไป 1 ปี 2 ปีแล้วกลับอีกไม่คุ้ม”นายทัศพลกล่าว

ประชุมสหภาพฯบินไทยป่วน

วานนี้ (10 มี.ค.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ได้จัดประชุมวิสามัญเพื่อคัดค้านการย้ายเที่ยวบินการบินไทยจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปท่าอากาศยานสุวรรรภูมิ โดยมีสมาชิกหลายร้อยคนเข้าร่วม เริ่มประชุมตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. ปรากฎว่ามีกลุ่มสมาชิกสหภาพฯ ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มของแกนนำสหภาพฯ ชุดเก่าได้เริ่มซักถามเกี่ยวกับการดำเนินงานและการใช้จ่ายของสหภาพฯ ทำให้นางเจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพฯ การบินไทย ย้ายการประชุมลงมาเปิดการปราศรัยด้านนอกบริเวณด้านข้างอาคาร 9 แทนและทำให้สมาชิกสหภาพฯ แบ่งเป็น 2 ฝ่ายโดยฝ่ายหนึ่งปราศรัยคัดค้านการย้ายเที่ยวบินกลับไปสุวรรณภูมิอีกฝ่ายหนึ่งตะโกนขับไล่ นางแจ่มศรี

ทั้งนี้ นางแจ่มศรี ได้ชี้แจงกับสมาชิกสหภาพฯ ที่สนับสนุนการคัดค้านการย้ายกลับสุวรรณภูมิ และมีตัวแทนจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เช่น นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ขึ้นปราศรัยคัดค้านการย้ายกลับของการบินไทย ทำให้กลุ่มที่ ขับไล่นางแจ่มศรีไม่พอใจ โดยเห็นว่าเป็นบุคคลภายนอกไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของการบินไทย

เตรียมถอดถอน”แจ่มศรี”

ต่อมาเวลา 11.00 น.กลุ่มขับไล่นางแจ่มศรีสลายตัวโดยได้แถลงการณ์ ระบุว่า สมาชิกสหภาพฯส่วนใหญ่ถูกนางแจ่มศรีหลอกให้เข้ามาร่วมประชุมและนางแจ่มศรีได้ดำเนินการขัดระเบียบ ข้อบังคับ ทำให้สหภาพฯการบินไทยและบริษัทการบินไทย ได้รับความเสียหาย ดังนั้น กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนางแจ่มศรีจะดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มของนางแจ่มศรีโดยใช้ช่องทางของระเบียบเปิดประชุมเพื่อถอดถอนนางแจ่มศรี พร้อมทั้งร้องเรียนไปยังกระทรวงแรงงานเอาผิดในกรณีที่นางแจ่มศรีสั่งย้ายที่ประชุมโดยไม่ขอมติที่ประชุมก่อน

นายภาคภูมิ พันธุ์รัตน์ แกนนำสมาชิกสหภาพฯการบินไทยกลุ่มต่อต้านนางแจ่มศรีกล่าวว่า ประธานสหภาพฯไม่ดำเนินการประชุมประชุมตามระเบียบ การย้ายออกจากห้องประชุมโดยไม่มีการขอมติที่ประชุมก่อนไม่ถูกต้อง และยังเอาบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมเคลื่อนไหว ซึ่งการออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการย้ายกลับสุวรรณภูมิของกลุ่มนางแจ่มศรีช้าเกินไป ในขณะที่บริษัทมีการประกาศและขายตั๋วไปแล้ว การเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดความวุ่นวาย โดยขณะนี้บริษัทกำลังเริ่มมีกำไรจากก่อนหน้านี้ที่ต้องประสบกับการขาดทุนเพราะวิกฤติการเงินและการปิดสนามบิน การคัดค้านย้ายกลับควรหาข้อสรุปในที่ประชุมไม่ใช่ออกมาเคลื่อนไหวด้วยวิธีนี้

“แจมศรี”แฉกลุ่มต่อต้านรับใช้ฝ่ายบริหาร

ด้านนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวว่า กลุ่มที่ออกมาขับไล่ตนนั้น ล้วนเป็นคนของผู้บริหารทั้งสิ้นซึ่งกว่า 40 คน กำลังถูกสอบสวนทางวินัยกรณีทุจริตฉ้อโกงเวลาบริษัท ซึ่งตนไม่ต้องการพูดถึงเพราะวันนี้ประเด็นหลักคือการคัดค้านการย้ายจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ และยืนยันว่า ได้แจ้งที่ประชุมแล้วว่าจะเปลี่ยนที่ประชุมและการที่ตัวแทนของสรส.และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจอื่นๆ มาร่วมนั้นมาแสดงความคิดเห็นในฐานะที่เป็นผู้โดยสารที่ใช้บริการ ซึ่งการบินไทยเป็นบริษัทมหาชน ผู้โดยสารสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้

นางแจ่มศรีกล่าวว่า การบินไทยต้องอยู่ดอนเมืองต่อไปเท่าที่ดอนเมืองยังเปิดให้บริการเที่ยวบินและสนามบินสุวรรณภูมิไม่เรียบร้อย เป็นการไม่ยุติธรรมที่ให้การบินไทยย้ายกลับแล้วให้นกแอร์และวันทูโกใช้ดอนเมืองต่อไป การประชุมวันนี้ (10 ม.ค.) ต้องการคัดค้านการย้ายเที่ยวบินของการบินไทยจากดอนเมืองกลับไปสุวรรณภูมิโดยต้องการให้ฝ่ายบริหารชี้แจงข้อมูลมากกว่าอ้างว่าลดค่าใช้จ่ายได้ 600 ล้านบาท เพราะหากการใช้ดอนเมืองขาดทุนทำไมการบินไทยอยู่มาได้ 2 ปี ทำไมไม่ย้ายกลับไปตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งรัฐบาลบอกว่าไม่บังคับให้เป็นไปโดยสมัครใจเรื่องนี้ฝ่ายบริหารการบินไทยทำเอง และรวดเร็วมาก ซึ่งการย้ายเที่ยวบินของการบินไทยเป็นเรื่องใหญ่ โดยสหภาพฯ จะยุติหรือไม่อยู่ที่ประชุมสมาชิกสหภาพฯและฝ่ายบริหารต้องชี้แจงรายละเอียดมากกว่านี้

“ตอนย้ายกลับมาใช้ดอนเมืองตอนนั้นฝ่ายบริหารทุกคนบอกว่ามีผุ้โดยสารโต 6% กระทรวงคมนาคมก็พอใจเพราะลดความแออัดของสุวรรณภูมิ แต่ครั้งนี้เป็นการกระทำที่เร่งรีบ ส่วนตั๋วโดยสารที่ขายไปแล้ว เป็นเรื่องที่ดีที่บริษัทขายตั๋วได้มาก ส่วนการจะขึ้นเครื่องบินที่ไหน เป็นเรื่องการประชาสัมพันธ์แจ้งให้ผู้โดยสารทราบ”นางแจ่มศรีกล่าว

ทั้งนี้ สหภาพฯ การบินไทยได้ออกแถลงการณ์ “หยุด!ปล้นการบินไทย ยืนยันการใช้ดอนเมืองต่อไป โดยระบุว่าผุ้ดดยสารภายในประเทศจำนว23 เที่ยวบินต่อวันของการบินไทยที่ดอนเมือง ขายตั๋วตรงได้เฉลี่ยเดือนละ 40 ล้านบาท ไม่รวมรายได้และกำไรจากฝ่าย Cargo ฝ่ายบริการภาคพื้น ฝ่ายโภชนาการ และฝ่ายช่าง ที่บริการนกแอร์ เช่าเหมาลำ และเครื่องบินทหาร ในขณะที่ฝ่ายบริหารุดแต่เรื่องการลดค่าใช้จ่ายไม่พูดถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นและศักยภาพของดอนเมือง ที่สนองความต้องการของผู้โดยสารมากกว่า และการย้ายออกจากดอนเมืองลูกค้าของการบินไทยจะไปใช้นกแอร์และวันทูโกแทน

สนามบินสุวรรณภูมิยังมีแผนขยายอาคารผู้โดยสาร ทางวิ่ง ทางขับ และสายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้ขอมาใช้บริการที่สนามบินดอนเมือง ในขณะที่การบินไทนขอย้ายกลับไปสุวรรณภูมิ ดังนั้นการบินไทยควรรอให้สุวรรณภูมิดำเนินการให้เสร็จก่อน การย้ายการบินไทยออกจากดอนเมืองจะทำให้ดอนเมืองเป็น POINT TO HUB ของสายการบินต่างชาติแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น