นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะกลับประเทศไทยช่วงสิ้นปีและขอให้มีการนิรโทษกรรมว่า จะไม่มีการนิรโทษกรรม ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ประนีประนอม กฎหมายว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องให้นิรโทษกรรม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ศาลได้ตัดสินไปแล้วและไม่ใช่คดีทางการเมือง แต่เป็นคดีทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อน ตนถึงได้ถามว่าจะให้มีการนิรโทษกรรมในคดีใด ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีนโยบายในเรื่องของกฎหมายนิรโทษกรรม ขอให้อยู่ในกรอบของการ ปฏิรูปการเมือง ถ้าองค์กรปฏิรูปการเมืองเห็นว่ากฎหมายบางอย่างไม่เป็นธรรมกระบวนการต่างๆ ไม่เป็นธรรมก็เสนอมาโดยคนกลางที่ไม่มีส่วนได้เสีย
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุล่าสุดจะกลับในสิ้นปีนี้มีนัยยะอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพระพ.ต.ท.ทักษิณพูดเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ต่อข้อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามพูดออกมาเพื่อให้สังคมเข้าใจว่าได้คุยกับรัฐบาลแล้วจะสามารถกลับได้ภายในสิ้นปี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า จะเดินทางกลับประเทศไทยในสิ้นปีนี้ภายหลังมีกระบวนการสมานฉันท์ว่า ไม่ทราบ อย่างที่เรียนคือ หยุดพูดเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณชั่วคราว
ส่วนที่ทางฝ่ายรัฐบาลก็ประโคมโดยบอกว่า จะประสานไล่ล่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะอยู่ที่ประเทศไหน นายสุเทพ กล่าวว่า ผมไม่ได้พูด เมื่อถามต่อว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ จะขอเจรจาเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ยินดีหรือไม่ ณ เวลาขณะนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคุยกับทุกคนได้อยู่แล้ว เมื่อถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะคุยกับคนในรัฐบาลจะต้องคุยกับใคร นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องถามเขาซิว่าเขาจะคุยกับใคร เมื่อถามว่า ได้รับรายงานหรือไม่ว่า วันที่ 27 มีนาคม กลุ่มคนเสื้อแดงจะเผด็จศึกรัฐบาล นายสุเทพ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ตามจับ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อให้ได้อายตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างเพราะคนอย่างท่านไม่ม่ความอายอยู่ในตัว และอาจอายไม่เป็น สิ่งที่รัฐบาลทำเพื่อให้การบังคับใชักฎหมายเป็นไปตามคยามจริง และการที่พ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องให้คนไทย เลิกห้ำหั่นกันเองถือเป็นการเรียกร้องเพื่อตัวเอง และทุกฝ่ายพร้อมหยุดแล้ว มีแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ และสมุนที่ยังเคลื่อนไหว การเรียกร้องดังกล่าวเหมือนพ.ต.ท.ทักษิณ นั่งอยู่บนโต๊ะเจรจาแล้วส่งมือมาให้จับ แต่ใต้โต๊ะกลับใช้เท้ากระทืบอยู่ แล้วอย่างนี้จะเกิดความสมานฉันท์ได้อย่างไร
ผมอยากให้จับตาตั้งแต่บัดนี้จนถึงช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าจะมีคนสำคัญบางคนเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อรับงานมาดำเนินภารกิจในช่วงเดือนนี้ อย่างไรก็ตามจากบทบาทของพ.ต.ท.ทักษิณกับคนเสื้อแดงชี้ให้เห็นว่าเป็นพวกเดียวกันและดำเนินการเพื่อล้มล้างรัฐบาล
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่าโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการกล่าวพาดพิงถึงการทำงานของรัฐบาล และพาดพิงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่าคำพูดส่อเจตนาของมันเอง คนระดับนี้คงรู้ตัวเองว่ามีเจตนาอะไรบ้านเมืองเราขณะนี้เราต้องการความสมานฉันท์มากที่สุด อยากให้ช่วยกันในภาพรวมของประเทศให้สามารถเดินไปข้างหน้า เพราะปัญหาเศรษฐกิจไม่ใช่เป็นปัญหาของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาของคนทั้งประเทศที่จะต้องช่วยกัน ถ้าเรามัวแต่จะเดินทางด้านการเมืองก็คงจะลำบาก ประเทศชาติก็จะลำบากไปด้วย ทั้งนี้ตนเชื่อมั่นว่าประชาชนจะแยกแยะออกว่าสิ่งไหนถูกสิ่งไหนไม่ถูก สิ่งไหนควรทำและไม่ควรทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่าส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีความจงรักภักดี อย่างที่ได้อ้างไว้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของบุคคล ตนไม่อยากพูดในภาพรวม ในเรื่องของบุคคลมันจะมีกี่คน เมื่อถามว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ระบุว่า เป็นสุนัขที่เชื่องแล้ว และพร้อมที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศเพื่อต่อสู้คดี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผมไม่อยากวิจารณ์ ท่านเป็นคนพูด ท่านคิดเองพูดเอง ผมก็ไม่เข้าใจ ในระดับอย่างนี้แล้วส่วนใหญ่ก็รู้กันดีคงไม่ต้องวิจารณ์
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร.กล่าวว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่มีผล เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับประชาชนเชื่อว่าประชาชนคนไทยฉลาด เรารู้และมีประสบการณ์ทั้งดีและไม่ดีรวมถึงวิจารณญาณ คิดว่าเขาฟังทุกฝ่ายจะดีเพื่อที่จะได้ประกอบการตัดสินใจได้ ตนคิดว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีผลอะไร ในส่วนของรัฐบาลเอง ถ้าสมมุติว่าเราร่วมมือกันและเปิดโอกาสให้เขาทำงาน เสียก่อนก็ดี
นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้า การเตรียมการเจรจากับทางการฮ่องกงเรื่องร่างสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อติดตาม ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มารับโทษว่า วันนี้คณะทำงานอัยการได้ประชุมเพื่อเสนอเรื่องให้ นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด พิจารณาเลือกตัวแทนฝ่ายอัยการเพื่อเข้าร่วม การเจรจา รวมถึงเนื้อหาในร่างสนธิสัญญา และกำหนดวันเดินทาง ซึ่งคาดว่าจะทราบความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.)
อัยการเดินหน้าทำงานเรื่องนี้ทุกวันไม่ได้ปล่อยปะละเลย โดยประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก ในการหาข้อเจรจาตกลงร่วมกัน เพื่อให้ทุกอย่างไปอย่างรวดเร็วและถูกต้อง เพราะเชื่อว่าหลายคนต้องการคำตอบที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ (10 มี.ค.) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ของรัฐบาลในขณะนี้ว่า ยังอยู่ได้ เพราะสังคมให้การยอมรับมากขึ้น เนื่องจากได้สร้างความหวังให้กับประชาชนในเรื่องของการปฏิรูปการเมือง เพราะประชาชนเชื่อว่าการเมืองจะดีขึ้น นอกจากนั้นยังได้วิเคราะห์ ถึงการไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณพยายามจัดตั้งคนอย่างเป็นเอกภาพมากขึ้น เพราะถือว่าเป็นช่วงสุดท้าย จึงสู้อย่างหนัก เพราะเขาต้องสูญเสียความเป็นนายกฯอินเตอร์ เนื่องจากที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณ มักจะคิดว่าตัวเองได้รับการยอมรับจากคนในประเทศและต่างชาติ แต่เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับการชื่นชม และยอมรับจากต่างชาติ โดยเฉพาะทูตอังกฤษ และต้องการแย้งพื้นที่ข่าว และเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรส เมืองดูไบ เป็นฐานในการเคลื่อนไหวเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องให้นิรโทษกรรม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ศาลได้ตัดสินไปแล้วและไม่ใช่คดีทางการเมือง แต่เป็นคดีทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อน ตนถึงได้ถามว่าจะให้มีการนิรโทษกรรมในคดีใด ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีนโยบายในเรื่องของกฎหมายนิรโทษกรรม ขอให้อยู่ในกรอบของการ ปฏิรูปการเมือง ถ้าองค์กรปฏิรูปการเมืองเห็นว่ากฎหมายบางอย่างไม่เป็นธรรมกระบวนการต่างๆ ไม่เป็นธรรมก็เสนอมาโดยคนกลางที่ไม่มีส่วนได้เสีย
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุล่าสุดจะกลับในสิ้นปีนี้มีนัยยะอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพระพ.ต.ท.ทักษิณพูดเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ต่อข้อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามพูดออกมาเพื่อให้สังคมเข้าใจว่าได้คุยกับรัฐบาลแล้วจะสามารถกลับได้ภายในสิ้นปี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า จะเดินทางกลับประเทศไทยในสิ้นปีนี้ภายหลังมีกระบวนการสมานฉันท์ว่า ไม่ทราบ อย่างที่เรียนคือ หยุดพูดเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณชั่วคราว
ส่วนที่ทางฝ่ายรัฐบาลก็ประโคมโดยบอกว่า จะประสานไล่ล่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะอยู่ที่ประเทศไหน นายสุเทพ กล่าวว่า ผมไม่ได้พูด เมื่อถามต่อว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ จะขอเจรจาเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ยินดีหรือไม่ ณ เวลาขณะนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคุยกับทุกคนได้อยู่แล้ว เมื่อถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะคุยกับคนในรัฐบาลจะต้องคุยกับใคร นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องถามเขาซิว่าเขาจะคุยกับใคร เมื่อถามว่า ได้รับรายงานหรือไม่ว่า วันที่ 27 มีนาคม กลุ่มคนเสื้อแดงจะเผด็จศึกรัฐบาล นายสุเทพ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ตามจับ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อให้ได้อายตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างเพราะคนอย่างท่านไม่ม่ความอายอยู่ในตัว และอาจอายไม่เป็น สิ่งที่รัฐบาลทำเพื่อให้การบังคับใชักฎหมายเป็นไปตามคยามจริง และการที่พ.ต.ท.ทักษิณเรียกร้องให้คนไทย เลิกห้ำหั่นกันเองถือเป็นการเรียกร้องเพื่อตัวเอง และทุกฝ่ายพร้อมหยุดแล้ว มีแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ และสมุนที่ยังเคลื่อนไหว การเรียกร้องดังกล่าวเหมือนพ.ต.ท.ทักษิณ นั่งอยู่บนโต๊ะเจรจาแล้วส่งมือมาให้จับ แต่ใต้โต๊ะกลับใช้เท้ากระทืบอยู่ แล้วอย่างนี้จะเกิดความสมานฉันท์ได้อย่างไร
ผมอยากให้จับตาตั้งแต่บัดนี้จนถึงช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าจะมีคนสำคัญบางคนเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อรับงานมาดำเนินภารกิจในช่วงเดือนนี้ อย่างไรก็ตามจากบทบาทของพ.ต.ท.ทักษิณกับคนเสื้อแดงชี้ให้เห็นว่าเป็นพวกเดียวกันและดำเนินการเพื่อล้มล้างรัฐบาล
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่าโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการกล่าวพาดพิงถึงการทำงานของรัฐบาล และพาดพิงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่าคำพูดส่อเจตนาของมันเอง คนระดับนี้คงรู้ตัวเองว่ามีเจตนาอะไรบ้านเมืองเราขณะนี้เราต้องการความสมานฉันท์มากที่สุด อยากให้ช่วยกันในภาพรวมของประเทศให้สามารถเดินไปข้างหน้า เพราะปัญหาเศรษฐกิจไม่ใช่เป็นปัญหาของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาของคนทั้งประเทศที่จะต้องช่วยกัน ถ้าเรามัวแต่จะเดินทางด้านการเมืองก็คงจะลำบาก ประเทศชาติก็จะลำบากไปด้วย ทั้งนี้ตนเชื่อมั่นว่าประชาชนจะแยกแยะออกว่าสิ่งไหนถูกสิ่งไหนไม่ถูก สิ่งไหนควรทำและไม่ควรทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่าส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีความจงรักภักดี อย่างที่ได้อ้างไว้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของบุคคล ตนไม่อยากพูดในภาพรวม ในเรื่องของบุคคลมันจะมีกี่คน เมื่อถามว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ระบุว่า เป็นสุนัขที่เชื่องแล้ว และพร้อมที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศเพื่อต่อสู้คดี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผมไม่อยากวิจารณ์ ท่านเป็นคนพูด ท่านคิดเองพูดเอง ผมก็ไม่เข้าใจ ในระดับอย่างนี้แล้วส่วนใหญ่ก็รู้กันดีคงไม่ต้องวิจารณ์
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร.กล่าวว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่มีผล เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับประชาชนเชื่อว่าประชาชนคนไทยฉลาด เรารู้และมีประสบการณ์ทั้งดีและไม่ดีรวมถึงวิจารณญาณ คิดว่าเขาฟังทุกฝ่ายจะดีเพื่อที่จะได้ประกอบการตัดสินใจได้ ตนคิดว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีผลอะไร ในส่วนของรัฐบาลเอง ถ้าสมมุติว่าเราร่วมมือกันและเปิดโอกาสให้เขาทำงาน เสียก่อนก็ดี
นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้า การเตรียมการเจรจากับทางการฮ่องกงเรื่องร่างสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อติดตาม ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มารับโทษว่า วันนี้คณะทำงานอัยการได้ประชุมเพื่อเสนอเรื่องให้ นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด พิจารณาเลือกตัวแทนฝ่ายอัยการเพื่อเข้าร่วม การเจรจา รวมถึงเนื้อหาในร่างสนธิสัญญา และกำหนดวันเดินทาง ซึ่งคาดว่าจะทราบความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.)
อัยการเดินหน้าทำงานเรื่องนี้ทุกวันไม่ได้ปล่อยปะละเลย โดยประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก ในการหาข้อเจรจาตกลงร่วมกัน เพื่อให้ทุกอย่างไปอย่างรวดเร็วและถูกต้อง เพราะเชื่อว่าหลายคนต้องการคำตอบที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ (10 มี.ค.) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ของรัฐบาลในขณะนี้ว่า ยังอยู่ได้ เพราะสังคมให้การยอมรับมากขึ้น เนื่องจากได้สร้างความหวังให้กับประชาชนในเรื่องของการปฏิรูปการเมือง เพราะประชาชนเชื่อว่าการเมืองจะดีขึ้น นอกจากนั้นยังได้วิเคราะห์ ถึงการไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณพยายามจัดตั้งคนอย่างเป็นเอกภาพมากขึ้น เพราะถือว่าเป็นช่วงสุดท้าย จึงสู้อย่างหนัก เพราะเขาต้องสูญเสียความเป็นนายกฯอินเตอร์ เนื่องจากที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณ มักจะคิดว่าตัวเองได้รับการยอมรับจากคนในประเทศและต่างชาติ แต่เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับการชื่นชม และยอมรับจากต่างชาติ โดยเฉพาะทูตอังกฤษ และต้องการแย้งพื้นที่ข่าว และเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรส เมืองดูไบ เป็นฐานในการเคลื่อนไหวเป็นหลัก
