นายศรีราชา เจริญพานิช เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามที่มีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพิกเฉยปล่อยให้มีการขายสลากเกินราคา ซึ่งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ติดตามเรื่องนี้ และทำการสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงมาโดยตลอด ทั้งการลงพื้นที่ ทดลองซื้อสลาก ซักถามปากคำบุคคล ศึกษางานวิจัยของสถาบันต่าง ๆที่เกี่ยวกับการขายสลากเกินราคา ตลอดจนเปิดโอกาสให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ชี้แจงปัญหาข้อเท็จจริง ทั้งโดยวาจาและลายลักษณ์อักษร รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ก็ยังพบว่าการขายสลากเกินราคายังคงมีอยู่ แม้จนกระทั่งปัจจุบัน โดยที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยังคงติดขัดปัญหา และยังไม่สามารถคลี่คลายปัญหาดังกล่าวได้
เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอความเห็นและคำแนะนำต่อคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวหลายข้อหลายประเด็น พร้อมกับขอความร่วมมือจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมมาโดยตลอด อย่างเช่น ควรมีการพิจารณาจัดทำบัญชีสำรองเพื่อจัดสรรโควตาให้แก่ ผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายรายใหญ่รายอื่น ในกรณีที่ ผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายรายใดถูกตัดโควตา เนื่องจากกระทำผิดเงื่อนไข แล้วมอบโควตาดังกล่าวให้แก่ผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายรายสำรองตามลำดับ โดยการจัดทำบัญชีสำรองจะต้องประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบโดยทั่วกัน
"แต่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กลับแจ้งให้ทราบว่าไม่มีนโยบายจัดสรรสลากให้กับผู้ค้าสลากรายใหญ่รายใหม่ ซึ่งเป็นการอ้างข้อมูลเดิม และไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง หรือเสนอแนะให้ใช้วิธีการที่จะดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อมีผู้มาแจ้งให้ดำเนินคดีกับผู้ขายสลากกินแบ่งเกินราคา ก็ให้จับกุมและแจ้งหมายเลขสลากกินแบ่งที่ขายเกินราคา มาให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทราบ เพื่อดำเนินการประสานสำนักงานสลากฯ ให้ยกเลิกโควต้าของผู้จัดจำหน่ายรายนั้น และให้จัดสรรโควต้าให้แก่รายที่อยู่ในบัญชีรายอื่นต่อไป หรืออาจจัดสรรโควต้าให้แก่บริษัทไปรษณีย์ไทยขายแทน ซึ่งเป็นวิธีที่ดีและควบคุมราคาสลากได้อย่างแน่นอน แต่จนบัดนี้ สำนักงานสลากฯยังเพิกเฉย และไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อแก้ไขปัญหาตามคำแนะนำ แต่ยืนยันที่จะรายงานข้อมูลเก่าๆ มาแจ้งให้ทราบ"
เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวต่อไปว่า การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดที่สุดนั้นต้องพยายามกำจัดพ่อค้าคนกลางออกไปจากระบบการจำหน่ายสลากให้ได้ หากปล่อยไปเช่นนี้ก็จะมีจำนวนมหาศาล และการแก้ไขปัญหาก็ไม่ได้ผล เพราะพ่อค้าคนกลางเองก็ได้นำสลากมาจากผู้ดำเนินการจัดจำหน่าย หรือไม่ก็ตัวแทนจำหน่ายบางราย ซึ่งวิธีนี้ต้องดำเนินกันอย่างจริงจัง ต้องหาทางลงโทษตัดรายชื่อออกจากระบบการจำหน่ายทั้งหมดให้ได้ ทั้งบริษัท ห้างหุ้นส่วน สมาคม องค์กรการกุศล มูลนิธิสำนักงานสลาก หน่วยงานราชการที่ได้รับโควตา เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับตัวแทนจำหน่าย แต่กลับนำไปจำหน่ายให้แก่พ่อค้าคนกลาง รวมทั้งคิดวิธีใหม่ให้สำนักงานไปรษณีย์ทั่วประเทศรับไปจำหน่ายให้แก่ประชาชนผู้ซื้อโดยตรง ตามราคาหน้าสลาก และกำหนดจำนวนการซื้อที่แน่นอนไว้ วิธีนี้สามารถรักษาดุลย์การขายสลากตามราคาได้อย่างแน่นอน หากสำนักงานสลากฯยังคงเพิกเฉยเช่นนี้ปัญหานี้ก็ไม่จบสิ้น ซึ่งขณะนี้สำนักงานสลากฯ ไม่ได้มีความพยายามที่จะจัดสรรสลากให้กับผู้ค้าสลากรายใหญ่รายใหม่ โดยอ้างว่าจะทำให้เกิดปัญหาการรวมชุดสลาก การผูกขาดการจำหน่าย และการกำหนดราคาโดยพ่อค้าคนกลาง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุของปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาทั้งนั้น และคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ เพราะวิธีการแบบนี้ ทำให้สถานการณ์การจำหน่ายสลากในปัจจุบันเกินราคาและยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเป็นถึงฉบับละ120 บาท
เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวย้ำว่า การที่ไม่มีความพยายามจัดโควตาใหม่หรือตัดรายชื่อผู้ผิดเงื่อนไขออกจากสารบบ จะเป็นการแฝงผลประโยชน์ เพราะหากพิจารณาจากโควต้าการจัดสรรสลากให้แก่ประเภทผู้พิการหรือผู้ค้ารายย่อยอื่นๆ 12 ล้านฉบับเท่านั้น ยังมีการจัดสรรให้แก่ กระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมากถึง 16 ล้านฉบับ สมาคม องค์กรการกุศลต่างๆ เกือบ 9 ล้านฉบับ รวมทั้งกรมบัญชีกลาง และมูลนิธิสำนักงานสลาก อีกรายละกว่า 3 ล้านฉบับ นอกจากนี้ยังมีบริษัทห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนายทุนรายใหญ่ อีกเกือบ 3 ล้านฉบับ
"แน่นอนว่า หน่วยงานเหล่านี้ ไม่ได้จำหน่ายสลากตรงให้แก่ตัวแทนจำหน่ายที่ขึ้นทะเบียนไว้ แต่จำหน่ายให้แก่พ่อค้าคนกลาง หรือตัวแทนจำหน่ายประเภท Nominee ซึ่งมีการมอบผลตอบแทนให้ในสัดส่วนที่แน่นอนโดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการขาดทุนกำไร และในที่สุดก็ตกไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางอยู่ดี ซึ่งผลประโยชน์ที่ได้รับนี้มีมูลค่ามหาศาลทั้งเปอร์เซ็นต์ที่ได้รับอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเปอร์เซ็นต์ที่ได้รับเป็นกรณีพิเศษทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เมื่อได้ผลประโยชน์กันทั่วหน้าก็ทำให้การแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ผล และคงไม่มีใครที่อยากสละผลประโยชน์ที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงแบบนี้ นอกจากจะแก้ไขหรือยกเลิกระบบการจัดจำหน่ายแบบถอนรากถอนโคน"
เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปหากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยังคงเพิกเฉย ก็ต้องใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ.2540 เสนอเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรี และ ครม. พิจารณาอีกครั้ง พร้อมทั้งเปิดเผยต่อสาธารณชนต่อไป
เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอความเห็นและคำแนะนำต่อคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวหลายข้อหลายประเด็น พร้อมกับขอความร่วมมือจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมมาโดยตลอด อย่างเช่น ควรมีการพิจารณาจัดทำบัญชีสำรองเพื่อจัดสรรโควตาให้แก่ ผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายรายใหญ่รายอื่น ในกรณีที่ ผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายรายใดถูกตัดโควตา เนื่องจากกระทำผิดเงื่อนไข แล้วมอบโควตาดังกล่าวให้แก่ผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายรายสำรองตามลำดับ โดยการจัดทำบัญชีสำรองจะต้องประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบโดยทั่วกัน
"แต่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กลับแจ้งให้ทราบว่าไม่มีนโยบายจัดสรรสลากให้กับผู้ค้าสลากรายใหญ่รายใหม่ ซึ่งเป็นการอ้างข้อมูลเดิม และไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง หรือเสนอแนะให้ใช้วิธีการที่จะดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อมีผู้มาแจ้งให้ดำเนินคดีกับผู้ขายสลากกินแบ่งเกินราคา ก็ให้จับกุมและแจ้งหมายเลขสลากกินแบ่งที่ขายเกินราคา มาให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทราบ เพื่อดำเนินการประสานสำนักงานสลากฯ ให้ยกเลิกโควต้าของผู้จัดจำหน่ายรายนั้น และให้จัดสรรโควต้าให้แก่รายที่อยู่ในบัญชีรายอื่นต่อไป หรืออาจจัดสรรโควต้าให้แก่บริษัทไปรษณีย์ไทยขายแทน ซึ่งเป็นวิธีที่ดีและควบคุมราคาสลากได้อย่างแน่นอน แต่จนบัดนี้ สำนักงานสลากฯยังเพิกเฉย และไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อแก้ไขปัญหาตามคำแนะนำ แต่ยืนยันที่จะรายงานข้อมูลเก่าๆ มาแจ้งให้ทราบ"
เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวต่อไปว่า การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดที่สุดนั้นต้องพยายามกำจัดพ่อค้าคนกลางออกไปจากระบบการจำหน่ายสลากให้ได้ หากปล่อยไปเช่นนี้ก็จะมีจำนวนมหาศาล และการแก้ไขปัญหาก็ไม่ได้ผล เพราะพ่อค้าคนกลางเองก็ได้นำสลากมาจากผู้ดำเนินการจัดจำหน่าย หรือไม่ก็ตัวแทนจำหน่ายบางราย ซึ่งวิธีนี้ต้องดำเนินกันอย่างจริงจัง ต้องหาทางลงโทษตัดรายชื่อออกจากระบบการจำหน่ายทั้งหมดให้ได้ ทั้งบริษัท ห้างหุ้นส่วน สมาคม องค์กรการกุศล มูลนิธิสำนักงานสลาก หน่วยงานราชการที่ได้รับโควตา เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับตัวแทนจำหน่าย แต่กลับนำไปจำหน่ายให้แก่พ่อค้าคนกลาง รวมทั้งคิดวิธีใหม่ให้สำนักงานไปรษณีย์ทั่วประเทศรับไปจำหน่ายให้แก่ประชาชนผู้ซื้อโดยตรง ตามราคาหน้าสลาก และกำหนดจำนวนการซื้อที่แน่นอนไว้ วิธีนี้สามารถรักษาดุลย์การขายสลากตามราคาได้อย่างแน่นอน หากสำนักงานสลากฯยังคงเพิกเฉยเช่นนี้ปัญหานี้ก็ไม่จบสิ้น ซึ่งขณะนี้สำนักงานสลากฯ ไม่ได้มีความพยายามที่จะจัดสรรสลากให้กับผู้ค้าสลากรายใหญ่รายใหม่ โดยอ้างว่าจะทำให้เกิดปัญหาการรวมชุดสลาก การผูกขาดการจำหน่าย และการกำหนดราคาโดยพ่อค้าคนกลาง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุของปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาทั้งนั้น และคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ เพราะวิธีการแบบนี้ ทำให้สถานการณ์การจำหน่ายสลากในปัจจุบันเกินราคาและยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเป็นถึงฉบับละ120 บาท
เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวย้ำว่า การที่ไม่มีความพยายามจัดโควตาใหม่หรือตัดรายชื่อผู้ผิดเงื่อนไขออกจากสารบบ จะเป็นการแฝงผลประโยชน์ เพราะหากพิจารณาจากโควต้าการจัดสรรสลากให้แก่ประเภทผู้พิการหรือผู้ค้ารายย่อยอื่นๆ 12 ล้านฉบับเท่านั้น ยังมีการจัดสรรให้แก่ กระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมากถึง 16 ล้านฉบับ สมาคม องค์กรการกุศลต่างๆ เกือบ 9 ล้านฉบับ รวมทั้งกรมบัญชีกลาง และมูลนิธิสำนักงานสลาก อีกรายละกว่า 3 ล้านฉบับ นอกจากนี้ยังมีบริษัทห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนายทุนรายใหญ่ อีกเกือบ 3 ล้านฉบับ
"แน่นอนว่า หน่วยงานเหล่านี้ ไม่ได้จำหน่ายสลากตรงให้แก่ตัวแทนจำหน่ายที่ขึ้นทะเบียนไว้ แต่จำหน่ายให้แก่พ่อค้าคนกลาง หรือตัวแทนจำหน่ายประเภท Nominee ซึ่งมีการมอบผลตอบแทนให้ในสัดส่วนที่แน่นอนโดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการขาดทุนกำไร และในที่สุดก็ตกไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางอยู่ดี ซึ่งผลประโยชน์ที่ได้รับนี้มีมูลค่ามหาศาลทั้งเปอร์เซ็นต์ที่ได้รับอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเปอร์เซ็นต์ที่ได้รับเป็นกรณีพิเศษทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เมื่อได้ผลประโยชน์กันทั่วหน้าก็ทำให้การแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ผล และคงไม่มีใครที่อยากสละผลประโยชน์ที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงแบบนี้ นอกจากจะแก้ไขหรือยกเลิกระบบการจัดจำหน่ายแบบถอนรากถอนโคน"
เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปหากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยังคงเพิกเฉย ก็ต้องใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ.2540 เสนอเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรี และ ครม. พิจารณาอีกครั้ง พร้อมทั้งเปิดเผยต่อสาธารณชนต่อไป