ASTVผู้จัดการรายวัน- "อภิสิทธิ์"พร้อมรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบประชาชน จ.ลพบุรีวันนี้ ยันต้องไปให้ครบทุกจังหวัด ไม่ห่วง"เสื้อแดง" ระดมคนป่วน ย้ำหากเคลื่อนไหวต้องอยู่ในกรอบ "สุเทพ"สั่งตำรวจพกกล้องบันทึกภาพเหตุการณ์ ขู่ทำผิดกม.ซึ่งหน้าจับดำเนินคดีทันที ไม่ต้องรอเจ้าทุกข์แจ้งความ กำชับ"ผู้ว่าฯ-ผู้บังคับการตำรวจ" ดูแลพื้นที่ให้ดี ด้านพรรคเพื่อไทย ติวเข้มส.ส.แกนนำพรรคก่อนลงพื้นที่คู่ขนาน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่พบปะประชาชน จ.ลพบุรี ในวันนี้ (7 มี.ค.) ว่าไม่มีความกังวลอะไร เพราะไปทำหน้าที่ตามปกติ ใครจะไปทำกิจกรรมเคลื่อนไหวอะไรก็ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย
ส่วนที่ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร ที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัย 1,500 นาย นั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วจะเป็นอย่างไร ต้องให้ผู้ปฏิบัติเป็นผู้ดำเนินการว่าอะไรคือความเหมาะสม ทราบเพียงจะมีกิจกรรมของกลุ่มที่คัดค้านการทำงานของรัฐบาลอยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง คงดูแลไม่ให้เกิดปัญหาความวุ่นวาย ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย
ส่วนที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับผู้ปฏิบัติหากเกิดเหตุต้องรับผิดชอบ คงเป็นเรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าการเดินทางลงพื้นที่ จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มั่นใจ ส่วนที่ถูกมองว่า การลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อปูพรมหาข้าราชการคนไหนเข้าข้างกลุ่มอำนาจเก่านั้น คงไม่ เพราะแนวทางของรัฐบาล ทั้งตน และรัฐมนตรีอีก 35 คน จะต้องไปให้ครบทุกจังหวัด เพราะฉะนั้น ทั่วถึงอยู่แล้ว
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย โจมตีว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้านั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นการทำงานเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น เพราะ2 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลมีมาตรการและนโยบายใหม่ๆ มาก ฟังเสียงมาจาก ส.ส. และประชาชนยังมีความสับสนและความไม่เข้าใจ บางครั้งนโยบายที่รับฟังผ่านโทรทัศน์อย่างหนึ่ง เมื่อพบเจ้าหน้าที่ราชการ ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ฉะนั้นรัฐบาลต้องการเข้าไปสัมผัสข้อเท็จจริง และเสียงสะท้อน และแก้ไขปรับปรุง
เสื้อแดงทำผิดกม.จับทันที
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงระดมคนเคลื่อนไหวขับไล่นายกรัฐมนตรี ที่จะลงพื้นที่พบประชาชน จ.ลพบุรี ว่าไม่ได้หนักหนักใจอะไรกับเรื่องนี้ พวกเราทำหน้าที่ของเรา ตามที่เห็นว่าเป็นความจำเป็นที่จะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ ถึงวันนี้เราได้ผลักดันนโยบายสำคัญๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนออกมาหลายอย่าง ฉะนั้นนายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้รัฐมนตรีทั้งหลายได้ลงไปติดตามตรวจสอบว่า เรื่องที่ได้สั่งการให้เขาปฏิบัติตามนโยบายนั้น ได้ผลหรือไม่อย่างไร มีปัญหาอะไรหรือไม่
ขณะเดียวกันการลงไปตรวจราชการในพื้นที่ จะทำให้เราได้รับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนทั้งหลายว่ายังมีเรื่องใดอีกที่เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่รัฐบาลยังไม่ทราบ ไม่เห็น ที่รัฐบาลจำเป็นจะต้องนำมาแก้ไขปรับปรุงโดยเร็ว
ส่วนคนที่จะมาต่อต้าน ขอให้ต่อต้านด้วยความสงบ อย่าทำผิดกฎหมาย ถ้าท่านมาชุมนุมต่อต้านตั้งเวทีปราศรัย อยู่ในที่ที่ไม่เดือดร้อนใคร อย่างนี้เป็นสิทธิที่ท่านจะทำได้
"แต่ถ้าท่านเอาไข่มาข้วาง เอาก้อนหินมาข้วาง อย่างนี้ท่านทำผิดกฎหมาย หรือท่านบุกรุกสถานที่ราชการ หรือปิดถนนอย่างนี้ผิดกฎหมาย เราต้องดำเนินคดี" นายสุเทพกล่าว และว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกจังหวัด เตรียมกล้องวีดีโอบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ภาพ หลักฐานว่า ใครที่จงใจทำผิดกฎหมาย ต้องดำเนินคดีทันที ไม่ต้องรอคนแจ้งความ เป็นความผิดเฉพาะหน้า ตำรวจต้องดำเนินการ
"ได้เรียนไปถึงท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหลาย โดยบอกว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด มีหน้าที่ดูแลบ้านเมืองให้มีความสงบเรียบร้อย ให้ผู้คนอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ให้ฝ่าฝืนกฎหมาย ฉะนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเตรียมการเรื่องนี้" นายสุเทพกล่าว และว่า นายกฯและรัฐมนตรี ก็ต้องระมัดระวังตัวเองด้วย เป็นเรื่องธรรมดาแม้แต่ตนเองก็ต้องระวังตัว หลบได้ก็หลบ หลีกได้ก็หลีก ไม่ปะทะอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หลังจากกำชับผู้ว่าจังหวัดต่างๆ ดูเหมือนทางผู้ว่าฯ จะผวากลัวโดนเด้ง โดนย้าย นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ไปเด้งไปย้ายผู้ว่าฯ โดยไม่มีสาเหตุ ท่านผู้ว่าฯ ที่เป็นคนดีๆ ทั้งหลาย ขอให้มีกำลังใจและเราจะเอาใจช่วย จะดูแลท่านอย่างดี รัฐบาลยุคนี้จะไม่ข่มเหงรังแกข้าราชการ เราให้ความเคารพในฐานะที่ท่านเป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นข้าราชการของประชาชน ฉะนั้นเราให้ความเคารพในฐานะที่เป็นมืออาชีพ แต่ขอให้ท่านทำหน้าที่ด้วยความสุจริต ตรงไปตรงมา อย่าไปรับใช้คนผิด อย่างนี้ปลอดภัย ไม่มีปัญหาอะไร รับรองได้
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย ส่ง ส.ส.และผู้บริหารลงพื้นที่พบประชาชนโดยให้ ส.ส.1 คน เกณฑ์มวลชนให้ได้ 3 พันคน เพื่อปฏิบัติการคู่ขนานกับการลงพื้นที่ของฝ่ายรัฐบาลว่า มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ เพราะเหมือนกับแผนความเคลื่อนไหวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า 1 ส.ส.ต้องมีมวลชนพร้อม 3 พันคน เพื่อพร้อมนัดชุมนุมใหญ่ทันที เมื่อมีการเป่านกหวีด ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องแสดงเจตนารมณ์ให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ประชาชนสงสัย
เพื่อไทยติวเข้มส.ส.ก่อนลงพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า เมื่อเวลา 09.00น. วานนี้ พรรคเพื่อไทยได้อบรมส.ส.และแกนนำพรรค แกนนำ ส.ส.ก่อนทำการลงในพื้นที่ ขยายความคิดกับประชาชน ตามหลักสูตรของพรรคที่คณะผู้บริหารพรรคได้ดำเนินการจัดขึ้นมา มี ส.ส.กว่า 40 คนจากทุกภาค และแกนนำของพรรคในพื้นที่เข้าร่วมอบรม โดยมี นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นผู้บรรยายในการอบรม โดยสาระสำคัญ ได้ให้ความรู้ถึงโครงสร้างรัฐธรรมนูญปี 50 มีจุดอ่อน บกพร่องอย่างไร รวมถึงพูดถึงสถานการณ์การเมืองไทย มีการวิวัฒนาการและมีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นให้ความรู้ ความเข้าใจ เพิ่มศักยภาพให้กับ ส.ส.และแกนนำที่มีความพร้อมในการทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรค โดยมุ่งให้มองและวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองและข่าวต่างๆได้อย่างทันเหตุการณ์อย่างเป็นระบบ รวมทั้งเร่งขยายฐาน ช่วงชิงมวลชนรากหญ้า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่พบปะประชาชน จ.ลพบุรี ในวันนี้ (7 มี.ค.) ว่าไม่มีความกังวลอะไร เพราะไปทำหน้าที่ตามปกติ ใครจะไปทำกิจกรรมเคลื่อนไหวอะไรก็ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย
ส่วนที่ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร ที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัย 1,500 นาย นั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วจะเป็นอย่างไร ต้องให้ผู้ปฏิบัติเป็นผู้ดำเนินการว่าอะไรคือความเหมาะสม ทราบเพียงจะมีกิจกรรมของกลุ่มที่คัดค้านการทำงานของรัฐบาลอยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง คงดูแลไม่ให้เกิดปัญหาความวุ่นวาย ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย
ส่วนที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับผู้ปฏิบัติหากเกิดเหตุต้องรับผิดชอบ คงเป็นเรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าการเดินทางลงพื้นที่ จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มั่นใจ ส่วนที่ถูกมองว่า การลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อปูพรมหาข้าราชการคนไหนเข้าข้างกลุ่มอำนาจเก่านั้น คงไม่ เพราะแนวทางของรัฐบาล ทั้งตน และรัฐมนตรีอีก 35 คน จะต้องไปให้ครบทุกจังหวัด เพราะฉะนั้น ทั่วถึงอยู่แล้ว
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย โจมตีว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้านั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นการทำงานเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น เพราะ2 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลมีมาตรการและนโยบายใหม่ๆ มาก ฟังเสียงมาจาก ส.ส. และประชาชนยังมีความสับสนและความไม่เข้าใจ บางครั้งนโยบายที่รับฟังผ่านโทรทัศน์อย่างหนึ่ง เมื่อพบเจ้าหน้าที่ราชการ ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ฉะนั้นรัฐบาลต้องการเข้าไปสัมผัสข้อเท็จจริง และเสียงสะท้อน และแก้ไขปรับปรุง
เสื้อแดงทำผิดกม.จับทันที
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงระดมคนเคลื่อนไหวขับไล่นายกรัฐมนตรี ที่จะลงพื้นที่พบประชาชน จ.ลพบุรี ว่าไม่ได้หนักหนักใจอะไรกับเรื่องนี้ พวกเราทำหน้าที่ของเรา ตามที่เห็นว่าเป็นความจำเป็นที่จะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ ถึงวันนี้เราได้ผลักดันนโยบายสำคัญๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนออกมาหลายอย่าง ฉะนั้นนายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้รัฐมนตรีทั้งหลายได้ลงไปติดตามตรวจสอบว่า เรื่องที่ได้สั่งการให้เขาปฏิบัติตามนโยบายนั้น ได้ผลหรือไม่อย่างไร มีปัญหาอะไรหรือไม่
ขณะเดียวกันการลงไปตรวจราชการในพื้นที่ จะทำให้เราได้รับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนทั้งหลายว่ายังมีเรื่องใดอีกที่เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่รัฐบาลยังไม่ทราบ ไม่เห็น ที่รัฐบาลจำเป็นจะต้องนำมาแก้ไขปรับปรุงโดยเร็ว
ส่วนคนที่จะมาต่อต้าน ขอให้ต่อต้านด้วยความสงบ อย่าทำผิดกฎหมาย ถ้าท่านมาชุมนุมต่อต้านตั้งเวทีปราศรัย อยู่ในที่ที่ไม่เดือดร้อนใคร อย่างนี้เป็นสิทธิที่ท่านจะทำได้
"แต่ถ้าท่านเอาไข่มาข้วาง เอาก้อนหินมาข้วาง อย่างนี้ท่านทำผิดกฎหมาย หรือท่านบุกรุกสถานที่ราชการ หรือปิดถนนอย่างนี้ผิดกฎหมาย เราต้องดำเนินคดี" นายสุเทพกล่าว และว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกจังหวัด เตรียมกล้องวีดีโอบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ภาพ หลักฐานว่า ใครที่จงใจทำผิดกฎหมาย ต้องดำเนินคดีทันที ไม่ต้องรอคนแจ้งความ เป็นความผิดเฉพาะหน้า ตำรวจต้องดำเนินการ
"ได้เรียนไปถึงท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหลาย โดยบอกว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด มีหน้าที่ดูแลบ้านเมืองให้มีความสงบเรียบร้อย ให้ผู้คนอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ให้ฝ่าฝืนกฎหมาย ฉะนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเตรียมการเรื่องนี้" นายสุเทพกล่าว และว่า นายกฯและรัฐมนตรี ก็ต้องระมัดระวังตัวเองด้วย เป็นเรื่องธรรมดาแม้แต่ตนเองก็ต้องระวังตัว หลบได้ก็หลบ หลีกได้ก็หลีก ไม่ปะทะอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หลังจากกำชับผู้ว่าจังหวัดต่างๆ ดูเหมือนทางผู้ว่าฯ จะผวากลัวโดนเด้ง โดนย้าย นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ไปเด้งไปย้ายผู้ว่าฯ โดยไม่มีสาเหตุ ท่านผู้ว่าฯ ที่เป็นคนดีๆ ทั้งหลาย ขอให้มีกำลังใจและเราจะเอาใจช่วย จะดูแลท่านอย่างดี รัฐบาลยุคนี้จะไม่ข่มเหงรังแกข้าราชการ เราให้ความเคารพในฐานะที่ท่านเป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นข้าราชการของประชาชน ฉะนั้นเราให้ความเคารพในฐานะที่เป็นมืออาชีพ แต่ขอให้ท่านทำหน้าที่ด้วยความสุจริต ตรงไปตรงมา อย่าไปรับใช้คนผิด อย่างนี้ปลอดภัย ไม่มีปัญหาอะไร รับรองได้
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย ส่ง ส.ส.และผู้บริหารลงพื้นที่พบประชาชนโดยให้ ส.ส.1 คน เกณฑ์มวลชนให้ได้ 3 พันคน เพื่อปฏิบัติการคู่ขนานกับการลงพื้นที่ของฝ่ายรัฐบาลว่า มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ เพราะเหมือนกับแผนความเคลื่อนไหวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า 1 ส.ส.ต้องมีมวลชนพร้อม 3 พันคน เพื่อพร้อมนัดชุมนุมใหญ่ทันที เมื่อมีการเป่านกหวีด ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องแสดงเจตนารมณ์ให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ประชาชนสงสัย
เพื่อไทยติวเข้มส.ส.ก่อนลงพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า เมื่อเวลา 09.00น. วานนี้ พรรคเพื่อไทยได้อบรมส.ส.และแกนนำพรรค แกนนำ ส.ส.ก่อนทำการลงในพื้นที่ ขยายความคิดกับประชาชน ตามหลักสูตรของพรรคที่คณะผู้บริหารพรรคได้ดำเนินการจัดขึ้นมา มี ส.ส.กว่า 40 คนจากทุกภาค และแกนนำของพรรคในพื้นที่เข้าร่วมอบรม โดยมี นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นผู้บรรยายในการอบรม โดยสาระสำคัญ ได้ให้ความรู้ถึงโครงสร้างรัฐธรรมนูญปี 50 มีจุดอ่อน บกพร่องอย่างไร รวมถึงพูดถึงสถานการณ์การเมืองไทย มีการวิวัฒนาการและมีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นให้ความรู้ ความเข้าใจ เพิ่มศักยภาพให้กับ ส.ส.และแกนนำที่มีความพร้อมในการทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรค โดยมุ่งให้มองและวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองและข่าวต่างๆได้อย่างทันเหตุการณ์อย่างเป็นระบบ รวมทั้งเร่งขยายฐาน ช่วงชิงมวลชนรากหญ้า
