โฆษกกระทรวงพาณิชย์ยืนยันไม่มีนโยบายหรือห้ามการใช้ CLยา เพื่อแลกกับการปลดไทยออกจากบัญชี PWL ส่วนการทำหนังสือถึงสธ.เป็นการชี้แจงความคืบหน้าที่สหรัฐฯ กำลังดำเนินการกับไทย และขอทราบนโยบายในเรื่อง CL เท่านั้น
นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่ดูแลกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่เคยประกาศหรือมีนโยบายห้ามการบังคับใช้สิทธิยาที่มีสิทธิบัตร (CL) เพียงแต่มีท่าทีชัดเจนตามนโยบายของรัฐบาล กรณีหากจะมีการใช้ CL ก็จะให้มีการปรึกษาหารือระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
“กระทรวงฯ มีความเห็นตรงกับกระทรวงสาธารณสุขที่จะให้มีการใช้ CL ยาตามความเหมาะสม และตามความจำเป็น เพื่อให้ประชาชนคนไทยเข้าถึงยาได้อย่างทั่วถึง โดยมีหลักการว่าการใช้ CL จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ WTO กำหนดไว้ และจะต้องมีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน”นายกฤษฎากล่าว
นายกฤษฎากล่าวว่า ส่วนหนังสือที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาทำถึงกระทรวงสาธารณสุข เป็นการชี้แจงความคืบหน้าการพิจารณาสถานะประเทศคู่ค้าตามกฎหมายการค้าพิเศษ ตามมาตรา 301 และข้อเสนอของภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่ได้ยื่นต่อสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR)ว่า มีความเห็นต่อการดำเนินการในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาของไทยอย่างไร และมีข้อเสนอแนะอะไร ซึ่งมีทั้งข้อเสนอของอุตสาหกรรมยา วงการภาพยนตร์ และเจ้าของสิทธิ์รายอื่นๆ
“ได้ชี้แจงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ว่า ภาคเอกชนสหรัฐฯ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยามีความเห็นว่า ไทยยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการใช้ CL และยังมีปัญหาในเรื่องยาปลอม และเสนอให้ USTR พิจารณาปรับไทยจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นประเทศที่ไม่ให้การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในระดับรุนแรง (PFC) กระทรวงฯ จึงได้ขอทราบแนวทางดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องนี้ เพื่อนำไปชี้แจงสหรัฐฯ ในการเดินทางไปสหรัฐฯ ของรมช.พาณิชย์ในเดือนมี.ค.นี้ ไม่ได้มีข้อความใดที่ระบุว่า ขอให้กระทรวงสาธารณสุขยกเลิกการใช้ CL เพื่อแลกกับการถูกปลดออกจากบัญชี PWL”นายกฤษฎากล่าว
นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่ดูแลกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่เคยประกาศหรือมีนโยบายห้ามการบังคับใช้สิทธิยาที่มีสิทธิบัตร (CL) เพียงแต่มีท่าทีชัดเจนตามนโยบายของรัฐบาล กรณีหากจะมีการใช้ CL ก็จะให้มีการปรึกษาหารือระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
“กระทรวงฯ มีความเห็นตรงกับกระทรวงสาธารณสุขที่จะให้มีการใช้ CL ยาตามความเหมาะสม และตามความจำเป็น เพื่อให้ประชาชนคนไทยเข้าถึงยาได้อย่างทั่วถึง โดยมีหลักการว่าการใช้ CL จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ WTO กำหนดไว้ และจะต้องมีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน”นายกฤษฎากล่าว
นายกฤษฎากล่าวว่า ส่วนหนังสือที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาทำถึงกระทรวงสาธารณสุข เป็นการชี้แจงความคืบหน้าการพิจารณาสถานะประเทศคู่ค้าตามกฎหมายการค้าพิเศษ ตามมาตรา 301 และข้อเสนอของภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่ได้ยื่นต่อสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR)ว่า มีความเห็นต่อการดำเนินการในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาของไทยอย่างไร และมีข้อเสนอแนะอะไร ซึ่งมีทั้งข้อเสนอของอุตสาหกรรมยา วงการภาพยนตร์ และเจ้าของสิทธิ์รายอื่นๆ
“ได้ชี้แจงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ว่า ภาคเอกชนสหรัฐฯ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยามีความเห็นว่า ไทยยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการใช้ CL และยังมีปัญหาในเรื่องยาปลอม และเสนอให้ USTR พิจารณาปรับไทยจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นประเทศที่ไม่ให้การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในระดับรุนแรง (PFC) กระทรวงฯ จึงได้ขอทราบแนวทางดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องนี้ เพื่อนำไปชี้แจงสหรัฐฯ ในการเดินทางไปสหรัฐฯ ของรมช.พาณิชย์ในเดือนมี.ค.นี้ ไม่ได้มีข้อความใดที่ระบุว่า ขอให้กระทรวงสาธารณสุขยกเลิกการใช้ CL เพื่อแลกกับการถูกปลดออกจากบัญชี PWL”นายกฤษฎากล่าว