ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน และประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ที่ประชุมคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีมติให้นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาในวันที่ 10 มี.ค. และให้นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน นำญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ยื่นต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 11 มี.ค.
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การประชุมคณะทำงานวันนี้ตกผลึกมากและมีข้อมูลที่ชัดเจน โดยเห็นตรงกันว่าควรยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีจำนวนไม่มากและอภิปรายไม่นานเพื่อให้มีความกระชับชัดเจน โดยจะเน้นว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งต่อไปอย่างไร ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอย่างไร รวมถึงอภิปรายผลการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดและการทำผิดจริยธรรมด้วย
ยืนยันว่าเนื้อหาที่จะนำมาอภิปรายนั้นแม้จะเป็นเรื่องเก่าแต่ก็มีเนื้อหาที่ทันสมัย ไม่เก่าเก็บเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์ชอบนำมาอภิปรายคนอื่น อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ 9 มี.ค.นี้คงจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งส.ส.สามารถนำข้อมูลมาให้เพิ่มเติมได้ ยืนยันว่าจะไม่อภิปรายจำนวนรัฐมนตรีเยอะเกินไป แต่ถ้าเห็นว่าคนไหนทำผิด ก็อาจ ใช้วิธีไปยื่นถอดถอนกับ ป.ป.ช. หรือตั้งกระทู้สด ซึ่งฝ่ายค้านพร้อมตรวจสอบ ทุกวิถีทาง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การออกมาแสดงความเห็นของนายเสนาะ นั้นเราก็ต้องเคารพผู้ใหญ่ คงไม่ตอบโต้ ในหลักการเราก็ต้องฟัง แต่เรื่องวิธีการคงต้องฟังพรรคเพื่อไทย ส่วนกรณีที่นายเสนาะระบุว่าหลักฐานยังไม่ชัดนั้น ยืนยันว่าข้อมูลยังไม่มีใครเห็น ไม่รู้ว่านายเสนาะไปดูข้อมูลมาจากไหน แต่เชื่อว่าไม่ใช่ข้อมูลของตน เพราะข้อมูลของตนซับซ้อนมาก ต้องใช้เวลากว่า 3 อาทิตย์จึงจะอ่านเข้าใจ ส่วนกรณีของพรรคเพื่อแผ่นดินที่ในทางนิตินัยถือว่าเป็นรัฐบาลนั้นคงมาร่วมลงชื่อยื่นญัตติด้วยไม่ได้ และก็คงเสนอชื่อพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดินเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ด้วยเช่นกัน
ด้านน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวว่า ส.ส.หลายคนเห็นว่าควรจะเลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปเป็นหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากในช่วงนั้นจะเห็นผลการทำงานที่ล้มเหลวของรัฐบาลชัดเจน และจะทำให้การอภิปราย เป็นไปอย่างถูกต้องและมีความหนักแน่นมากขึ้น อีกทั้งขณะนี้ข้อมูลหลักฐานต่างๆ ในการอภิปรายมีเยอะมาก ดังนั้นควรที่จะมีการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ให้ดีที่สุดว่า ทุกอย่างถูกต้องเป็นของจริง ซึ่งหากมีการอภิปรายไปแล้วปรากฎภายหลังว่า เอกสารที่เราใช้ในสภานั้นเป็นของปลอมจะทำให้เกิดปัญหากับเราทันที พวกเราจะลำบากอย่างไรก็ตาม เรื่องการเลื่อนเวลาการยื่นญัตติอภิปรายฯออกไปหรือไม่นั้นยังอยู่ระหว่างการหารือกันอยู่
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เท่าที่สอบถามส.ส. ในพรรคส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่มีบางส่วน อยากให้เป็นการอภิปรายทั่วไป ดังนั้นหลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่างแกนนำพรรค ร่วมฝ่ายค้านแล้ว คณะผู้บริหารพรรคอาจจะพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งว่าจะทำการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรืออภิปรายทั่วไป
ขณะที่นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้สัมภาษณ์ว่า มีความเห็นจากส.ส.เยอะมากในเรื่องที่จะให้เลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไป อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องรอผลสรุปจากการประชุมคณะยุทธศาสตร์ของพรรคก่อน
ด้านนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้นัดเพื่อขอเข้าพบหารือเรื่องญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตนยังยืนยันแนวคิดเดิมที่เห็นว่าควรจะเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ จะดีกว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายเสนาะ กล่าวว่ายังไม่เห็นข้อมูลที่พรรคเพื่อไทยจะเอามาให้ดู แต่เบื้องต้นเท่าที่เปิดเผยออกมา เป็นเรื่องไร้สาาระ และอาจทำให้บ้านเมืองพังพินาศ เพราะเล่นการเมืองแบบเก่าๆ เอาเรื่องส่วนตัวมาอภิปราย ตนไม่เอาด้วยแน่
ผมยืนยันว่ายังไม่มีการนัดผมมา แต่ถ้ามาในวันนี้ (5 มี.ค.) ผมก็ไม่คุยด้วย เพราะไม่เห็นมีข้อมูลเหนือความคาดหมายอะไร เหมือนกับว่าเราลงเรือลำเดียวกันแล้วรู้ว่าเรือลำนี้กำลังจะพาเราไปชนถามว่าเราจะยอมตายไปด้วยหรือ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้นายเสนาะ จะไม่ร่วมในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกับพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมาเข้าร่วมรัฐบาล เพราะยังไม่เคยทาบทาม และไม่คิดว่าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์คนอื่นจะไปทาบทาม เพราะพรรคการเมืองที่ทำงานอยู่ร่วมกันขณะนี้ก็เรียบร้อยดี แม้เสียงสนับสนุนรัฐบาลยิ่งมีมากก็ยิ่งดี แต่การทำงานตอนนี้ก็ไปได้ดีนโยบายสำคัญๆ ก็ผลักดันไปได้
ผมเรียนว่าไม่มีความคิดที่จะต้องเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะผมไม่อยากให้พรรคที่ทำงานในรัฐบาลเสียสมาธิ งานในเรื่องปัญหาต่างๆ สำคัญกว่า มีเสียงเท่านี้ก็ทำงานได้ เดินหน้าทำงานจะดีกว่า
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การประชุมคณะทำงานวันนี้ตกผลึกมากและมีข้อมูลที่ชัดเจน โดยเห็นตรงกันว่าควรยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีจำนวนไม่มากและอภิปรายไม่นานเพื่อให้มีความกระชับชัดเจน โดยจะเน้นว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งต่อไปอย่างไร ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอย่างไร รวมถึงอภิปรายผลการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดและการทำผิดจริยธรรมด้วย
ยืนยันว่าเนื้อหาที่จะนำมาอภิปรายนั้นแม้จะเป็นเรื่องเก่าแต่ก็มีเนื้อหาที่ทันสมัย ไม่เก่าเก็บเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์ชอบนำมาอภิปรายคนอื่น อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ 9 มี.ค.นี้คงจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งส.ส.สามารถนำข้อมูลมาให้เพิ่มเติมได้ ยืนยันว่าจะไม่อภิปรายจำนวนรัฐมนตรีเยอะเกินไป แต่ถ้าเห็นว่าคนไหนทำผิด ก็อาจ ใช้วิธีไปยื่นถอดถอนกับ ป.ป.ช. หรือตั้งกระทู้สด ซึ่งฝ่ายค้านพร้อมตรวจสอบ ทุกวิถีทาง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การออกมาแสดงความเห็นของนายเสนาะ นั้นเราก็ต้องเคารพผู้ใหญ่ คงไม่ตอบโต้ ในหลักการเราก็ต้องฟัง แต่เรื่องวิธีการคงต้องฟังพรรคเพื่อไทย ส่วนกรณีที่นายเสนาะระบุว่าหลักฐานยังไม่ชัดนั้น ยืนยันว่าข้อมูลยังไม่มีใครเห็น ไม่รู้ว่านายเสนาะไปดูข้อมูลมาจากไหน แต่เชื่อว่าไม่ใช่ข้อมูลของตน เพราะข้อมูลของตนซับซ้อนมาก ต้องใช้เวลากว่า 3 อาทิตย์จึงจะอ่านเข้าใจ ส่วนกรณีของพรรคเพื่อแผ่นดินที่ในทางนิตินัยถือว่าเป็นรัฐบาลนั้นคงมาร่วมลงชื่อยื่นญัตติด้วยไม่ได้ และก็คงเสนอชื่อพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดินเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ด้วยเช่นกัน
ด้านน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวว่า ส.ส.หลายคนเห็นว่าควรจะเลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปเป็นหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากในช่วงนั้นจะเห็นผลการทำงานที่ล้มเหลวของรัฐบาลชัดเจน และจะทำให้การอภิปราย เป็นไปอย่างถูกต้องและมีความหนักแน่นมากขึ้น อีกทั้งขณะนี้ข้อมูลหลักฐานต่างๆ ในการอภิปรายมีเยอะมาก ดังนั้นควรที่จะมีการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ให้ดีที่สุดว่า ทุกอย่างถูกต้องเป็นของจริง ซึ่งหากมีการอภิปรายไปแล้วปรากฎภายหลังว่า เอกสารที่เราใช้ในสภานั้นเป็นของปลอมจะทำให้เกิดปัญหากับเราทันที พวกเราจะลำบากอย่างไรก็ตาม เรื่องการเลื่อนเวลาการยื่นญัตติอภิปรายฯออกไปหรือไม่นั้นยังอยู่ระหว่างการหารือกันอยู่
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เท่าที่สอบถามส.ส. ในพรรคส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่มีบางส่วน อยากให้เป็นการอภิปรายทั่วไป ดังนั้นหลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่างแกนนำพรรค ร่วมฝ่ายค้านแล้ว คณะผู้บริหารพรรคอาจจะพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งว่าจะทำการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรืออภิปรายทั่วไป
ขณะที่นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้สัมภาษณ์ว่า มีความเห็นจากส.ส.เยอะมากในเรื่องที่จะให้เลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไป อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องรอผลสรุปจากการประชุมคณะยุทธศาสตร์ของพรรคก่อน
ด้านนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้นัดเพื่อขอเข้าพบหารือเรื่องญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตนยังยืนยันแนวคิดเดิมที่เห็นว่าควรจะเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ จะดีกว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายเสนาะ กล่าวว่ายังไม่เห็นข้อมูลที่พรรคเพื่อไทยจะเอามาให้ดู แต่เบื้องต้นเท่าที่เปิดเผยออกมา เป็นเรื่องไร้สาาระ และอาจทำให้บ้านเมืองพังพินาศ เพราะเล่นการเมืองแบบเก่าๆ เอาเรื่องส่วนตัวมาอภิปราย ตนไม่เอาด้วยแน่
ผมยืนยันว่ายังไม่มีการนัดผมมา แต่ถ้ามาในวันนี้ (5 มี.ค.) ผมก็ไม่คุยด้วย เพราะไม่เห็นมีข้อมูลเหนือความคาดหมายอะไร เหมือนกับว่าเราลงเรือลำเดียวกันแล้วรู้ว่าเรือลำนี้กำลังจะพาเราไปชนถามว่าเราจะยอมตายไปด้วยหรือ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้นายเสนาะ จะไม่ร่วมในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกับพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมาเข้าร่วมรัฐบาล เพราะยังไม่เคยทาบทาม และไม่คิดว่าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์คนอื่นจะไปทาบทาม เพราะพรรคการเมืองที่ทำงานอยู่ร่วมกันขณะนี้ก็เรียบร้อยดี แม้เสียงสนับสนุนรัฐบาลยิ่งมีมากก็ยิ่งดี แต่การทำงานตอนนี้ก็ไปได้ดีนโยบายสำคัญๆ ก็ผลักดันไปได้
ผมเรียนว่าไม่มีความคิดที่จะต้องเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะผมไม่อยากให้พรรคที่ทำงานในรัฐบาลเสียสมาธิ งานในเรื่องปัญหาต่างๆ สำคัญกว่า มีเสียงเท่านี้ก็ทำงานได้ เดินหน้าทำงานจะดีกว่า