การฉุนเฉียวในที่ทำงานบางครั้งไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนัก ซ้ำอาจช่วยให้คุณไต่เต้าบันไดอาชีพได้เร็วขึ้น
ในทางตรงข้าม การศึกษาของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐฯ พบว่าคนที่ระงับยับยั้งอารมณ์โกรธมีแนวโน้มมากขึ้นถึงสามเท่าที่จะถูกกีดกันไม่ให้ได้เลื่อนตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ทีมนักวิจัยที่ติดตามผลกลุ่มตัวอย่าง 824 คนนาน 44 ปี เตือนว่าการควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญเมื่อจำเป็นต้องรักษาสิทธิ์ของตนหรือป้องกันตัวจากการถูกโจมตี และการแสดงความเดือดดาลอย่างไม่ยับยั้งเป็นผลลบแก่ตัวเอง
“คนเรามักคิดว่าความโกรธเป็นอารมณ์ที่อันตราย และได้รับการสั่งสอนให้คิดในทางบวก แต่เราพบว่าแนวทางดังกล่าวเป็นการทำร้ายตัวเอง และที่สุดแล้วนำไปสู่การปฏิเสธความจริงอันเลวร้าย
“อารมณ์แง่ลบ เช่น ความกลัว และความโกรธมีมาแต่เกิดและมีความสำคัญมาก เพราะบ่อยครั้งมีความสำคัญต่อการอยู่รอดของคนเรา การทดลองอย่างรอบคอบพบว่าอารมณ์แง่ลบทำให้สมาธิแคบลงและมุ่งมั่นกระทั่งเราสามารถพุ่งความสนใจไปที่ต้นไม้แทนที่จะเป็นป่าทั้งป่าได้” ศาสตราจารย์จอร์จ ไวแลนต์ ผู้นำการจัดทำรายงานฉบับนี้ กล่าว
ศาสตราจารย์ไวแลนต์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโครงการศึกษาพัฒนาการวัยผู้ใหญ่ ที่ตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นนี้ เสริมว่าความโกรธที่ควบคุมไม่อยู่ถือเป็นอันตราย
“เราทุกคนโกรธเป็น แต่คนที่เรียนรู้วิธีแสดงอารมณ์นี้ออกมาพร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการระเบิดอารมณ์และผลลัพธ์ที่จะทำลายตัวเองจากความโกรธที่ปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ จะประสบความสำเร็จในบางสิ่งอย่างไม่น่าเชื่อในแง่ของการเติบโตทางอารมณ์และสุขภาพจิตโดยรวม
“ถ้าเราสามารถกำหนดและควบคุมทักษะเหล่านี้ เราจะนำทักษะเหล่านี้ไปใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายที่สำคัญยิ่งขึ้นได้”
เบน วิลเลียม นักจิตวิทยาการทำงานที่มีบริษัทของตัวเอง เสริมว่านี่เป็นเรื่องของการจัดการกับความก้าวร้าว การนิ่งเฉย และการแสดงออกอย่างเปิดเผย
“คนที่แสดงออกอย่างเปิดเผยจะสามารถปกป้องตัวเองได้โดยที่ยังเป็นที่นับถือของคนอื่น เพราะแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยในทีมงานของตนเองและผู้อื่น ซึ่งเท่ากับว่าคนๆ นั้นมีภาษีดีกว่าเมื่อถึงฤดูการเลื่อนตำแหน่ง”
ในทางตรงข้าม การศึกษาของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐฯ พบว่าคนที่ระงับยับยั้งอารมณ์โกรธมีแนวโน้มมากขึ้นถึงสามเท่าที่จะถูกกีดกันไม่ให้ได้เลื่อนตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ทีมนักวิจัยที่ติดตามผลกลุ่มตัวอย่าง 824 คนนาน 44 ปี เตือนว่าการควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญเมื่อจำเป็นต้องรักษาสิทธิ์ของตนหรือป้องกันตัวจากการถูกโจมตี และการแสดงความเดือดดาลอย่างไม่ยับยั้งเป็นผลลบแก่ตัวเอง
“คนเรามักคิดว่าความโกรธเป็นอารมณ์ที่อันตราย และได้รับการสั่งสอนให้คิดในทางบวก แต่เราพบว่าแนวทางดังกล่าวเป็นการทำร้ายตัวเอง และที่สุดแล้วนำไปสู่การปฏิเสธความจริงอันเลวร้าย
“อารมณ์แง่ลบ เช่น ความกลัว และความโกรธมีมาแต่เกิดและมีความสำคัญมาก เพราะบ่อยครั้งมีความสำคัญต่อการอยู่รอดของคนเรา การทดลองอย่างรอบคอบพบว่าอารมณ์แง่ลบทำให้สมาธิแคบลงและมุ่งมั่นกระทั่งเราสามารถพุ่งความสนใจไปที่ต้นไม้แทนที่จะเป็นป่าทั้งป่าได้” ศาสตราจารย์จอร์จ ไวแลนต์ ผู้นำการจัดทำรายงานฉบับนี้ กล่าว
ศาสตราจารย์ไวแลนต์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโครงการศึกษาพัฒนาการวัยผู้ใหญ่ ที่ตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นนี้ เสริมว่าความโกรธที่ควบคุมไม่อยู่ถือเป็นอันตราย
“เราทุกคนโกรธเป็น แต่คนที่เรียนรู้วิธีแสดงอารมณ์นี้ออกมาพร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการระเบิดอารมณ์และผลลัพธ์ที่จะทำลายตัวเองจากความโกรธที่ปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ จะประสบความสำเร็จในบางสิ่งอย่างไม่น่าเชื่อในแง่ของการเติบโตทางอารมณ์และสุขภาพจิตโดยรวม
“ถ้าเราสามารถกำหนดและควบคุมทักษะเหล่านี้ เราจะนำทักษะเหล่านี้ไปใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายที่สำคัญยิ่งขึ้นได้”
เบน วิลเลียม นักจิตวิทยาการทำงานที่มีบริษัทของตัวเอง เสริมว่านี่เป็นเรื่องของการจัดการกับความก้าวร้าว การนิ่งเฉย และการแสดงออกอย่างเปิดเผย
“คนที่แสดงออกอย่างเปิดเผยจะสามารถปกป้องตัวเองได้โดยที่ยังเป็นที่นับถือของคนอื่น เพราะแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยในทีมงานของตนเองและผู้อื่น ซึ่งเท่ากับว่าคนๆ นั้นมีภาษีดีกว่าเมื่อถึงฤดูการเลื่อนตำแหน่ง”
