xs
xsm
sm
md
lg

“พธม.ชัยภูมิ”หอบหลักฐานส่งมอบ ตร.ลากคอ 2 ส.ส.ม็อบถ่อย“เพื่อแม้ว”เข้าคุก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำพธม. ชัยภูมิ นำหลักฐานและเข้าให้ปากคำต่อตร.เดินหน้าดำเนินคดีเอาผิด 2 ส.ส.ชัยภูมิ พท.  ที่นำม็อบเสื้อแดงถ่อยปิดล้อมป่วนเวทีการเมืองใหม่
ชัยภูมิ- แกนนำพันธมิตรฯ ลูกเจ้าพ่อพญาแล หอบหลักฐานและเข้าให้ปากคำต่อตร.เดินหน้าดำเนินคดีอาญาเอาผิด 2 ส.ส.ชัยภูมิ “เพื่อแม้ว” ตาม ม.309 และ ม.310 ระวางโทษจำคุก 3 ปี เหตุนำม็อบเสื้อแดงถ่อยปิดล้อมโรงแรมป่วนเวทีการเมืองใหม่ ลั่นดำเนินการเช็กบิลทุกช่องทางเพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้มีอิทธิพลชอบใช้อำนาจป่าเถื่อนก่อกวนสร้างความเดือดร้อนและทำร้ายผู้อื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) จังหวัดชัยภูมิ เดินทางเข้าให้ปากคำพร้อมนำพยานหลักฐานภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว มอบแก่ พ.ต.ท.บัณฑิต พุทธลา และ พ.ต.ท.อานุภาพ ผิวอ่อน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ หลังแกนนำได้แจ้งความให้ดำเนินคดี กับ นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ และ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย (พท.)ที่นำประชาชนกว่า 2,000 คน เข้าปิดล้อมและขัดขวางไม่ให้พันธมิตรฯ เข้าร่วมพบปะสังสรรค์และเสวนาทางการเมือง ใหม่ที่โรงแรมสยามริเวอร์ จังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำพันธมิตรฯ ชัยภูมิ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากได้รวบรวมหลักฐาน พยานที่เป็นวีซีดี และ ภาพถ่ายของ 2 ส.ส.ชัยภูมิ ที่ขึ้นเวทีปลุกปั่น นำประชาชนกว่า 2,000 คน เข้าปิดล้อมและขัดขวางไม่ให้พันธมิตรฯเดินทางมาร่วมงาน “วันรวมน้ำใจพันธมิตรฯชัยภูมิ ครั้งที่ 1” และเวทีปราศรัยเรื่อง “การเมืองใหม่ ที่ประชาชนควรมีส่วนร่วม” ที่โรงแรมสยามริเวอร์ รีสอร์ท เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์

ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ชัยภูมิ ได้ดำเนินการแจ้งความแล้วในวันเดียวกัน ( 21 ก.พ.) ในความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 “ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้ กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน หกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
และมาตรา 310 “ ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการ ใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

นายนพสณฑ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้แกนนำพันธมิตรฯ ชัยภูมิ ก็จะทยอยเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าบุคคลทั้งสองไม่ได้ทำหน้าที่ของ ส.ส.ที่ควรกระทำ เป็นการละเมิดสิทธิอย่างเห็นได้ชัด เราชุมนุมในที่ส่วนบุคคล ไม่ได้มีการยั่วยุ หรือกะเกณฑ์คนเข้าไปร่วม การมาร่วมเวทีเป็นไปด้วยความสมัครใจ ด้วยหัวใจเต็มร้อย ด้วยสิทธิที่ทุกคนพึงมี

“สิ่งที่กลุ่มเสื้อแดงได้ทำลง ทั้งการเคลื่อนมวลชนไป ปิดล้อมทางเข้าออกโรงแรมทุกด้าน รวมทั้งใช้วาจายั่วยุ ปลุกปั่นผ่านเครื่องกระจายเสียงตั้งแต่เช้าเกือบถึง 3 ทุ่ม และยังรบกวนสร้างเดือดร้อนผู้ป่วยที่พักรักษาตัวและผู้ป่วยที่เดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลชัยภูมิ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับโรงแรม ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุและไม่ใช่หน้าที่ของ ส.ส.ที่ควรทำ” นายนพสณฑ์ กล่าว

นายนพสณฑ์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เรากลุ่มแกนนำพันธมิตรฯชัยภูมิ ได้เดินทางยื่นหนังสือและหลักฐาน ต่อ นายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบ ส.ส.ทั้ง 2 คน รวมทั้งพิจารณา เพื่อสรุปส่ง คณะกรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด เพื่อขอดำเนินการถอดถอนต่อไป

“แกนนำและพันธมิตรฯ ชัยภูมิทุกคน ยืนยันที่จะดำเนินการทุกช่องทาง อย่างถึงที่สุดในเรื่องนี้ เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้มีอิทธิพล ที่ชอบใช้อำนาจ ก่อกวน สร้างความเดือดร้อน ทำร้ายผู้อื่น เหมือนอย่างเช่นที่เกิดขึ้นที่ จ. อุดรธานีและ จ.ร้อยเอ็ด” นายนพสณฑ์ กล่าวในตอนท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น