ASTVผู้จัดการรายวัน - รัฐบาลเตรียมจัดมหกรรมโอทอป ระหว่างวันที่ 28 มี.ค. – 5 เม.ย. หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เผยปรับรูปแบบกระจายจัดใน 7 ห้างดังกลางเมือง และสนามศุภชลาศัย ภายใต้ชื่องาน “โอทอป เฟสติวัล อิน เดอะ ซิตี้”
นายชุมพร พลรักษ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโอทอป ซึ่งมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้ฟื้นการจัดงานมหกรรมโอทอปขึ้นมาอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 28 มี.ค. - 5 เม.ย. 2552 นี้ หลังจาก 2 รัฐบาลก่อนหน้านี้ได้สั่งระงับการจัดงานไป ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ รัฐบาลต้องการให้เป็นหนึ่งในแผนงานกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
สำหรับการจัดงานจะแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ซึ่งเดิมจะจัดที่อิมแพด เมืองทองธานี เป็นประจำ แต่ครั้งนี้จะเปลี่ยนสถานที่จัดงาน โดยกระจายไปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางเมือง 7 แห่ง ได้แก่ สยามพารากอน ดิ เอ็มโพเรียม เกษรพลาซ่า เซ็นทรัลเวิลด์ อัมรินทร์พลาซ่า สยามเซ็นเตอร์ และมาบุญครอง รวมถึง สนามศุภชลาศัย ภายใต้ชื่องาน “โอทอป เฟสติวัล อิน เดอะ ซิตี้” ใช้งบประมาณในการดำเนินการไม่เกิน 140 ล้านบาท
ด้านผู้ประกอบการสินค้าโอทอปที่จะได้รับคัดเลือกมาร่วมงานครั้งนี้ จะเป็นผู้ผลิตสินค้าโอทอประดับ 3-5 ดาว โดยจะกระจายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ 800 บูท และที่สนามกีฬาศุภชลาศัยอีก 2,500 บูท รวมทั้งสิ้น 3,300 บูท โดยสินค้าที่กระจายขายในห้างสรรพสินค้าจะแยกเป็นหมวดสินค้าตามความเหมาะสมของกลุ่มลูกค้า เช่น ผ้าไหมชั้นดีจะขายในสยามพารากอน ผลิตภัณฑ์สปาจะให้ขายในดิ เอ็มโพเรียม เป็นต้น
ทั้งนี้ ทุกห้างสรรพสินค้ายินดีคิดค่าพื้นที่กับรัฐบาลในราคาถูก คาดว่า จะมีเงินสะพัดจำนวนมาก เพราะห้างสรรพสินค้าแต่ละแห่ง มีประชาชนเข้ามาเดินเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยรวมกันไม่ต่ำกว่า 500,000 คนต่อวันอยู่แล้ว
นายชุมพร พลรักษ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโอทอป ซึ่งมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้ฟื้นการจัดงานมหกรรมโอทอปขึ้นมาอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 28 มี.ค. - 5 เม.ย. 2552 นี้ หลังจาก 2 รัฐบาลก่อนหน้านี้ได้สั่งระงับการจัดงานไป ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ รัฐบาลต้องการให้เป็นหนึ่งในแผนงานกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
สำหรับการจัดงานจะแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ซึ่งเดิมจะจัดที่อิมแพด เมืองทองธานี เป็นประจำ แต่ครั้งนี้จะเปลี่ยนสถานที่จัดงาน โดยกระจายไปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางเมือง 7 แห่ง ได้แก่ สยามพารากอน ดิ เอ็มโพเรียม เกษรพลาซ่า เซ็นทรัลเวิลด์ อัมรินทร์พลาซ่า สยามเซ็นเตอร์ และมาบุญครอง รวมถึง สนามศุภชลาศัย ภายใต้ชื่องาน “โอทอป เฟสติวัล อิน เดอะ ซิตี้” ใช้งบประมาณในการดำเนินการไม่เกิน 140 ล้านบาท
ด้านผู้ประกอบการสินค้าโอทอปที่จะได้รับคัดเลือกมาร่วมงานครั้งนี้ จะเป็นผู้ผลิตสินค้าโอทอประดับ 3-5 ดาว โดยจะกระจายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ 800 บูท และที่สนามกีฬาศุภชลาศัยอีก 2,500 บูท รวมทั้งสิ้น 3,300 บูท โดยสินค้าที่กระจายขายในห้างสรรพสินค้าจะแยกเป็นหมวดสินค้าตามความเหมาะสมของกลุ่มลูกค้า เช่น ผ้าไหมชั้นดีจะขายในสยามพารากอน ผลิตภัณฑ์สปาจะให้ขายในดิ เอ็มโพเรียม เป็นต้น
ทั้งนี้ ทุกห้างสรรพสินค้ายินดีคิดค่าพื้นที่กับรัฐบาลในราคาถูก คาดว่า จะมีเงินสะพัดจำนวนมาก เพราะห้างสรรพสินค้าแต่ละแห่ง มีประชาชนเข้ามาเดินเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยรวมกันไม่ต่ำกว่า 500,000 คนต่อวันอยู่แล้ว