ASTVผู้จัดการรายวัน – "โกลเบล็ก" ตั้งเป้าปี 52 รายได้โต 50% จากปี 51 ที่ทำไว้ 303 ล้านบาท เนื่องจากการขยายงานที่ปรึกษาทางการเงินและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดอนุพันธ์ พร้อมลดพอร์ตลงทุนในหุ้นลงเหลือไม่ถึง 100 ล้านบาท หลังเศรษฐกิจซบ เชื่อซึมยาว เดินหน้าเทรดทองคำแท่งเต็มตัว หลังผลตอบแทนครั้งก่อนออกมาดี
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าปี 52 รายได้เติบโต 50% จากปี 51 ที่มีรายได้ที่ 303 ล้านบาท หลังจากได้ขยายงานด้านที่ปรึกษาทางการเงิน (IB) และงานในด้านตลาดอนุพันธ์ (tfex) ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (gold future) ฯลฯ อีกทั้งเตรียมจะเพิ่มความรู้ของพนักงานการตลาด (มาร์เก็ตติ้ง) ให้หลากหลายและครอบคลุมการลงทุนรูปแบบ เพื่อที่จะสามารถแนะนำทางเลือกให้กับนักลงทุนได้นอกเหนือจากการซื้อขายหลักทรัพย์ช่วงที่ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน
สำหรับรายได้ของบริษัทฯในปีนี้จะแบ่งออกเป็น 1.รายได้จากนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (คอมมิชชั่น) 70% 2.รายได้จากการลงทุนในตลาดหุ้นและอื่นๆ ทั้งการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว 10% งานที่ปรึกษาทางการเงิน 10% และอีก 10% มาจากธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยบริษัทฯ จะเน้นกระจายฐานรายได้มากว่าการพึ่งพารายได้หลักจากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว พร้อมตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ปีนี้ไว้ที่ 3% จากปี 51 ที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 1.4%
"จากทีมมาร์เก็ตติ้งที่มีศักยภาพของบล.โกลเบล็กเดิม ประกอบกับทีมมาร์เก็ตติ้งที่เข้ามาใหม่ และการขยายงานส่วนอื่นๆ ตลอดจนการเพิ่มทักษะมาร์เก็ตติ้งให้มีความรู้ครอบคลุมทุกการลงทุน จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้" นายชนะชัยกล่าว
ส่วนเรื่องการควบรวบธุรกิจบริษัทฯ ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสเพียงแต่ต้องรอดูความเหมาะสมก่อน และถ้าหากควบรวมแล้วจะสามารถเพิ่มศักยภาพกับบริษัทได้หรือไม่ ซึ่งหากมีบริษัทใดสนใจก็พร้อมจะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา แต่ปัจจุบันยังไม่มีบริษัทแห่งใดติดต่อเข้ามา อย่างไรก็ตามหากมีดีลที่เหมาะสมก็คงจำเป็นต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท
ด้านนายณัฐวุฒิ เขมะโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX กล่าวว่า ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เหลือไม่ถึง 100 ล้านบาท จากปี 51 ที่มีพอร์ตการลงทุนอยู่ 200 ล้านบาท เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นซบเซาตามทิศทางของเศรษฐกิจ และยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะกลับมาดีเมื่อใด บริษัทฯ จึงได้ปรับลดเม็ดเงินลงทุนเพราะไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทฯ จะหันมารุกธุรกิจซื้อขายทองคำแท่งอย่างเต็มตัว หลังจากก่อนหน้านี้ธุรกิจขายทองคำแท่งใช้เงินไปแล้ว 200 ล้านบาท โดยการลงทุนธุรกิจนี้ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 7-10% ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเชื่อว่าธุรกิจนี้น่าจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าปี 51 หลังราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการแบ่งฐานลูกค้าในธุรกิจค้าทองคำจะออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ฐานลูกค้าของ GBX เดิมที่มีความคุ้นเคยในการลงทุนรูปแบบต่างๆอยู่แล้ว 2.ลูกค้าที่เป็นนักลงทุนทั่วไป เช่น พนักงานออฟฟิต แต่ไม่สะดวกที่จะซื้อทองคำตามร้านทั่วไป 3.ลูกค้าประเภทสถาบัน และนิติบุคคล ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน รวมถึงผู้ผลิตที่ต้องการซื้อทองคำเพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิต
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าปี 52 รายได้เติบโต 50% จากปี 51 ที่มีรายได้ที่ 303 ล้านบาท หลังจากได้ขยายงานด้านที่ปรึกษาทางการเงิน (IB) และงานในด้านตลาดอนุพันธ์ (tfex) ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (gold future) ฯลฯ อีกทั้งเตรียมจะเพิ่มความรู้ของพนักงานการตลาด (มาร์เก็ตติ้ง) ให้หลากหลายและครอบคลุมการลงทุนรูปแบบ เพื่อที่จะสามารถแนะนำทางเลือกให้กับนักลงทุนได้นอกเหนือจากการซื้อขายหลักทรัพย์ช่วงที่ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน
สำหรับรายได้ของบริษัทฯในปีนี้จะแบ่งออกเป็น 1.รายได้จากนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (คอมมิชชั่น) 70% 2.รายได้จากการลงทุนในตลาดหุ้นและอื่นๆ ทั้งการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว 10% งานที่ปรึกษาทางการเงิน 10% และอีก 10% มาจากธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยบริษัทฯ จะเน้นกระจายฐานรายได้มากว่าการพึ่งพารายได้หลักจากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว พร้อมตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ปีนี้ไว้ที่ 3% จากปี 51 ที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 1.4%
"จากทีมมาร์เก็ตติ้งที่มีศักยภาพของบล.โกลเบล็กเดิม ประกอบกับทีมมาร์เก็ตติ้งที่เข้ามาใหม่ และการขยายงานส่วนอื่นๆ ตลอดจนการเพิ่มทักษะมาร์เก็ตติ้งให้มีความรู้ครอบคลุมทุกการลงทุน จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้" นายชนะชัยกล่าว
ส่วนเรื่องการควบรวบธุรกิจบริษัทฯ ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสเพียงแต่ต้องรอดูความเหมาะสมก่อน และถ้าหากควบรวมแล้วจะสามารถเพิ่มศักยภาพกับบริษัทได้หรือไม่ ซึ่งหากมีบริษัทใดสนใจก็พร้อมจะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา แต่ปัจจุบันยังไม่มีบริษัทแห่งใดติดต่อเข้ามา อย่างไรก็ตามหากมีดีลที่เหมาะสมก็คงจำเป็นต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท
ด้านนายณัฐวุฒิ เขมะโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX กล่าวว่า ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เหลือไม่ถึง 100 ล้านบาท จากปี 51 ที่มีพอร์ตการลงทุนอยู่ 200 ล้านบาท เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นซบเซาตามทิศทางของเศรษฐกิจ และยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะกลับมาดีเมื่อใด บริษัทฯ จึงได้ปรับลดเม็ดเงินลงทุนเพราะไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทฯ จะหันมารุกธุรกิจซื้อขายทองคำแท่งอย่างเต็มตัว หลังจากก่อนหน้านี้ธุรกิจขายทองคำแท่งใช้เงินไปแล้ว 200 ล้านบาท โดยการลงทุนธุรกิจนี้ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 7-10% ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเชื่อว่าธุรกิจนี้น่าจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าปี 51 หลังราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการแบ่งฐานลูกค้าในธุรกิจค้าทองคำจะออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ฐานลูกค้าของ GBX เดิมที่มีความคุ้นเคยในการลงทุนรูปแบบต่างๆอยู่แล้ว 2.ลูกค้าที่เป็นนักลงทุนทั่วไป เช่น พนักงานออฟฟิต แต่ไม่สะดวกที่จะซื้อทองคำตามร้านทั่วไป 3.ลูกค้าประเภทสถาบัน และนิติบุคคล ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน รวมถึงผู้ผลิตที่ต้องการซื้อทองคำเพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิต