xs
xsm
sm
md
lg

เมเจอร์ฯบุกแดนโรตีชิงตลาดบันเทิงหมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – เมเจอร์ฯเล็งลงทุนธุรกิจบันเทิงเต็มสูบในอินเดีย หวังแย่งชิงตลาดเม็ดเงินหมื่นล้านบาท เผยชิมลางโบว์ลิ่งเดือนมีนาคมนี้ หลังร่วมทุนกับกลุ่มพีวีอาร์ ปีที่แล้ว เผยจีนก็น่าสนใจ ส่วนในไทยเปิดตัวเอสพละนาดรัตนาธิเบศร์มูลค่า 750 ล้าน แนะรัฐลดข้อจำกัดผังเมืองใหม่
นายสมคิด ตันทัดวาณิชย์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดเผยว่า เมเจอร์ฯมีแผนลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิมก่อนหน้านี้ประกาศการร่วมลงทุนธุกริจโบว์ลิ่งในประเทศอินเดียไปแล้ว ส่วนที่จีนนั้นก็เป็นตลาดที่น่าสนใจและหากจะลงทุนก็คงจะขยายไปพร้อมกับศูนย์การค้า เนื่องจากนักพัฒนาที่ดินได้เข้าไปจับจองและพัฒนาที่ดินไว้หมดแล้ วเช่น จากฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา เป็นต้น
โดยประเทศอินเดียเป็นประเทศที่น่าสนใจลงทุนอย่างมากโดยเฉพาะกับอุตสาหกรรมบันเทิง ที่มีมูลค่าตลาดวกว่าหมื่นล้านบาทต่อปีและมีหนังเข้าฉายโรงหนังมากกว่าพันเรื่องต่อปี ถือเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าเมืองไทยอย่างมาก และเมืองที่น่าสนใจลงทุนก็คือ เดลี มุมไบ บังกะลอร์ กัลกัตตา เชนไน ไฮเดอร์ราบัด เป็นต้น
“ในช่วงที่ผ่านมาที่เกิดภาวะวิกฤติ ก็มีเจ้าของที่ดินหลายแห่งได้มาเสนอขายที่ดินให้กับทางเมเจอร์ฯ จำนวนมาก ซึ่งเมเจอร์ฯเองก็สนใจและมีการพิจารณาเพื่อที่จะลงทุนเปิดโรงภาพยนตร์แบบมัลติเพล็กซ์แบบที่ทำในไทยเหมือนกัน” นายสมคิดกล่าว
สำหรับการลงทุนในอินเดียนั้นได้ร่วมลงทุนกับกลุ่ม บริษัท พีวีอาร์ ตั้งบริษัท พีวีอาร์ บลู โอ เอนเตอร์เทนเมนต์ เมื่อปีที่แล้วเพื่อลงทุนธุรกิจโบว์ลิ่ง ซึ่งสาขาแรกจะเปิดที่ศูนย์การค้าแอมเบียนซ์มอลล์ กรุงเดลี ในเดือนมีนาคมนี้ มีจำนวน 24 เลน โดยตั้งเป้าหมายจะใช้เงินลงทุนรวม 1,000 ล้านบาท เพื่อเปิดโบว์ลิ่งให้ครบ 20 สาขา ภายในปี 2555
ส่วนในเมืองไทยนั้นล่าสุดได้ลงทุน 750 ล้านบาท เปิดตัว เอสพละนาดรัตนาธิเบศร์ เพื่อรองรับการขยายตัวรอบนอกกรุงเทพฯโดยเฉพาะย่านงามวงศ์วานถึงบางใหญ่ ที่มีกำลังซื้อสูง ประกอบด้วยโรงภาพยนตร์ 16 โรง โบว์ลิ่ง 22 เลน และไอซ์สเก็ต คาดว่าสาขานี้จะทำยอดขายได้ 2 ล้านใบต่อปี และมีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่กว่า 400 ล้านบาท
นายสมคิดยังให้ความเห็นถึงการปรับผังเมืองใหม่ของภาครัฐด้วยว่า การปรับผังเมืองใหม่ของภาครัฐประจำปี 2553 นั้น ถ้าหากมีการลดข้อจำกัดลง คาดว่าจะส่งผลดีต่อการลงทุนของภาคเอกชนมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่สีเหลือง หรือพื้นที่ที่มีที่อยู่อาศัยน้อย อย่าง ถนนเกษตร-นวมินทร์ ถนนรามอินทรา ถนนวงแหวนรอบนอก เป็นต้น เนื่องจากปัจจุบันถูกข้อจำกัด ไม่สามารถสร้างศูนย์การค้าพื้นที่ขนาด 1 หมื่นตารางเมตรได้

************
กำลังโหลดความคิดเห็น