อุบลราชธานี-โจรวัยรุ่นเจอกล้องวงจรปิดร้านอินเทอร์เน็ต ติดตั้งไว้จับภาพความเคลื่อนไหว ใช้เป็นเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับ หลังก่อเหตุใช้ปืนบุกเดี่ยวจี้หัวเจ้าทรัพย์ชิงโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ ทั้งที่ภาพกล้องวงจรปิดชัดเจน
พ.ต.อ.บุญยศ บุญไพศาล รักษาการ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี นำกำลังบุกจับนายโสภณ สว่างงาม อายุ 19 ปี ซึ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐข่มขู่ชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่องของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านวีอาร์ไซเบอร์เน็ตของนายอาทิตย์ ทรายขาว อายุ 39 ปี ตั้งอยู่เลขที่ 225 ถ.พิชิตรังสรรค์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 23 มกราคม 2553 ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ และทางร้านได้นำภาพทีวีวงจรปิด ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ตอนคนร้ายลงมือปฏิบัติการมอบให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นเบาะแสในการติดตาม
วันนี้ เจ้าหน้าที่ก็สามารถตามจับตัวผู้ก่อเหตุมาได้ พร้อมนำตัวมาสอบสวนเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธอ้างไม่ใช่ผู้ลงมือ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำภาพกล้องทีวีวงจรปิดมาให้ดู นายโสภณก็มีท่าทีอ่อนลง แต่ยังคงให้การปฏิเสธ พร้อมจะไปให้การชั้นศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และชิงทรัพย์ในเคหสถานยามวิกาลคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป
ด้านนายอาทิตย์ เจ้าของร้านวีอาร์ไซเบอร์เน็ตกล่าวเตือนผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการว่า ไม่ควรนำทรัพย์สินมีค่ามาวางไว้ขณะเข้าใช้บริการ และเจ้าของร้านควรติดตั้งกล้องทีวีวงจรปิด เพื่อใช้เป็นเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตามจับกุม หากเกิดเหตุร้ายใดๆขึ้น
พ.ต.อ.บุญยศ บุญไพศาล รักษาการ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี นำกำลังบุกจับนายโสภณ สว่างงาม อายุ 19 ปี ซึ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐข่มขู่ชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่องของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านวีอาร์ไซเบอร์เน็ตของนายอาทิตย์ ทรายขาว อายุ 39 ปี ตั้งอยู่เลขที่ 225 ถ.พิชิตรังสรรค์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 23 มกราคม 2553 ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ และทางร้านได้นำภาพทีวีวงจรปิด ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ตอนคนร้ายลงมือปฏิบัติการมอบให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นเบาะแสในการติดตาม
วันนี้ เจ้าหน้าที่ก็สามารถตามจับตัวผู้ก่อเหตุมาได้ พร้อมนำตัวมาสอบสวนเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธอ้างไม่ใช่ผู้ลงมือ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำภาพกล้องทีวีวงจรปิดมาให้ดู นายโสภณก็มีท่าทีอ่อนลง แต่ยังคงให้การปฏิเสธ พร้อมจะไปให้การชั้นศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และชิงทรัพย์ในเคหสถานยามวิกาลคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป
ด้านนายอาทิตย์ เจ้าของร้านวีอาร์ไซเบอร์เน็ตกล่าวเตือนผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการว่า ไม่ควรนำทรัพย์สินมีค่ามาวางไว้ขณะเข้าใช้บริการ และเจ้าของร้านควรติดตั้งกล้องทีวีวงจรปิด เพื่อใช้เป็นเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตามจับกุม หากเกิดเหตุร้ายใดๆขึ้น