ผู้จัดการรายวัน – “กระเบื้องตราเพชร” เร่งจัด Trade Promotion ตั้งแต่ต้นปี หวังสร้างยอดขาย พร้อมดึง “สมจิตร จงจอหอ” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อสร้างความจดจำไม่ความอดทน แข็งแรง พร้อมคาดปีนี้ตลาดรวมกระเบื้องทั้งปีทำได้ดีที่สุดโตเท่ากับปีที่แล้ว
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัทกระหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้เชื่อว่าในปีนี้ ตลาดรวมของวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะตลาดกระเบื้องหลังคาจะทรงตัวเท่ากับปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจแต่ราคาวัตถุดิบได้ปรับตัวลดลงพอสมควร ประกอบกับราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้ประชาชนหันมาซื้อเพื่อสร้างบ้านหรือซ่อมแซมบ้านในช่วงที่ราคาสินค้าถูก
จากการพิจารณายอดขายในช่วง 45 วันของปีนี้พบว่า ยังมียอดขายที่ดีอยู่ จึงเชื่อในปีนี้จะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายคือ เติบโตเท่ากับปีที่แล้วจากที่ตั้งเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 2,600 ล้านบาท แต่ทำยอดขายได้ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย สำหรับยอดขายดังกล่าว แบ่งเป็นยอดขายที่มาจากกรุงเทพและปริมณฑล 20% และภูมิภาค 80% ในจำนวนนี้มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันคือ ภาคละ 20-25%
ล่าสุด เพื่อเป็นการสร้างความจดจำในแบรนด์สินค้ากระเบื้องหลังคาตราเพชร บริษัทฯจึงได้เลือก“สมจิตร จงจอหอ” นักมวยเหรียญทองโอลิมปิก 2008 มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของบริษัท เพราะสมจิตรมีคุณสมบัติที่สะท้อนแนวคิดของกระเบื้องหลังคาตราเพชร แกร่ง ทน อีกทั้งเยาวชนควรเอาเป็นแบบอย่าง คือ ต้องอาศัยเวลาและความพยายาม อดทนจึงจะได้มาซึ่งความสำเร็จ
นอกจากนี้ ในช่วงต้นปีซึ่งเป็นฤดูขายกระเบื้องหลังคา บริษัทจึงเร่งสร้างยอดขายด้วยการทำโปรโมชันกับร้านค้าหรือ Trade Promotion เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด จากเดิมที่จะทำโปรโมชันในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่ยอดขายค่อนข้างต่ำ โดยโปรโมชันดังกล่าว เช่น สะสมแต้ม ให้ส่วนลดการซื้อสินค้า เป็นต้น โดยคาดว่าจะใช้งบในส่วนนี้ประมาณ 60 ล้านบาท จากงบการตลาดทั้งปี 100 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมร่วมกับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเพื่อ อาทิ อบรวมช่างติดตั้งหลังคา ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักเพื่อช่วยสร้างยอดขาย
“ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง เราจึงเร่งสร้างยอดขายตั้งแต่ต้นปีแม้ว่าจะเป็นฤดูขายกระเบื้องอยู่แล้วก็ตาม ส่วนในช่วงฤดูฝนที่มียอดขายต่ำกว่าทั้งปีเราค่อยมาทำโปรโมชั่นกันอีกครั้ง” นายสาธิตกล่าวและว่า
สำหรับการลงทุนสร้างสายการผลิตใหม่ที่ได้ลงทุนไปเมื่อปีที่ผ่านมา คาดว่าจะสามารถเดินกำลังการผลิตได้ในช่วงต้นปีหน้า โดยจะเป็นไลน์ที่ 9 ผลิตสินค้าประเภทผนัง พื้นที่มีความหนาได้หลากหลายตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป จากเดิมที่สามารถผลิตได้ประมาณ 6-8 มิลลิเมตร โดยไลน์ผลิตดังกล่าวจะมีกำลังการผลิตปีละ 50,000 ตัน ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนัก โดยจะมีทั้งขายในประเทศและส่งออกซึ่งตลาดต่างประเทศที่ยังพอไปได้ คือตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัทกระหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้เชื่อว่าในปีนี้ ตลาดรวมของวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะตลาดกระเบื้องหลังคาจะทรงตัวเท่ากับปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจแต่ราคาวัตถุดิบได้ปรับตัวลดลงพอสมควร ประกอบกับราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้ประชาชนหันมาซื้อเพื่อสร้างบ้านหรือซ่อมแซมบ้านในช่วงที่ราคาสินค้าถูก
จากการพิจารณายอดขายในช่วง 45 วันของปีนี้พบว่า ยังมียอดขายที่ดีอยู่ จึงเชื่อในปีนี้จะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายคือ เติบโตเท่ากับปีที่แล้วจากที่ตั้งเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 2,600 ล้านบาท แต่ทำยอดขายได้ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย สำหรับยอดขายดังกล่าว แบ่งเป็นยอดขายที่มาจากกรุงเทพและปริมณฑล 20% และภูมิภาค 80% ในจำนวนนี้มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันคือ ภาคละ 20-25%
ล่าสุด เพื่อเป็นการสร้างความจดจำในแบรนด์สินค้ากระเบื้องหลังคาตราเพชร บริษัทฯจึงได้เลือก“สมจิตร จงจอหอ” นักมวยเหรียญทองโอลิมปิก 2008 มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของบริษัท เพราะสมจิตรมีคุณสมบัติที่สะท้อนแนวคิดของกระเบื้องหลังคาตราเพชร แกร่ง ทน อีกทั้งเยาวชนควรเอาเป็นแบบอย่าง คือ ต้องอาศัยเวลาและความพยายาม อดทนจึงจะได้มาซึ่งความสำเร็จ
นอกจากนี้ ในช่วงต้นปีซึ่งเป็นฤดูขายกระเบื้องหลังคา บริษัทจึงเร่งสร้างยอดขายด้วยการทำโปรโมชันกับร้านค้าหรือ Trade Promotion เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด จากเดิมที่จะทำโปรโมชันในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่ยอดขายค่อนข้างต่ำ โดยโปรโมชันดังกล่าว เช่น สะสมแต้ม ให้ส่วนลดการซื้อสินค้า เป็นต้น โดยคาดว่าจะใช้งบในส่วนนี้ประมาณ 60 ล้านบาท จากงบการตลาดทั้งปี 100 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมร่วมกับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเพื่อ อาทิ อบรวมช่างติดตั้งหลังคา ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักเพื่อช่วยสร้างยอดขาย
“ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง เราจึงเร่งสร้างยอดขายตั้งแต่ต้นปีแม้ว่าจะเป็นฤดูขายกระเบื้องอยู่แล้วก็ตาม ส่วนในช่วงฤดูฝนที่มียอดขายต่ำกว่าทั้งปีเราค่อยมาทำโปรโมชั่นกันอีกครั้ง” นายสาธิตกล่าวและว่า
สำหรับการลงทุนสร้างสายการผลิตใหม่ที่ได้ลงทุนไปเมื่อปีที่ผ่านมา คาดว่าจะสามารถเดินกำลังการผลิตได้ในช่วงต้นปีหน้า โดยจะเป็นไลน์ที่ 9 ผลิตสินค้าประเภทผนัง พื้นที่มีความหนาได้หลากหลายตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป จากเดิมที่สามารถผลิตได้ประมาณ 6-8 มิลลิเมตร โดยไลน์ผลิตดังกล่าวจะมีกำลังการผลิตปีละ 50,000 ตัน ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนัก โดยจะมีทั้งขายในประเทศและส่งออกซึ่งตลาดต่างประเทศที่ยังพอไปได้ คือตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้