วานนี้ (19 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (20 ก.พ.) เวลา 11.00 น.จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมดังกล่าว โดยก่อ นการประชุม คาดว่า นายสุเทพ จะมีการหารือร่วมกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่ห้องประชุม 2 ถึงสถานการณ์ และมาตรการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.) ที่จะมีการนัดชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวง และอาจมีการเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามข้อเรียกร้องที่เคยเสนอกับรัฐบาลไปในวันที่ 24 ก.พ.นี้ จากนั้น นายสุเทพ จะออกมาแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนในเวลา 12.00 น.
ส่วนการประชุม ก.ตร.ที่ห้องประชุม 1 ในเวลา 13.00 น.นั้น มีวาระที่น่าสนใจดังนี้ วาระแรก จะเป็นเรื่องของการเสนอให้พิจารณา การจัดลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะประเด็นของ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่มีคำสั่งจากศาลปกครองให้คืนสิทธิ์ อาวุโสอันดับ 1 ให้ ก่อนที่จะถูก คมช.ย้ายไปเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี (ระดับ 9) โดย พล.ต.ท.ชลอ ระบุว่า หาก ก.ตร.แต่งตั้งข้ามอาวุโส จะฟ้องร้อง ก.ตร.ต่อศาลปกครอง
วาระที่สอง จะเป็นการพิจารณาเรื่องที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี พ.ต.อ.ทินกร มั่งคั่ง อดีตนายเวร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.โดย พ.ต.อ.ทินกร เป็นนายเวรมาตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ดำรงตำแหน่ง ผบก.ประจำ ตร.จนถึงที่ปรึกษา (สบ 10) แต่ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่มีการปฏิวัติของ คปค.แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กลับไม่ได้รับการติดต่อจาก พ.ต.อ.ทินกร มั่งคั่ง นายเวร และ พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ โสภณสุขกุล ผู้ช่วยนายเวร ทั้งที่มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจทุกสังกัดมารายงานตัวกับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ จึงเรียกนายตำรวจทั้ง 2 นาย มาตำหนิอย่างอย่างรุนแรง กระทั่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ทินกร ไปดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.ทินกร ทำหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.ในขณะนั้น โดยระบุว่า ถูกย้ายไม่เป็นธรรมไปยังพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งที่ตนเองไม่มีความชำนาญ ทั้งยังได้ร้องต่อศาลปกครองกลาง ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ ก.ตร.ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว
ส่วนวาระสาม จะเป็นการประชุมถึงการแต่งตั้งนายตำรวจให้ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ที่ว่างลง ซึ่งในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ผ่านมา ไม่สามารถตกลงกันในที่ประชุมได้ ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับการพิจารณาให้ขึ้นดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ได้แก่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำ ตร., พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่หากมีการจัดลำดับอาวุโสใหม่ จะขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.อันดับที่ 1 พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีผู้สนับสนุน และคาดว่า จะมีการถกเถียงถึงความเหมาะสมอีก แม้ว่าจะสามารถจัดลำดับอาวุโสเสร็จสิ้น ซึ่งต้องรอฟังผลหลังพิจารณาการจัดลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจในการประชุมวาระแรกก่อน ว่าจะมีปัญหาจนต้องเลื่อนการประชุมพิจารณาในเรื่องนี้อีกเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กล่าวถึงการประชุม ก.ตร.ในวันนี้ ว่า จะมีการพูดคุยกันถึงการจัดลำดับ อาวุโส ซึ่งเป็นระเบียบที่ต้องให้ ก.ตร.เห็นชอบ ส่วนจะมีการแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งรอง ผบ.ตร.หรือไม่ไม่แน่ ส่วนการแต่งตั้งครั้งที่ผ่านมาได้เสนอเพื่อโปรดเกล้าฯไปแล้ว
ส่วนการประชุม ก.ตร.ที่ห้องประชุม 1 ในเวลา 13.00 น.นั้น มีวาระที่น่าสนใจดังนี้ วาระแรก จะเป็นเรื่องของการเสนอให้พิจารณา การจัดลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะประเด็นของ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่มีคำสั่งจากศาลปกครองให้คืนสิทธิ์ อาวุโสอันดับ 1 ให้ ก่อนที่จะถูก คมช.ย้ายไปเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี (ระดับ 9) โดย พล.ต.ท.ชลอ ระบุว่า หาก ก.ตร.แต่งตั้งข้ามอาวุโส จะฟ้องร้อง ก.ตร.ต่อศาลปกครอง
วาระที่สอง จะเป็นการพิจารณาเรื่องที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี พ.ต.อ.ทินกร มั่งคั่ง อดีตนายเวร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.โดย พ.ต.อ.ทินกร เป็นนายเวรมาตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ดำรงตำแหน่ง ผบก.ประจำ ตร.จนถึงที่ปรึกษา (สบ 10) แต่ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่มีการปฏิวัติของ คปค.แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กลับไม่ได้รับการติดต่อจาก พ.ต.อ.ทินกร มั่งคั่ง นายเวร และ พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ โสภณสุขกุล ผู้ช่วยนายเวร ทั้งที่มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจทุกสังกัดมารายงานตัวกับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ จึงเรียกนายตำรวจทั้ง 2 นาย มาตำหนิอย่างอย่างรุนแรง กระทั่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ทินกร ไปดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.ทินกร ทำหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.ในขณะนั้น โดยระบุว่า ถูกย้ายไม่เป็นธรรมไปยังพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งที่ตนเองไม่มีความชำนาญ ทั้งยังได้ร้องต่อศาลปกครองกลาง ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ ก.ตร.ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว
ส่วนวาระสาม จะเป็นการประชุมถึงการแต่งตั้งนายตำรวจให้ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ที่ว่างลง ซึ่งในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ผ่านมา ไม่สามารถตกลงกันในที่ประชุมได้ ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับการพิจารณาให้ขึ้นดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ได้แก่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำ ตร., พล.ต.ท.ชลอ ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่หากมีการจัดลำดับอาวุโสใหม่ จะขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.อันดับที่ 1 พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีผู้สนับสนุน และคาดว่า จะมีการถกเถียงถึงความเหมาะสมอีก แม้ว่าจะสามารถจัดลำดับอาวุโสเสร็จสิ้น ซึ่งต้องรอฟังผลหลังพิจารณาการจัดลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจในการประชุมวาระแรกก่อน ว่าจะมีปัญหาจนต้องเลื่อนการประชุมพิจารณาในเรื่องนี้อีกเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กล่าวถึงการประชุม ก.ตร.ในวันนี้ ว่า จะมีการพูดคุยกันถึงการจัดลำดับ อาวุโส ซึ่งเป็นระเบียบที่ต้องให้ ก.ตร.เห็นชอบ ส่วนจะมีการแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งรอง ผบ.ตร.หรือไม่ไม่แน่ ส่วนการแต่งตั้งครั้งที่ผ่านมาได้เสนอเพื่อโปรดเกล้าฯไปแล้ว