ASTVผู้จัดการรายวัน-เวียดนาม เสนอไทยทำเอ็มโอยู กำหนดราคาข้าวร่วมกัน เลิกขายตัดราคาในตลาดโลก
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการเดินทางเยือนประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 15-17 ก.พ. ที่ผ่านมา ว่า ได้มีการหารือถึงแนวทางการกำหนดราคาข้าวร่วมกัน หลังจากที่เวียดนามมักขายข้าวตัดราคาไทย จนทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกตกต่ำ ซึ่งผู้บริหารระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้เสนอที่จะทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับไทยในด้านความร่วมมือค้าข้าวร่วมกัน โดยจะมีความร่วมมือใน 4 ระดับ คือ ระดับรัฐบาล ระดับผู้ส่งออก ระดับชาวนา และระดับวิชาการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีของ 2 ประเทศจะหารือกันอีกครั้งในเรื่องดังกล่าว ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียน ซัมมิต) ปลายเดือนนี้ และจะมีการลงนามเอ็มโอยูหลังจากนั้น พร้อมกันนั้น จะมีสายด่วนระหว่างกัน เพื่อปรึกษาหารือเรื่องข้าวเป็นการเฉพาะ
“เวียดนามกระตือรือร้นที่จะร่วมมือกับไทย โดยผู้บริหารพรรคคอมมิวนิสต์เสนอที่จะทำเอ็มโอยูกับไทย เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะกับชาวนา ซึ่งหากราคาส่งออกสูง ราคาข้าวเปลือกของชาวนาก็จะสูงตามไปด้วย” นายอลงกรณ์กล่าว
สำหรับราคาข้าวที่จะกำหนดร่วมกันนั้น ในเบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดอย่างเป็นทางการ แต่ได้หารือกันว่า น่าจะอยู่ที่ตันละ 600-700 เหรียญสหรัฐ ในข้าวขาว 4 ชนิดที่ 2 ประเทศมีเหมือนกัน เช่น ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 25% เป็นต้น ส่วนข้าวหอมมะลิ หรือข้าวคุณภาพสูงของไทยไม่ต้องกำหนดราคา เพราะเวียดนามไม่มี จึงไม่สามารถขายตัดราคากันได้ อย่างไรก็ตาม จะมีการหารือกับเวียดนามอีกหลายครั้งว่าจะสามารถดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมได้เมื่อใด ซึ่งตั้งเป้าจะดำเนินการได้จริงจังภายในปีหน้า เพราะไทยต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน หากจะลงนามใดๆ กับเวียดนาม
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการเดินทางเยือนประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 15-17 ก.พ. ที่ผ่านมา ว่า ได้มีการหารือถึงแนวทางการกำหนดราคาข้าวร่วมกัน หลังจากที่เวียดนามมักขายข้าวตัดราคาไทย จนทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกตกต่ำ ซึ่งผู้บริหารระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้เสนอที่จะทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับไทยในด้านความร่วมมือค้าข้าวร่วมกัน โดยจะมีความร่วมมือใน 4 ระดับ คือ ระดับรัฐบาล ระดับผู้ส่งออก ระดับชาวนา และระดับวิชาการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีของ 2 ประเทศจะหารือกันอีกครั้งในเรื่องดังกล่าว ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียน ซัมมิต) ปลายเดือนนี้ และจะมีการลงนามเอ็มโอยูหลังจากนั้น พร้อมกันนั้น จะมีสายด่วนระหว่างกัน เพื่อปรึกษาหารือเรื่องข้าวเป็นการเฉพาะ
“เวียดนามกระตือรือร้นที่จะร่วมมือกับไทย โดยผู้บริหารพรรคคอมมิวนิสต์เสนอที่จะทำเอ็มโอยูกับไทย เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะกับชาวนา ซึ่งหากราคาส่งออกสูง ราคาข้าวเปลือกของชาวนาก็จะสูงตามไปด้วย” นายอลงกรณ์กล่าว
สำหรับราคาข้าวที่จะกำหนดร่วมกันนั้น ในเบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดอย่างเป็นทางการ แต่ได้หารือกันว่า น่าจะอยู่ที่ตันละ 600-700 เหรียญสหรัฐ ในข้าวขาว 4 ชนิดที่ 2 ประเทศมีเหมือนกัน เช่น ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 25% เป็นต้น ส่วนข้าวหอมมะลิ หรือข้าวคุณภาพสูงของไทยไม่ต้องกำหนดราคา เพราะเวียดนามไม่มี จึงไม่สามารถขายตัดราคากันได้ อย่างไรก็ตาม จะมีการหารือกับเวียดนามอีกหลายครั้งว่าจะสามารถดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมได้เมื่อใด ซึ่งตั้งเป้าจะดำเนินการได้จริงจังภายในปีหน้า เพราะไทยต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน หากจะลงนามใดๆ กับเวียดนาม