xs
xsm
sm
md
lg

ฟันกราวรูดแก๊งอุดรเถื่อน ขวัญชัย-อุทัย-ผู้การฯ-ผู้ว่าฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ป.ป.ช.เชือดอาญา "ขวัญชัย -อุทัย "บงการทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯที่ชุมนุมโดยสงบ ผู้การฯ อุดรธานี เจอวินัยร้ายแรง ผู้ว่าฯโดนด้วย ส่วนบรรยากาศพิธีรดน้ำศพ "ครูอารมณ์ มีชัย" หญิงแกร่งผู้อุทิศตนเพื่อปกป้อง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คลาคล่ำไปด้วยกลุ่มพันธมิตรฯกว่า 5 พันคน ที่หลั่งไหลไปร่วมไว้อาลัย โดยมีนายกรัฐมนตรี แกนนำพันธมิตรฯ บุคคลผู้มีชื่อเสียงในหลายวงการ เข้าร่วมไว้อาลัย ด้านสลน.ชงมติ คกก.อิสระสอบเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ ยุติสอบข้อเท็จจริง อ้างเหตุไม่ได้รับความร่วมมือจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง รายงานครม.เป็นวาระเพื่อทราบ ขณะที่ ครม.มอบ"สาทิตย์" ดูผลสอบ 7 ตุลาทมิฬ ก่อนเปิดเผยสู่สาธารณะ "ป.ป.ช."เผยสัปดาห์หน้าสรุปสำนวนแจ้งข้อกล่าวหาได้

วานนี้ (17ก.พ.) ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติด้วยเสียงไม่เอกฉันท์ว่า นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำชมรมคนรักอุดร และอดีตข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และนายอุทัย แสนแก้ว อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลไชยวาน น้องชาย นายธีระชัย แสนแก้ว อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน กรณีชมรมคนรักอุดรฯ พร้อมอาวุธหลายชนิด บุกเข้าทำร้ายร่างกายในลักษณะหมายเอาชีวิตกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่กำลังจัดเวทีปราศรัยต่อต้านรัฐบาลนายสมัคร บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.51

ทั้งนี้ ยังมีมติว่า พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี มีความผิดวินัยร้ายแรง และนายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี (เกษียณอายุ) ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ฯลฯในฐานะเจ้าของพื้นที่ ได้ปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในเรื่องนายขวัญชัย ว่ามีความผิดทางอาญา ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ เพราะขณะเกิดเหตุเป็นข้าราชการการเมืองประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งส่วนที่เห็นว่าไม่น่าจะมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะมิได้ใช้อำนาจหน้าที่ในการกระทำความผิด

นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ กล่าวว่า เสียงในที่ประชุม ไม่ก้ำกึ่ง และทางคณะกรรมการมองว่า มีมูลจริง

ส่วนในการดำเนินคดีนั้น ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยในที่ประชุมได้มอบหมายให้ นายวิชา มหาคุณ เป็นประธานคณะกรรมการ และจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) ถึงกรณีดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 ก.ค.1 คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติให้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนเรื่องนี้ขึ้น มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน โดยคณะกรรมการป.ป.ช.ได้พิจารณาในกรณีที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชน และกรณีมีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ส่งแผ่นดีวีดีบันทึกภาพเหตุการณ์กลุ่มประชาชนพร้อมอาวุธหลายชนิด บุกเข้าทำร้ายร่างกายในลักษณะหมายเอาชีวิตประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่กำลังจัดเวทีปราศรัยต่อต้านรัฐบาลบริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี กับพวก ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดอุดรธานีได้ปล่อยปละละเลย ให้กลุ่มประชาชนพร้อมอาวุธดังกล่าวเข้าทำร้ายร่างกายประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งที่ใช้สิทธิแสดงความคิดเห็นโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นเหตุให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก อีกทั้ง ประชาชนหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส

นายวิชา มหาคุณ ประธานอนุกรรมการ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ มีข้อถกเถียงกันมาก แต่ในวันนี้ (18 ก.พ.) จะมีการเปิดแถลงข่าว กรณีของนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำชมรมคนรักอุดร และอดีตข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรณีบุกทำร้ายม็อบพันธมิตรที่ จ.อุดรธานี

สำหรับนายขวัญชัยนั้น นายสมัคร มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 107/2551 แต่งตั้งนายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมกับบุคคลอื่นรวม 12 คน ตามมติครม. เมื่อวันที่ 6 พ.ค.51 ได้เงินเดือนตำแหน่งเทียบเท่าข้าราชการซี 8 จำนวน 27,000 บาท

ด้านนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำชมรมคนรักอุดร เปิดเผยหลังทราบมติป.ป.ช. ว่า ก็ไม่เป็นไร ก็ต้องสู้กันตามกระบวนการ แต่ยังสงสัยว่าตนมีความผิดได้อย่างไร เพราะในวันนั้นตนไม่ได้ไปหนองประจักษ์ฯ แต่อยู่ที่เวทีทุ่งศรีเมือง แค่ตนสั่งการให้ นายอุทัย แสนแก้ว อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลไชยวาน น้องชาย นายธีระชัย แสนแก้ว อดีตรมช.เกษตรฯ พาคนไปเท่านั้นเอง

"พวกนายเจริญ หมู่ขจรพันธุ์ แกนนำพันธมิตรฯอุดรฯ มันเก่ง มีทนายทำสำนวนให้ มีการเก็บหลักฐาน ถ่ายรูปอะไรไว้ แต่เราไม่มี ก็ค่อยว่ากันไป หรือว่าความยุติธรรมมันจะไม่มีอย่างที่นายทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร )ว่าไว้ ก็ต้องรอดูกัน ผมขอปรึกษานายธีระชัย ก่อนก็แล้วกัน" นายขวัญชัยกล่าว

นายกฯร่วมไว้อาลัย"แม่อารมณ์"

วานนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศพิธีรดน้ำศพ ครูอารมณ์ มีชัย ที่ศาลา 6 วัดโสมนัสวรวิหาร คลาคล่ำไปด้วยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกว่า 5,000 คน ที่มาร่วมในพิธีดังกล่าว และถึงแม้ว่าพิธีรดน้ำศพจะเริ่มมาตั้งแต่ เวลา 16.00 น. แต่พันธมิตรฯ จำนวนมากก็ยังทยอยเดินทางมาร่วมงานอย่างไม่ขาดสาย ทำให้พื้นที่บริเวณศาลา 6 แน่นขนัดจนล้นออกไปยังศาลาใกล้เคียง

ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการขับกล่อมดนตรีจากวงดนตรีเยาวชนโรงเรียน สุนทรวิทยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งคณะดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมของ อ.นิตย์ บุญประสิทธิ์ ผู้ซึ่งเคยร่วมกิจกรรมการต่อสู้ทางการเมืองมาพร้อมกับครูอารมณ์ การนำเด็กๆ มาร่วมแสดงดนตรีในครั้งนี้ ก็เพื่อแสดงถึงการไว้อาลัย ต่อเพื่อนร่วมอุดมการณ์ รักษาสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ นอกจากนี้ยังมีศิลปิน "วสันต์ สิทธิเขตต์" ร่วมร้องเพลง และอ่านบทกลอนไว้อาลัยด้วย

สำหรับบุคคลมีชื่อเสียง ก็ได้เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ นางมาลีรัตน์ แก้วก่า นายสำราญ รอดเพชร แกนนำพันธมิตรฯ รุ่นที่ 2 พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้ดำเนินรายการ "รู้ทันประเทศไทย" นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ

ส่วนบุคคลมีชื่อเสียงที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ แต่ส่งพวงหรีดมาร่วมไว้อาลัย เช่น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. นางมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ผช.ผศ.ดร.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ อาทิ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ องค์การเภสัชกรรม ม.รามคำแหง และมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค เป็นต้น

สำหรับงานสวดอภิธรรม ครูอารมณ์ มีชัย จะมีขึ้นในเวลา 18.30 น. ตั้งแต่วันที่ 17-21 ก.พ. และจะมีกำหนดการพระราชทานเพลิงศพในวันอาทิตย์ที่ 22 ก.พ. เวลา 17.30 น. ทั้งนี้ "แม่อารมณ์" ได้เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง ขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษ วันที่ 16 ก.พ.ในวัย 65 ปี

สลน.ชงมติคกก.อิสระสอบ7ตุลาฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาลผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ได้เสนอต่อที่ประชุม ครม.เป็นวาระเพื่อทราบในการยุติการดำเนินการของคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 โดยสาระสำคัญที่ สลน.ขอให้นำเสนอ ครม.รับทราบรายงานผลรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 คือทาง สลน.ได้รายงานว่า นายปรีชา พานิชวงศ์ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 237/2551 ลงวันที่ 14 ต.ค.51 ได้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ดังนี้

คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งดังกล่าว ได้กำหนดกรอบในการทำงานของคณะกรรมการฯ โดยมุ่งเน้นความเป็นอิสระและทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยการสอบปากคำผู้ที่เป็นประจักษ์พยานทุกฝ่าย รวบรวมพยานหลักฐาน ศึกษากฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องและจัดทำรายงานสรุปเพื่อนำเสนอนายกฯในการดำเนินการของคณะกรรมการฯ ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการฯ รวม 5 ชุด ดังนี้ 1.คณะอนุกรรมการฝ่ายตรวจสอข้อมูลข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีนายประเสริฐ บุญศรี เป็นประธานอนุกรรมการ 2.คณะอนุกรรมการฝ่ายตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงจากประชาชน มีนายวิชัย ตันติกุลานนท์ เป็นประธานอนุกรรมการ 3.คณะอนุกรรมการฝ่ายตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงจากสื่อมวลชนและภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีนายสหาย ทรัพย์สุนทรกุล เป็นประธานอนุกรรมการ 4.คณะอนุกรรมการฝ่ายศึกษา รวบรวมกฎหมาย และระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มีคุณพรทิพย์ จาละ เป็นประธานอนุกรรมการ และ 5.คณะอนุกรรมการฝ่ายเลขานุการฯ มีนายวิชัย ตันติกุลานนท์ เป็นประธานอนุกรรมการ

"โดยคณะกรรมการดังกล่าวได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด ประกอบกับคณะกรรมการฯไม่ได้รับความร่วมมือจากบุคคลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงเท่าที่ควร และคณะกรรมการฯไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะใช้แสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้นได้อีกแล้ว คณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 237/2551 ลงวันที่ 14 ต.ค.2551 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยนายกรัฐมนตรีได้รับทราบแล้ว และมีคำสั่งให้เสนอ ครม.รับทราบ"

ครม.มอบ"สาทิตย์"ดูผลสรุป 7 ตุลาฯ

ภายหลังการประชุม ครม.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.ได้รับทราบรายงานสรุปผลการตรวจสอบการสลายการชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ของคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ 7 ต.ค.51 ที่มีนายปรีชา พานิชวงศ์ เป็นประธานฯแล้ว แต่มีบางเรื่องที่เป็นข้อมูลลับมาก ไม่สามารถเปิดเผยได้ ที่ประชุมจึงมอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปศึกษาพิจารณาว่า ข้อมูลส่วนใดสามารถเปิดเผยได้ ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีรายงานว่าผลสรุปของคณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่ได้สรุปเกี่ยวกับผู้ที่กระทำผิด เพียงแต่ชี้ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงมีสาเหตุมาจากการที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมสภาฯ เพื่อแถลงนโยบายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การที่คณะกรรมการชุดดังกล่าวยุติการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ในการให้ข้อมูล

ป.ป.ช.เผยสัปดาห์หน้าสรุปสำนวน

ด้านนายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปรายปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีการสลายผู้ชุมนุมพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ว่า ที่ผ่านมาได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำแล้วหายปาก ทั้งฝ่ายพันธมิตรฯ ตำรวจ พยาบาล ผู้บาดเจ็บ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ข้อมูลที่ได้มาถือว่ามากพอสมควร

"ในสัปดาห์หน้าวันที่ 23 ก.พ.นี้หากไม่มีผู้มาให้ปากคำเพิ่มเติมเพิ่มเติม ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งชุดที่เป็นผู้ตรวจสอบ ไต่สวนคดีนี้จะสรุปว่าจะต้องตั้งข้อกล่าวหาใครบ้าง เพื่อแจ้งผู้ถูกกล่าวหาให้มาให้ปากคำต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาการไต่สวนประมาณ 1 เดือนครึ่งก็จะสามารถสรุปเข้าสู่การวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้ อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นการไต่สวนร่วมกันของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 ท่าน โดยมีตนเองทำหน้าที่รับผิดชอบสำนวน
กำลังโหลดความคิดเห็น