ททท.จับมือเอกชนวางแผนใช้เงิน 1,000 ล้านบาทจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ระบุเล็งจับมือ "ทุย นอดิก " ดึงนักท่องเที่ยวชาวสแกนเข้ามาไทยเดือนเมษายนนี้ คาดเงินสะพัด 800 ล้านบาท ด้านภาคเอกชนท่องเที่ยว จ.กระบี่ รวมกลุ่มหนีตาย ควัก 1 ล้านบาท เดินสายโรดโชว์ทั่วประเทศ ประเดิมกรุงเทพเดสติเนชั่นแรก
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) จัดทำแผนส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้วงเงินงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ที่ ครม.อนุมัติจากงบกลางปีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะแบ่งเป็น 400 ล้านบาท ใช้กระตุ้นตลาดในประเทศ แบ่งเป็น จัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว 250 ล้านบาท ,โฆษณาประชาสัมพันธ์ฝ่ายสื่อพิเศษ 50 ล้านบาท และโครงการเสริมศักยภาพการท่องเที่ยว 100 ล้านบาท
อีก 600 ล้านบาท จะใช้กระตุ้นตลาดตลาดประเทศ แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.แผนฟื้นฟู ภาพลักษณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นวงเงิน 250 ล้านบาท เช่น โครงการไทยแลนด์ ทอก ทู เดอะ เวิร์ด เวลคัม แบล็ค 2.แผนการกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ วงเงิน 350 ล้านบาท เน้นการตอกย้ำภายใต้โครงการ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ อะเมซิ่ง แวลู รวมถึงจับมือกับพันธมิตร เช่นบริษัททัวร์ในต่างประเทศ จัดกิจกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวประเทศไทย
ล่าสุด ททท.ใช้งบ 7 ล้านบาท ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ร่วมกับ บริษัททุย นอดิก หวังดึงนักท่องเที่ยวจากสแกนดิเนเวีย เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยที่ จ.ภูเก็ต โดยเครื่องบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟต์)ในช่วงเดือนเมษายนศกนี้ ตั้งเป้าไว้ที่ 1.6 หมื่นคน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 800 ล้านบาท และ ททท.สำนักงานลอนดอน และ ปารีส ตรียมจับมือพันธมิตรในประเทศนั้นๆ จัด 7 โครงการ กระตุ้นท่องเที่ยวประเทศไทย เช่น โครงการเฟรน ออฟ ไทยแลนด์ โดยให้คนไทยช่วยเพื่อนต่างชาติมาเที่ยวประเทศไทยในราคาพิเศษ เป็นต้น
"ในที่ประชุม ภาคเอกชนได้เสนอแผนการตลาด ที่จะส่งเสริมชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงกลางปีถึงปลายปี ซึ่ง ททท.รับไว้พิจารณา คาดว่า สิ้นเดือนนี้จะสรุปได้"
อย่างไรก็ตาม ททท.ได้วิเคราะห์โอกาสทางการตลาด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการนักท่องเที่ยว อีกทั้งจะได้ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มตลาดศักยภาพพร้อมเดินทางท่องเที่ยว เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย รัสเซีย และ สแกนดิเนเวีย 2.กลุ่มตลาดที่มีโอกาสกลับคืน เช่น เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ เป็นต้น 3.กลุ่มตลาดชะลอตัว เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และ 4.กลุ่มตลาดหดตัว เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และ ไต้หวัน
***เอกชนกระบี่ยกทัพบุกโรดโชว์กรุงเทพฯหนี้ตาย**
ทางด้านนางพัชรา พูลโภคผล นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ผู้ประกอบการนำเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ได้ร่วมตัวกัน ออกเดินสายโรดโชว์ในประเทศ เริ่มที่ กรุงเทพฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ตอนบน ภาคตะวันออก และภาคเหนือ ตามลำดับด้วยงบประมาณ 1 ล้านบาท ภายใต้ชื่อโครงการ "เที่ยวกระบี่สวยบาดตา...ราคาบาดใจ" นำเสนอแพกเกจท่องเที่ยวด้วยราคาลดพิเศษ 30-80% เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มตลาดคนไทย
"เราคาดหวังประชาสัมพันธ์ให้คนไทยรู้ว่า จังหวัดกระบี่ยินดีต้อนรับ รวมถึงกรุ๊ปประชุมสัมมนาจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ และกลุ่มบริษัทห้างร้าน ตามนโยบายของรัฐบาล เชื่อว่าจากแพกเกจราคาพิเศษดังกล่าวนี้จะช่วยกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวกระบี่ให้ดีขึ้น โดยมีโรงแรมตั้งแต่ 3-5 ดาวเข้าร่วมจัดแคมเปญ ผู้จองซื้อสามารถใช้บริการได้ถึงตุลาคมปีนี้"
จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมา จ.กระบี่ปี 2551 อยู่ที่ 2.2 ล้านคน ในที่นี้ 40% เป็นคนไทย แต่จากโครงการนี้จะเพิ่มสัดส่วนคนไทยเป็น 60% ในสิ้นปีนี้
นางพัชรา กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้จำนวนเที่ยวบินที่มาลงสนามบินกระบี่ลดลงกว่า 200 เที่ยวต่อเดือน จากปกติมีประมาณ 80 เที่ยวต่อสัปดาห์ เพราะหลายสายการบินยกเลิก เช่น นกแอร์ วันทูโก เป็นต้น ที่บินอยู่ก็ลดจำนวนเที่ยวเช่น ไทยแอร์เอเชีย การบินไทย จึงมีแผนจับมือกับเอกชนในกลุ่มจังหวัดอันดามัน เช่น ภูเก็ต พังงา ตรัง สตูล ไปจนถึงเกาะลังกาวี เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวทั้งอันดามัน ด้วยแนวคิดเดินทางเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวในอันดามันทางเรือด้วย
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) จัดทำแผนส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้วงเงินงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ที่ ครม.อนุมัติจากงบกลางปีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะแบ่งเป็น 400 ล้านบาท ใช้กระตุ้นตลาดในประเทศ แบ่งเป็น จัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว 250 ล้านบาท ,โฆษณาประชาสัมพันธ์ฝ่ายสื่อพิเศษ 50 ล้านบาท และโครงการเสริมศักยภาพการท่องเที่ยว 100 ล้านบาท
อีก 600 ล้านบาท จะใช้กระตุ้นตลาดตลาดประเทศ แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.แผนฟื้นฟู ภาพลักษณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นวงเงิน 250 ล้านบาท เช่น โครงการไทยแลนด์ ทอก ทู เดอะ เวิร์ด เวลคัม แบล็ค 2.แผนการกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ วงเงิน 350 ล้านบาท เน้นการตอกย้ำภายใต้โครงการ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ อะเมซิ่ง แวลู รวมถึงจับมือกับพันธมิตร เช่นบริษัททัวร์ในต่างประเทศ จัดกิจกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวประเทศไทย
ล่าสุด ททท.ใช้งบ 7 ล้านบาท ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ร่วมกับ บริษัททุย นอดิก หวังดึงนักท่องเที่ยวจากสแกนดิเนเวีย เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยที่ จ.ภูเก็ต โดยเครื่องบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟต์)ในช่วงเดือนเมษายนศกนี้ ตั้งเป้าไว้ที่ 1.6 หมื่นคน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 800 ล้านบาท และ ททท.สำนักงานลอนดอน และ ปารีส ตรียมจับมือพันธมิตรในประเทศนั้นๆ จัด 7 โครงการ กระตุ้นท่องเที่ยวประเทศไทย เช่น โครงการเฟรน ออฟ ไทยแลนด์ โดยให้คนไทยช่วยเพื่อนต่างชาติมาเที่ยวประเทศไทยในราคาพิเศษ เป็นต้น
"ในที่ประชุม ภาคเอกชนได้เสนอแผนการตลาด ที่จะส่งเสริมชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงกลางปีถึงปลายปี ซึ่ง ททท.รับไว้พิจารณา คาดว่า สิ้นเดือนนี้จะสรุปได้"
อย่างไรก็ตาม ททท.ได้วิเคราะห์โอกาสทางการตลาด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการนักท่องเที่ยว อีกทั้งจะได้ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มตลาดศักยภาพพร้อมเดินทางท่องเที่ยว เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย รัสเซีย และ สแกนดิเนเวีย 2.กลุ่มตลาดที่มีโอกาสกลับคืน เช่น เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ เป็นต้น 3.กลุ่มตลาดชะลอตัว เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และ 4.กลุ่มตลาดหดตัว เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และ ไต้หวัน
***เอกชนกระบี่ยกทัพบุกโรดโชว์กรุงเทพฯหนี้ตาย**
ทางด้านนางพัชรา พูลโภคผล นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ผู้ประกอบการนำเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ได้ร่วมตัวกัน ออกเดินสายโรดโชว์ในประเทศ เริ่มที่ กรุงเทพฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ตอนบน ภาคตะวันออก และภาคเหนือ ตามลำดับด้วยงบประมาณ 1 ล้านบาท ภายใต้ชื่อโครงการ "เที่ยวกระบี่สวยบาดตา...ราคาบาดใจ" นำเสนอแพกเกจท่องเที่ยวด้วยราคาลดพิเศษ 30-80% เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มตลาดคนไทย
"เราคาดหวังประชาสัมพันธ์ให้คนไทยรู้ว่า จังหวัดกระบี่ยินดีต้อนรับ รวมถึงกรุ๊ปประชุมสัมมนาจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ และกลุ่มบริษัทห้างร้าน ตามนโยบายของรัฐบาล เชื่อว่าจากแพกเกจราคาพิเศษดังกล่าวนี้จะช่วยกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวกระบี่ให้ดีขึ้น โดยมีโรงแรมตั้งแต่ 3-5 ดาวเข้าร่วมจัดแคมเปญ ผู้จองซื้อสามารถใช้บริการได้ถึงตุลาคมปีนี้"
จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมา จ.กระบี่ปี 2551 อยู่ที่ 2.2 ล้านคน ในที่นี้ 40% เป็นคนไทย แต่จากโครงการนี้จะเพิ่มสัดส่วนคนไทยเป็น 60% ในสิ้นปีนี้
นางพัชรา กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้จำนวนเที่ยวบินที่มาลงสนามบินกระบี่ลดลงกว่า 200 เที่ยวต่อเดือน จากปกติมีประมาณ 80 เที่ยวต่อสัปดาห์ เพราะหลายสายการบินยกเลิก เช่น นกแอร์ วันทูโก เป็นต้น ที่บินอยู่ก็ลดจำนวนเที่ยวเช่น ไทยแอร์เอเชีย การบินไทย จึงมีแผนจับมือกับเอกชนในกลุ่มจังหวัดอันดามัน เช่น ภูเก็ต พังงา ตรัง สตูล ไปจนถึงเกาะลังกาวี เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวทั้งอันดามัน ด้วยแนวคิดเดินทางเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวในอันดามันทางเรือด้วย
