มิลเลนเนียม ฮิลตัน ร่วมวงจับตลาดไมซ์ เน้นกรุ๊ปประชุมสัมมนา เสนอบริการด้วยเทคโนโลยี เปิดราคาเริ่มต้น 850 บาท ต่อคน หวังช่วยประคองสัดส่วนลูกค้าตลาดไมซ์ปีนี้ให้แตะ 30% เท่าปีก่อน
นายสก็อต วิลสัน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ตลาดประชุมสัมมนา(ไมซ์) ยังมีศักยภาพเติบโตได้แม้อยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่อาจปรับลดงบค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อประชุมหรือสัมมนา แทนที่จะเดินทางระยะไกลไปนอกภูมิภาค ก็หันมาเดินทางระยะใกล้ในภูมิภาคเดียวกัน ทำให้ประเทศไทยเป็นเดสติเนชั่นที่จะเป็นทางเลือกที่จะใช้จัดการประชุมสัมมนาจากกลุ่มประเทศในภูมิภาคเดียวกัน
โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน มองเห็นธุรกิจจัดประชุมสัมมนาเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ปีนี้จะบุกทำตลาดลูกค้ากรุ๊ปประชุมสัมมนาให้มากขึ้น เน้นทั้งกลุ่มคอร์ปอเรทที่อยู่ในประเทศไทย และ กรุ๊ปที่เป็นระดับผู้บริหารองค์กรที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น
ทั้งนี้โรงแรมได้จัดเป็นแพคเกจภายใต้ชื่อ “Hilton Meetings” แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1.แพกเกจเต็มวัน 8 ชั่วโมง รวมอาหารกลางวัน ของว่าง ชา และกาแฟ ในราคา 1,700++ บาทต่อท่าน 2.แพคเกจครึ่งวันรวมอาหารกลางวัน ของว่าง พร้อมชากาแฟ ราคา 1,445++บาท ต่อท่าน และ 3.แพกเกจครึ่งวันไม่รวมอาหารกลางวัน แต่มีของว่าง และชากาแฟ ราคา 850++บาท ต่อท่าน
โดยนำเสนอห้องประชุมแบบเอ็กซ์คลูซีฟรวม 10 ห้องบนชั้น 30 ของโรงแรม เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริหาร พร้อมฟังก์ชั่นด้านเทคโนโลยี บริการเสริมพิเศษอื่นๆ เช่น นวดเพื่อผ่อนคลายยามบ่าย เป็นต้น
“เราคาดหวังว่าลูกค้ากลุ่มไมซ์จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่โรงแรมคิดเป็น 30% เท่าๆกับปีก่อน ทั้งนี้เพราะสถานการณ์ครึ่งปีแรกตลาดหดหายไปบ้าง ช่วงครึ่งปีหลัง มั่นใจว่าจะพลิกฟื้นตลาดให้ดีขึ้นได้”
อย่างไรก็ตามภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวปีนี้อาจไม่เติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เพราะ ผลจากวิกฤตเศรษฐกิจ และ ผลกระทบจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวช่วง1-2 เดือนแรก มีจำนวนไม่มากเท่ากับทุกปีที่ผ่านมา ดังนั้นทางโรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน จึงไม่ได้ตั้งเป้าเติบโต เพียงขอรักษาตัวเลขให้เท่ากับปีก่อนก็พอใจแล้ว และด้วยการเป็นโรงแรมที่มีเครือข่ายในหลายเดสติเนชั่น จึงเป็นจุดแข็งให้ลูกค้ามีทางเลือกในโลเกชั่นเพิ่มขึ้น โดยทาง มิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯยินดีที่จะเป็นผู้ประสานงานให้หากลูกค้าต้องการไปจัดสัมมนาที่ภูเก็ต หรือ มาเลเซีย ซึ่งเรามีสาขาอยู่เช่นกัน
นายสก็อต วิลสัน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ตลาดประชุมสัมมนา(ไมซ์) ยังมีศักยภาพเติบโตได้แม้อยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่อาจปรับลดงบค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อประชุมหรือสัมมนา แทนที่จะเดินทางระยะไกลไปนอกภูมิภาค ก็หันมาเดินทางระยะใกล้ในภูมิภาคเดียวกัน ทำให้ประเทศไทยเป็นเดสติเนชั่นที่จะเป็นทางเลือกที่จะใช้จัดการประชุมสัมมนาจากกลุ่มประเทศในภูมิภาคเดียวกัน
โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน มองเห็นธุรกิจจัดประชุมสัมมนาเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ปีนี้จะบุกทำตลาดลูกค้ากรุ๊ปประชุมสัมมนาให้มากขึ้น เน้นทั้งกลุ่มคอร์ปอเรทที่อยู่ในประเทศไทย และ กรุ๊ปที่เป็นระดับผู้บริหารองค์กรที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น
ทั้งนี้โรงแรมได้จัดเป็นแพคเกจภายใต้ชื่อ “Hilton Meetings” แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1.แพกเกจเต็มวัน 8 ชั่วโมง รวมอาหารกลางวัน ของว่าง ชา และกาแฟ ในราคา 1,700++ บาทต่อท่าน 2.แพคเกจครึ่งวันรวมอาหารกลางวัน ของว่าง พร้อมชากาแฟ ราคา 1,445++บาท ต่อท่าน และ 3.แพกเกจครึ่งวันไม่รวมอาหารกลางวัน แต่มีของว่าง และชากาแฟ ราคา 850++บาท ต่อท่าน
โดยนำเสนอห้องประชุมแบบเอ็กซ์คลูซีฟรวม 10 ห้องบนชั้น 30 ของโรงแรม เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริหาร พร้อมฟังก์ชั่นด้านเทคโนโลยี บริการเสริมพิเศษอื่นๆ เช่น นวดเพื่อผ่อนคลายยามบ่าย เป็นต้น
“เราคาดหวังว่าลูกค้ากลุ่มไมซ์จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่โรงแรมคิดเป็น 30% เท่าๆกับปีก่อน ทั้งนี้เพราะสถานการณ์ครึ่งปีแรกตลาดหดหายไปบ้าง ช่วงครึ่งปีหลัง มั่นใจว่าจะพลิกฟื้นตลาดให้ดีขึ้นได้”
อย่างไรก็ตามภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวปีนี้อาจไม่เติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เพราะ ผลจากวิกฤตเศรษฐกิจ และ ผลกระทบจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวช่วง1-2 เดือนแรก มีจำนวนไม่มากเท่ากับทุกปีที่ผ่านมา ดังนั้นทางโรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน จึงไม่ได้ตั้งเป้าเติบโต เพียงขอรักษาตัวเลขให้เท่ากับปีก่อนก็พอใจแล้ว และด้วยการเป็นโรงแรมที่มีเครือข่ายในหลายเดสติเนชั่น จึงเป็นจุดแข็งให้ลูกค้ามีทางเลือกในโลเกชั่นเพิ่มขึ้น โดยทาง มิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯยินดีที่จะเป็นผู้ประสานงานให้หากลูกค้าต้องการไปจัดสัมมนาที่ภูเก็ต หรือ มาเลเซีย ซึ่งเรามีสาขาอยู่เช่นกัน