ASTVผู้จัดการรายวัน-กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ถกรมว.อุตสาหกรรมวันนี้ หามาตรการฟื้นฟูอุตสาหกรรมทั้ระยะสั้น กลางและยาว รับมือวิกฤติและการปลดคนงาน ก่อนนำเสนอรัฐบาลให้ความช่วยเหลือต่อไป
นายวัลลภ เตียสิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผยว่า วันที่ 16 ก.พ.นี้ สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จะเข้าหารือร่วมกับนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อขอสนับสนุนมาตรการฟื้นฟูอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยทั้งระยะสั้น กลางและยาวจากรัฐบาล ซึ่งจะได้มีการกลั่นกรองมาตรการทั้งหมดก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป
“ยอมรับว่ามาตรกาทางด้านภาษีที่เกี่ยวข้องกับคลังบางอย่าง เช่น การลดภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นคงเป็นเรื่องยาก แต่บางข้อเสนอที่เอกชนเคยให้ข่าวไป เช่น หักลดหย่อนภาษีเงินได้จากการซื้อรถยนต์ โดยมีกรอบกำหนดระยะเวลา 1 ปีเหมือนกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด เพราะหากไม่ซื้อก็ไม่เสียอะไร ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าไปหมุนเวียนในเศรษฐกิจอย่างน้อยก็คนละ 1 หมื่น”นายวัลลภ กล่าว
นอกจากนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ยังได้ประเมินการจ้างงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2552 ว่า คาดว่าจะมีการเลิกจ้างงานประมาณ 4 หมื่นคน เนื่องจากยอดออเดอร์ลดลงถึง 30% ส่วนกลุ่มโรงงานประกอบรถยนต์ที่มีการจ้างงานอยู่ประมาณ 5 หมื่นคน ก็คาดว่าอาจจะมีการทยอยปลดคนงาน 300-800 คนต่อโรง โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มรับจ้างเหมาช่วง (เอาท์ซอร์ท) โดยการหารือก็จะต้องดูมาตรการช่วยเหลือที่จะมีผลต่อการจ้างงานด้วย
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.จะเสนอมาตรการช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยจะเสนอขอให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) จาก 7% เหลือ 4% เป็นการชั่วคราว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในประเทศได้เพิ่มขึ้นประมาณ 50,000-100,000 คัน เนื่องจากจะทำให้ราคาขายรถยนต์ลดลง 3% จากราคาขายปกติ หรือเฉลี่ยประมาณ 2-3 หมื่นบาทต่อคัน
นอกจากนี้ จะเสนอให้มีมาตรการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวเพื่อให้เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น เพราะจะเป็นวิธีที่ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเร็วขึ้น รวมทั้งการเสนอขอให้ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 25% และภาษีบุคคลธรรมดา เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น
นายวัลลภ เตียสิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผยว่า วันที่ 16 ก.พ.นี้ สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จะเข้าหารือร่วมกับนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อขอสนับสนุนมาตรการฟื้นฟูอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยทั้งระยะสั้น กลางและยาวจากรัฐบาล ซึ่งจะได้มีการกลั่นกรองมาตรการทั้งหมดก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป
“ยอมรับว่ามาตรกาทางด้านภาษีที่เกี่ยวข้องกับคลังบางอย่าง เช่น การลดภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นคงเป็นเรื่องยาก แต่บางข้อเสนอที่เอกชนเคยให้ข่าวไป เช่น หักลดหย่อนภาษีเงินได้จากการซื้อรถยนต์ โดยมีกรอบกำหนดระยะเวลา 1 ปีเหมือนกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด เพราะหากไม่ซื้อก็ไม่เสียอะไร ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าไปหมุนเวียนในเศรษฐกิจอย่างน้อยก็คนละ 1 หมื่น”นายวัลลภ กล่าว
นอกจากนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ยังได้ประเมินการจ้างงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2552 ว่า คาดว่าจะมีการเลิกจ้างงานประมาณ 4 หมื่นคน เนื่องจากยอดออเดอร์ลดลงถึง 30% ส่วนกลุ่มโรงงานประกอบรถยนต์ที่มีการจ้างงานอยู่ประมาณ 5 หมื่นคน ก็คาดว่าอาจจะมีการทยอยปลดคนงาน 300-800 คนต่อโรง โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มรับจ้างเหมาช่วง (เอาท์ซอร์ท) โดยการหารือก็จะต้องดูมาตรการช่วยเหลือที่จะมีผลต่อการจ้างงานด้วย
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.จะเสนอมาตรการช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยจะเสนอขอให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) จาก 7% เหลือ 4% เป็นการชั่วคราว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในประเทศได้เพิ่มขึ้นประมาณ 50,000-100,000 คัน เนื่องจากจะทำให้ราคาขายรถยนต์ลดลง 3% จากราคาขายปกติ หรือเฉลี่ยประมาณ 2-3 หมื่นบาทต่อคัน
นอกจากนี้ จะเสนอให้มีมาตรการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวเพื่อให้เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น เพราะจะเป็นวิธีที่ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเร็วขึ้น รวมทั้งการเสนอขอให้ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 25% และภาษีบุคคลธรรมดา เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น
