เวทีคอนเสิร์ตการเมืองภาคพิเศษที่อุดรฯ พร้อมรับคลื่นพันธมิตรฯทั่วประเทศแล้วเชื่อมีชาวพันธมิตรฯมากกว่า 5 หมื่นคนร่วมงาน ระบุส่งผลดีต่อเศรษฐกิจทั้งจังหวัดสุดคึกคักจนโรงแรมที่พักหลายแห่งเต็มหมด คาดเงินสะพัดหลายสิบล้านบาท ย้ำไม่ประมาทเตรียมการ์ดอาสามากกว่า 1,000 คน ด้านผู้ว่าฯอุดรธานี บิ๊กทหาร ตำรวจถกเครียดหวั่นนอดงเลือด สั่งระดมกำลังคุมเข้ม ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงยึดวิทยุชุมชนปลุกระดมต้านจัดเวทีสุดเหวี่ยง ด้านกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่แย่งกันรักทักษิณ ยกพวกตีกันเองระหว่างกลุ่ม "เพชรวรรต" กับ "เป๋ คลองเตย" บาดเจ็บ 4 หาบส่งโรงพยาบาล
บรรยากาศการจัดเตรียมงานคอนเสิร์ตการเมืองภาคพิเศษที่ จ.อุดรธานี ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (14ก.พ.) มีความคึกคักมาตั้งแต่เช้าวานนี้ (13 ก.พ.) โดยมีพี่น้องพันธมิตรฯจากทั่วประเทศ ทยอยเดินทางเข้ามายัง จ.อุดรธานี ด้วยรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่หลายคันและรถยนต์ส่วนตัว ทำให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครอุดรธานีคับคั่งไปด้วยรถยนต์ และคาดว่าจะหนาแน่นยิ่งขึ้นในช่วงเย็นของวันนี้ โดยโรงแรมหลายแห่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี มียอดจองเต็มหมดแล้วตั้งคืนวันที่ 13 จนถึง14 ก.พ.ที่เป็นวันงานคอนเสิร์ต
นายเจริญ หมู่ขจรพันธุ์ แกนนำพันธมิตรฯ อุดรธานี เปิดเผยถึงการจัดเตรียมงานคอนเสิร์ตการเมือง ภาคพิเศษ "ให้รักเราท่วมท้นประเทศไทย" ในวันนี้ (14 ก.พ.) ว่า การจัดเตรียมเวทีคอนเสิร์ตถึงขณะนี้มีความพร้อมสมบูรณ์ 100% ที่จะรองรับคลื่นพันธมิตรทั่วประเทศเข้าชมคอนเสิร์ตการเมืองครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆที่รับมอบหมายงาน ได้เข้ามาทำงานตามส่วนที่รับผิดชอบครบถ้วนแล้วและจะพักค้างคืนภายในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ในคืนนี้
โดยเฉพาะประเด็นการรักษาความปลอดภัย มีการ์ดอาสาจากพันธมิตรทั่วประเทศ ไม่น้อยกว่า 1,000 คน พร้อมทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในบริเวณงานตั้งแต่เย็นวานนี้ (13ก.พ.) เป็นต้นไป ประสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ จำนวน 4 กองร้อย เข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ ป้องกันการก่อกวนจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี
ขณะเดียวกันการจัดงานคอนเสิร์ตการเมืองครั้งนี้ พันธมิตรฯอุดรธานีได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการในจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชนได้สั่งปิดสวนสาธารณะหนองประจักษ์ 3 วันตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.-15 ก.พ. อำนวยความสะดวกและวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาให้กับชาวพันธมิตร จึงเชื่อมั่นได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงซ้ำรอยการจัดเวทีเมื่อ 24 ก.ค.51 แน่
นายเจริญ กล่าวต่อว่า ความเป็นพิเศษของการจัดงานคอนเสิร์ตการเมืองที่ จ.อุดรธานี เนื่องจากตรงกับวันแห่งความรัก 14 ก.พ.บรรยากาศภายในเวทีจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความรักให้กับพี่น้องพันธมิตรฯทุกๆ คน มอบความรักให้แก่กัน โดยจะมีพ่อยก แม่ยกพันธมิตรฯ จากหลายจังหวัด เตรียมดอกกุหลาบจำนวนมาก มามอบให้กับแกนนำ พิธีกร และพี่น้องพันธมิตรที่เข้าร่วมชมคอนเสิร์ตการเมืองครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมบนเวทีพันธมิตรฯอุดรธานี ได้มอบเวทีให้กับทีมพิธีกรจากส่วนกลางดำเนินรายการ โดยจะมีทั้งแกนนำพันธมิตรฯพิธีกรจาก ASTV พร้อมด้วยศิลปิน เข้าร่วมบนเวทีคอนเสิร์ตจำนวนมาก ทำให้ระยะเวลาการจัดงานจำเป็นต้องยืดออกไปจนถึงรุ่งสางของวันที่ 15 ก.พ.ทั้งจะทำให้พี่น้องพันธมิตรฯเดินทางกลับปลอดภัยมากกว่าเดินทางกลับในช่วงดึก
คาดว่าจะมีพี่น้องพันธมิตรจากทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมชมคอนเสิร์ตการเมืองครั้งนี้ ไม่น้อยกว่า 4-5 หมื่นคนและการจัดกิจกรรมของพันธมิตรฯที่ จ.อุดรธานี ได้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ มีเงินสะพัดในจ.อุดรธานีสูงมาก คิดเป็นวงเงินหลายสิบล้านบาท เนื่องจากธุรกิจโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ได้รับผลดีจากการต้อนรับพี่น้องพันธมิตรทั่วประเทศ เข้ามาจับจ่ายภายใน จ.อุดรธานี
นายเจริญ กล่าวถึงกระแสต่อต้านการจัดเวทีคอนเสิร์ตการเมืองที่ จ.อุดรธานีว่า กลุ่มเสื้อแดง ยังคงมีการปลุกระดมให้ประชาชนอีกฝ่าย ร่วมกันต่อต้านการจัดเวทีของพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยใช้สื่อวิทยุชุมชน กระจายเสียงปลุกระดม แต่เชื่อมั่นว่า การจัดกิจกรรมของพันธมิตรครั้งนี้ จะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น โดยคนทั้งประเทศไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย 24 ก.พ. การจัดงานของพันธมิตรฯครั้งนี้จึงมีความหมายต่อชาวอุดรฯ เป็นอย่างมาก ที่จะช่วยลบล้างภาพลักษณ์เดิมๆที่ถูกมองว่าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน
ที่สำคัญภาพลักษณ์ของจังหวัดอุดรธานี เป็นเมืองธรรมะ มีพ่อแม่ครูอาจารย์วัดป่ากรรมฐานที่สำคัญอยู่หลายรูป โดยที่รู้จักกันดีคือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ที่เคยทำผ้าป่าช่วยชาติ การใช้ความรุนแรงเป็นการฝืนกระแสความต้องการของชาวอุดรธานี และทำลายภาพลักษณ์เมืองธรรมะของ จ.อุดรธานี ผนวกกับการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา เชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นแน่
ผู้ว่าฯ-ทหาร-ตร.ระดมกำลังคุมเข้ม
วันเดียวกันที่ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ชูรัตน์ เสน่ห์เมือง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภาราดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงการเตรียมการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯในวันนี้ ที่บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม
นายอำนาจ กล่าวในที่ประชุมว่า การรักษาความปลอดภัยได้มีการวางกำลังเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นในหนองประจักษ์ โดยจะวางกำลังแต่ละจุดตรวจและจะตรวจอาวุธทุกคน โดยจะทำการปิดสวนสาธารณะหนองประจักษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น.วันที่ 13 ก.พ.จนถึงเวลา 10.00 น.วันที่ 15 ก.พ.และในวันงาน 14 ก.พ.ก็จะมีเครื่องตรวจระเบิดมาตรวจสอบผู้ที่เข้าไปในงานด้วย
พล.ต.ชูรัช กล่าวว่า กรณีดังกล่าวในส่วนของทหารก็ได้เตรียมกำลังไว้แล้วในที่ตั้งเพื่อให้การสนับสนุนหากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร้องขอมา ซึ่งบอกไม่ได้ว่าเตรียมกำลังไว้เท่าไหร่ แต่ก็พอเพียงที่จะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างแน่นอน
ด้าน พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ เผยว่า ในส่วนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ขณะนี้มีการเตรียมการในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยเช่นกัน โดยให้ความสำคัญอยู่ 2 จุด คือ จุดที่หนึ่งหนองประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯจุดที่สองคือสถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดร โดยทั้งสองจุดได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าและมีการประกอบกำลังในแต่ละจุด ซึ่งกำลังที่ใช้นั้นได้มาจากหลายส่วน ประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี และตำรวจภูธรจังหวัดข้างเคียง จาก มทบ.24 กองบินที่ 23 อพปร. อส. และตชด. ซึ่งกำลังที่ใช้ประมาณ 2,000 คน และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้น รอบนอกหนองประจักษ์จะทำการปิดกั้น ส่วนรอบในมีการเปิดประตูเพียงด้านเดียว ผู้ที่จะมาร่วมฟังกลุ่มพันธมิตรฯที่มาเปิดเวทีก็จะทำการตรวจอาวุธทุกชนิด
สำหรับในตัว จ.อุดรธานี ได้มีตั้งจุดตรวจทั้งสี่มุมเมือง ซึ่งเชื่อว่ามาตรการที่วางไว้จะสามารถรักษาความสงบได้และจะทำอย่างดีที่สุด
"การทำงานของตำรวจในครั้งนี้ได้มีการยึดถือปฏิบัติตามแผนกรกฎ 48 ของ สตช. และได้มีแผนรองรับไว้แล้ว โดยใช้กำลังชุดควบคุมฝูงชนของตำรวจจังหวัดจำนวน 6 กองร้อย รวม 800 นาย และขอรับการสนับสนุนจาก จ.หนองบัวลำภู หนองคาย จังหวัดละ 2 กองร้อย รวม 600 นาย กำลังจาก ตชด.1 กองร้อย กำลังจาก อส.1 กองร้อย กำลังจาก มทบ.24 1 กองร้อย สห.และจากเทศบาลนครอุดรธานี ได้เตรียมรถดับเพลิง พร้อมแผงกั้น ในส่วนของกองบิน 23 กองบินนั้น ได้เตรียมกำลังพลตรวจตราดูแลบริเวณสนามบินและจะไม่ยอมให้กลุ่มบุคคลใดปิดล้อมสนามบินได้ โรงพยาบาล หน่วยกู้ชีพต่างๆ ได้จัดเตรียมรถกู้ชีพไว้พร้อม ณ จุดที่ตั้ง" พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กล่าว
มท.1หนุนผู้ว่าฯอุดรปิดสวนสาธารณะ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังมอบนโยบายหัวข้อ "ผู้ว่าราชการจังหวัด เฟืองหลักเศรษฐกิจภูมิภาค" ถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯเตรียมจัดงาน "คาราวานพันธมิตรเพื่อการเมืองใหม่" ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ในวันนี้ว่า ตนเห็นด้วยที่นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าฯอุดรธานี สั่งให้มีการปิดสวนสาธารณะว่า ตนเห็นด้วยกับแนวคิดของผู้ว่าฯอุดรธานีที่จะยับยั้งไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง แต่ถ้าการชุมนุมมีเหตุรุนแรงถึงขั้นทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปดำเนินการ แต่ตนเชื่อว่า ไม่น่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่น่าจะฆ่ากันเอง
พธม.เหนือล่างร่วมเวทีอุดรฯคึกคัก
ด้านน.ส.จีรนันท์ อินทสุรวงศ์ แกนนำพันธมิตรฯนครสวรรค์ เผยว่า พันธมิตรฯจากตัวเมืองนครสวรรค์ และอำเภอรอบข้างได้พร้อมใจกันเดินทางเข้าร่วมเวทีใหญ่ที่ จ.อุดรธานีด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มพันธมิตรฯนครสวรรค์ จะออกเดินทางออกจากนครสวรรค์ ในเวลาเทียงคืน (13 ก.พ.) จำนวน 3 คันรถบัส
นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรฯพิษณุโลก และพันธมิตรฯสุโขทัย ก็ได้เดินทางไปร่วมด้วยจังหวัดละ 20 คน ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้ ยังไม่รวมกลุ่มพันธมิตรฯที่แยกตัวเดินทางกันไปเองอีกหลายคันรถ
สำหรับพันธมิตรฯกำแพงเพชรนั้นมีผู้เดินทางไปด้วยจำนวน 2 คันรถบัส โดยจะไปถึง จ.อุดรธานีในช่วงเช้าวันนี้ (14 ก.พ.) พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมบัตรคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นที่ จ.พิษณุโลก ไปจำหน่ายให้แก่กลุ่มพันธมิตรฯที่ จ.อุดรธานี อีกด้วย
เสื้อแดงเชียงใหม่ยกพวกตีกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ว่า เมื่อกลางดึกของคืนวัน 12 ก.พ.ที่ผ่านมาได้มีเหตุเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หลายสิบคนยกกำลังจากโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ ไปยังเวทีปราศรัยของกลุ่มคนล้านนารักทักษิณ นำโดย "เป๋ คลองเตย" ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่ ต่อจากนั้นแกนนำของสองกลุ่มซึ่งต่างเคยร่วมงานกันมาก่อนมีปากเสียงกันบริเวณด้านหลังเวทีและในที่สุดมีการชกต่อยตะลุมบอนกันขึ้นจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ส่งไปยังโรงพยาบาลแมคคอร์มิค 2 ราย ที่เหลือส่งไปยังโรงพยาบาลราชเวชซึ่งต่อมาแพทย์ได้รักษาและให้กลับบ้านได้
ในจำนวนแกนนำที่เข้าไปร่วมก่อเหตุครั้งนี้มีนายแดง ปวนมูล หรือ "แดงอ้วน"หรือใช้ชื่อว่า "ดีเจ.แหล่" ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอยู่ระหว่างประกันตัวในคดีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตอนที่กลุ่มเสื้อแดงไปต้อนรับอดีตนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่และร่วมกันฆ่านายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา บิดาของแกนนำกลุ่มทหารเสือพระราชาเมื่อวันที่ 26 พ.ย.51 โดยนายแดง เป็นแกนนำคนหนึ่งที่ร่วมก่อเหตุ
หลังจากเกิดเหตุปะทะนายณรงค์ศักดิ์ มณี หรือ "เป๋ คลองเตย" ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีกลุ่มเสื้อแดงสังกัดกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ติดตามไปเพื่อจะเอาเรื่องต่อ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ห้ามปรามไกล่เกลี่ยแยกย้ายกันไปในเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 13 ก.พ.
สาเหตุของการยกพวกตะลุมบอนและมีการทำร้ายร่างกายระหว่างคนเสื้อแดง 2 กลุ่มเป็นผลสืบเนื่องจากกลุ่ม "เป๋ คลองเตย" ได้จับมือกับกลุ่มคนรักทักษิณและเสื้อแดงกลุ่มย่อย ๆ เช่น "กลุ่มรักลำปาง 51", "กลุ่มลำพูน 51", "กลุ่มสันกำแพงรักประชาธิปไตย", "พลังมวลชนคนเชียงใหม่", "กลุ่มรักทักษิณแห่งประเทศไทย" ของนายมหวรรณ กะวัง ที่แยกตัวออกจากกลุ่มของนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นมาชื่อว่า มวลชนคนเสื้อแดงเลือดใหม่ และกำลังจะจัดงานใหญ่เวทีความจริงวันนี้สัญจรที่สนามกีฬาสมโภช 700 ปีเชียงใหม่ในวันที่ 21 ก.พ.นี้
การแยกตัวครั้งนี้เกิดจากความแตกแยกภายในที่สะสมมาตั้งแต่ปลายปี 2551 โดยที่กลุ่มของ "เป๋ คลองเตย" ได้ดึงเอา ดีเจ.ที่เคยร่วมงานกับกลุ่มนายเพชรวรรต ซึ่งได้รับการเรียกขานว่า ดีเจ.สารพัดสัตว์ เช่น ดีเจ. ป.เป็ด ดีเจ.ไก่ และ ดีเจ.ปูนิ่ม เป็นต้นเข้าร่วมก่อตั้งสถานีวิทยุชุมชนแห่งใหม่ 89.25 MHz แยกจากสถานีกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งอยู่ที่คลื่น 92.5 MHz
ต่อจากนั้นในช่วงเช้าวันที่ 13 ก.พ.ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ออกมาโจมตีกลุ่ม "เป๋ คลองเตย" ผ่านวิทยุชุมชนของตนในช่วง ดีเจ.อ้อม-กัญญาภัค มณีจักร ซึ่งเป็นคนสนิทของนายเพชรวรรต โดย ดีเจ.อ้อม ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เคยร่วมงานกับกลุ่ม "เป๋ คลองเตย" และกลุ่ม ดีเจ.สารพัดสัตว์ ว่ามีการยักยอกเงินบริจาคส่วนกลางเข้ากระเป๋าหลายครั้ง
ส่วนกรณี "เป๋ คลองเตย" นั้นมาเชียงใหม่ครั้งแรกก็มาพักที่โรงแรมของนายเพชรวรรต ทันทีที่มาถึงก็ขอค่ารถ มาอยู่ช่วยงานปราศรัยได้ 5 วันก็ขอเงิน 1 หมื่นบาท มิหนำซ้ำยังนำผู้หญิงหากินมานอนด้วยและให้กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เป็นผู้จ่ายค่าตัวให้
บรรยากาศการจัดเตรียมงานคอนเสิร์ตการเมืองภาคพิเศษที่ จ.อุดรธานี ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (14ก.พ.) มีความคึกคักมาตั้งแต่เช้าวานนี้ (13 ก.พ.) โดยมีพี่น้องพันธมิตรฯจากทั่วประเทศ ทยอยเดินทางเข้ามายัง จ.อุดรธานี ด้วยรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่หลายคันและรถยนต์ส่วนตัว ทำให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครอุดรธานีคับคั่งไปด้วยรถยนต์ และคาดว่าจะหนาแน่นยิ่งขึ้นในช่วงเย็นของวันนี้ โดยโรงแรมหลายแห่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี มียอดจองเต็มหมดแล้วตั้งคืนวันที่ 13 จนถึง14 ก.พ.ที่เป็นวันงานคอนเสิร์ต
นายเจริญ หมู่ขจรพันธุ์ แกนนำพันธมิตรฯ อุดรธานี เปิดเผยถึงการจัดเตรียมงานคอนเสิร์ตการเมือง ภาคพิเศษ "ให้รักเราท่วมท้นประเทศไทย" ในวันนี้ (14 ก.พ.) ว่า การจัดเตรียมเวทีคอนเสิร์ตถึงขณะนี้มีความพร้อมสมบูรณ์ 100% ที่จะรองรับคลื่นพันธมิตรทั่วประเทศเข้าชมคอนเสิร์ตการเมืองครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆที่รับมอบหมายงาน ได้เข้ามาทำงานตามส่วนที่รับผิดชอบครบถ้วนแล้วและจะพักค้างคืนภายในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ในคืนนี้
โดยเฉพาะประเด็นการรักษาความปลอดภัย มีการ์ดอาสาจากพันธมิตรทั่วประเทศ ไม่น้อยกว่า 1,000 คน พร้อมทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในบริเวณงานตั้งแต่เย็นวานนี้ (13ก.พ.) เป็นต้นไป ประสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ จำนวน 4 กองร้อย เข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ ป้องกันการก่อกวนจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี
ขณะเดียวกันการจัดงานคอนเสิร์ตการเมืองครั้งนี้ พันธมิตรฯอุดรธานีได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการในจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชนได้สั่งปิดสวนสาธารณะหนองประจักษ์ 3 วันตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.-15 ก.พ. อำนวยความสะดวกและวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาให้กับชาวพันธมิตร จึงเชื่อมั่นได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงซ้ำรอยการจัดเวทีเมื่อ 24 ก.ค.51 แน่
นายเจริญ กล่าวต่อว่า ความเป็นพิเศษของการจัดงานคอนเสิร์ตการเมืองที่ จ.อุดรธานี เนื่องจากตรงกับวันแห่งความรัก 14 ก.พ.บรรยากาศภายในเวทีจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความรักให้กับพี่น้องพันธมิตรฯทุกๆ คน มอบความรักให้แก่กัน โดยจะมีพ่อยก แม่ยกพันธมิตรฯ จากหลายจังหวัด เตรียมดอกกุหลาบจำนวนมาก มามอบให้กับแกนนำ พิธีกร และพี่น้องพันธมิตรที่เข้าร่วมชมคอนเสิร์ตการเมืองครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมบนเวทีพันธมิตรฯอุดรธานี ได้มอบเวทีให้กับทีมพิธีกรจากส่วนกลางดำเนินรายการ โดยจะมีทั้งแกนนำพันธมิตรฯพิธีกรจาก ASTV พร้อมด้วยศิลปิน เข้าร่วมบนเวทีคอนเสิร์ตจำนวนมาก ทำให้ระยะเวลาการจัดงานจำเป็นต้องยืดออกไปจนถึงรุ่งสางของวันที่ 15 ก.พ.ทั้งจะทำให้พี่น้องพันธมิตรฯเดินทางกลับปลอดภัยมากกว่าเดินทางกลับในช่วงดึก
คาดว่าจะมีพี่น้องพันธมิตรจากทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมชมคอนเสิร์ตการเมืองครั้งนี้ ไม่น้อยกว่า 4-5 หมื่นคนและการจัดกิจกรรมของพันธมิตรฯที่ จ.อุดรธานี ได้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ มีเงินสะพัดในจ.อุดรธานีสูงมาก คิดเป็นวงเงินหลายสิบล้านบาท เนื่องจากธุรกิจโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ได้รับผลดีจากการต้อนรับพี่น้องพันธมิตรทั่วประเทศ เข้ามาจับจ่ายภายใน จ.อุดรธานี
นายเจริญ กล่าวถึงกระแสต่อต้านการจัดเวทีคอนเสิร์ตการเมืองที่ จ.อุดรธานีว่า กลุ่มเสื้อแดง ยังคงมีการปลุกระดมให้ประชาชนอีกฝ่าย ร่วมกันต่อต้านการจัดเวทีของพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยใช้สื่อวิทยุชุมชน กระจายเสียงปลุกระดม แต่เชื่อมั่นว่า การจัดกิจกรรมของพันธมิตรครั้งนี้ จะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น โดยคนทั้งประเทศไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย 24 ก.พ. การจัดงานของพันธมิตรฯครั้งนี้จึงมีความหมายต่อชาวอุดรฯ เป็นอย่างมาก ที่จะช่วยลบล้างภาพลักษณ์เดิมๆที่ถูกมองว่าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน
ที่สำคัญภาพลักษณ์ของจังหวัดอุดรธานี เป็นเมืองธรรมะ มีพ่อแม่ครูอาจารย์วัดป่ากรรมฐานที่สำคัญอยู่หลายรูป โดยที่รู้จักกันดีคือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ที่เคยทำผ้าป่าช่วยชาติ การใช้ความรุนแรงเป็นการฝืนกระแสความต้องการของชาวอุดรธานี และทำลายภาพลักษณ์เมืองธรรมะของ จ.อุดรธานี ผนวกกับการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา เชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นแน่
ผู้ว่าฯ-ทหาร-ตร.ระดมกำลังคุมเข้ม
วันเดียวกันที่ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ชูรัตน์ เสน่ห์เมือง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภาราดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงการเตรียมการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯในวันนี้ ที่บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม
นายอำนาจ กล่าวในที่ประชุมว่า การรักษาความปลอดภัยได้มีการวางกำลังเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นในหนองประจักษ์ โดยจะวางกำลังแต่ละจุดตรวจและจะตรวจอาวุธทุกคน โดยจะทำการปิดสวนสาธารณะหนองประจักษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น.วันที่ 13 ก.พ.จนถึงเวลา 10.00 น.วันที่ 15 ก.พ.และในวันงาน 14 ก.พ.ก็จะมีเครื่องตรวจระเบิดมาตรวจสอบผู้ที่เข้าไปในงานด้วย
พล.ต.ชูรัช กล่าวว่า กรณีดังกล่าวในส่วนของทหารก็ได้เตรียมกำลังไว้แล้วในที่ตั้งเพื่อให้การสนับสนุนหากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร้องขอมา ซึ่งบอกไม่ได้ว่าเตรียมกำลังไว้เท่าไหร่ แต่ก็พอเพียงที่จะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างแน่นอน
ด้าน พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ เผยว่า ในส่วนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ขณะนี้มีการเตรียมการในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยเช่นกัน โดยให้ความสำคัญอยู่ 2 จุด คือ จุดที่หนึ่งหนองประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯจุดที่สองคือสถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดร โดยทั้งสองจุดได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าและมีการประกอบกำลังในแต่ละจุด ซึ่งกำลังที่ใช้นั้นได้มาจากหลายส่วน ประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี และตำรวจภูธรจังหวัดข้างเคียง จาก มทบ.24 กองบินที่ 23 อพปร. อส. และตชด. ซึ่งกำลังที่ใช้ประมาณ 2,000 คน และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้น รอบนอกหนองประจักษ์จะทำการปิดกั้น ส่วนรอบในมีการเปิดประตูเพียงด้านเดียว ผู้ที่จะมาร่วมฟังกลุ่มพันธมิตรฯที่มาเปิดเวทีก็จะทำการตรวจอาวุธทุกชนิด
สำหรับในตัว จ.อุดรธานี ได้มีตั้งจุดตรวจทั้งสี่มุมเมือง ซึ่งเชื่อว่ามาตรการที่วางไว้จะสามารถรักษาความสงบได้และจะทำอย่างดีที่สุด
"การทำงานของตำรวจในครั้งนี้ได้มีการยึดถือปฏิบัติตามแผนกรกฎ 48 ของ สตช. และได้มีแผนรองรับไว้แล้ว โดยใช้กำลังชุดควบคุมฝูงชนของตำรวจจังหวัดจำนวน 6 กองร้อย รวม 800 นาย และขอรับการสนับสนุนจาก จ.หนองบัวลำภู หนองคาย จังหวัดละ 2 กองร้อย รวม 600 นาย กำลังจาก ตชด.1 กองร้อย กำลังจาก อส.1 กองร้อย กำลังจาก มทบ.24 1 กองร้อย สห.และจากเทศบาลนครอุดรธานี ได้เตรียมรถดับเพลิง พร้อมแผงกั้น ในส่วนของกองบิน 23 กองบินนั้น ได้เตรียมกำลังพลตรวจตราดูแลบริเวณสนามบินและจะไม่ยอมให้กลุ่มบุคคลใดปิดล้อมสนามบินได้ โรงพยาบาล หน่วยกู้ชีพต่างๆ ได้จัดเตรียมรถกู้ชีพไว้พร้อม ณ จุดที่ตั้ง" พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กล่าว
มท.1หนุนผู้ว่าฯอุดรปิดสวนสาธารณะ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังมอบนโยบายหัวข้อ "ผู้ว่าราชการจังหวัด เฟืองหลักเศรษฐกิจภูมิภาค" ถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯเตรียมจัดงาน "คาราวานพันธมิตรเพื่อการเมืองใหม่" ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ในวันนี้ว่า ตนเห็นด้วยที่นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าฯอุดรธานี สั่งให้มีการปิดสวนสาธารณะว่า ตนเห็นด้วยกับแนวคิดของผู้ว่าฯอุดรธานีที่จะยับยั้งไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง แต่ถ้าการชุมนุมมีเหตุรุนแรงถึงขั้นทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปดำเนินการ แต่ตนเชื่อว่า ไม่น่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่น่าจะฆ่ากันเอง
พธม.เหนือล่างร่วมเวทีอุดรฯคึกคัก
ด้านน.ส.จีรนันท์ อินทสุรวงศ์ แกนนำพันธมิตรฯนครสวรรค์ เผยว่า พันธมิตรฯจากตัวเมืองนครสวรรค์ และอำเภอรอบข้างได้พร้อมใจกันเดินทางเข้าร่วมเวทีใหญ่ที่ จ.อุดรธานีด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มพันธมิตรฯนครสวรรค์ จะออกเดินทางออกจากนครสวรรค์ ในเวลาเทียงคืน (13 ก.พ.) จำนวน 3 คันรถบัส
นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรฯพิษณุโลก และพันธมิตรฯสุโขทัย ก็ได้เดินทางไปร่วมด้วยจังหวัดละ 20 คน ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้ ยังไม่รวมกลุ่มพันธมิตรฯที่แยกตัวเดินทางกันไปเองอีกหลายคันรถ
สำหรับพันธมิตรฯกำแพงเพชรนั้นมีผู้เดินทางไปด้วยจำนวน 2 คันรถบัส โดยจะไปถึง จ.อุดรธานีในช่วงเช้าวันนี้ (14 ก.พ.) พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมบัตรคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นที่ จ.พิษณุโลก ไปจำหน่ายให้แก่กลุ่มพันธมิตรฯที่ จ.อุดรธานี อีกด้วย
เสื้อแดงเชียงใหม่ยกพวกตีกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ว่า เมื่อกลางดึกของคืนวัน 12 ก.พ.ที่ผ่านมาได้มีเหตุเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หลายสิบคนยกกำลังจากโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ ไปยังเวทีปราศรัยของกลุ่มคนล้านนารักทักษิณ นำโดย "เป๋ คลองเตย" ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่ ต่อจากนั้นแกนนำของสองกลุ่มซึ่งต่างเคยร่วมงานกันมาก่อนมีปากเสียงกันบริเวณด้านหลังเวทีและในที่สุดมีการชกต่อยตะลุมบอนกันขึ้นจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ส่งไปยังโรงพยาบาลแมคคอร์มิค 2 ราย ที่เหลือส่งไปยังโรงพยาบาลราชเวชซึ่งต่อมาแพทย์ได้รักษาและให้กลับบ้านได้
ในจำนวนแกนนำที่เข้าไปร่วมก่อเหตุครั้งนี้มีนายแดง ปวนมูล หรือ "แดงอ้วน"หรือใช้ชื่อว่า "ดีเจ.แหล่" ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอยู่ระหว่างประกันตัวในคดีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตอนที่กลุ่มเสื้อแดงไปต้อนรับอดีตนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่และร่วมกันฆ่านายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา บิดาของแกนนำกลุ่มทหารเสือพระราชาเมื่อวันที่ 26 พ.ย.51 โดยนายแดง เป็นแกนนำคนหนึ่งที่ร่วมก่อเหตุ
หลังจากเกิดเหตุปะทะนายณรงค์ศักดิ์ มณี หรือ "เป๋ คลองเตย" ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีกลุ่มเสื้อแดงสังกัดกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ติดตามไปเพื่อจะเอาเรื่องต่อ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ห้ามปรามไกล่เกลี่ยแยกย้ายกันไปในเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 13 ก.พ.
สาเหตุของการยกพวกตะลุมบอนและมีการทำร้ายร่างกายระหว่างคนเสื้อแดง 2 กลุ่มเป็นผลสืบเนื่องจากกลุ่ม "เป๋ คลองเตย" ได้จับมือกับกลุ่มคนรักทักษิณและเสื้อแดงกลุ่มย่อย ๆ เช่น "กลุ่มรักลำปาง 51", "กลุ่มลำพูน 51", "กลุ่มสันกำแพงรักประชาธิปไตย", "พลังมวลชนคนเชียงใหม่", "กลุ่มรักทักษิณแห่งประเทศไทย" ของนายมหวรรณ กะวัง ที่แยกตัวออกจากกลุ่มของนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นมาชื่อว่า มวลชนคนเสื้อแดงเลือดใหม่ และกำลังจะจัดงานใหญ่เวทีความจริงวันนี้สัญจรที่สนามกีฬาสมโภช 700 ปีเชียงใหม่ในวันที่ 21 ก.พ.นี้
การแยกตัวครั้งนี้เกิดจากความแตกแยกภายในที่สะสมมาตั้งแต่ปลายปี 2551 โดยที่กลุ่มของ "เป๋ คลองเตย" ได้ดึงเอา ดีเจ.ที่เคยร่วมงานกับกลุ่มนายเพชรวรรต ซึ่งได้รับการเรียกขานว่า ดีเจ.สารพัดสัตว์ เช่น ดีเจ. ป.เป็ด ดีเจ.ไก่ และ ดีเจ.ปูนิ่ม เป็นต้นเข้าร่วมก่อตั้งสถานีวิทยุชุมชนแห่งใหม่ 89.25 MHz แยกจากสถานีกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งอยู่ที่คลื่น 92.5 MHz
ต่อจากนั้นในช่วงเช้าวันที่ 13 ก.พ.ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ออกมาโจมตีกลุ่ม "เป๋ คลองเตย" ผ่านวิทยุชุมชนของตนในช่วง ดีเจ.อ้อม-กัญญาภัค มณีจักร ซึ่งเป็นคนสนิทของนายเพชรวรรต โดย ดีเจ.อ้อม ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เคยร่วมงานกับกลุ่ม "เป๋ คลองเตย" และกลุ่ม ดีเจ.สารพัดสัตว์ ว่ามีการยักยอกเงินบริจาคส่วนกลางเข้ากระเป๋าหลายครั้ง
ส่วนกรณี "เป๋ คลองเตย" นั้นมาเชียงใหม่ครั้งแรกก็มาพักที่โรงแรมของนายเพชรวรรต ทันทีที่มาถึงก็ขอค่ารถ มาอยู่ช่วยงานปราศรัยได้ 5 วันก็ขอเงิน 1 หมื่นบาท มิหนำซ้ำยังนำผู้หญิงหากินมานอนด้วยและให้กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เป็นผู้จ่ายค่าตัวให้