xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวกรองมะกันระบุวิกฤตศก.โลก คือภัยคุกคามความมั่นคงอันดับ1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ – บรรดาหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯรายงานว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกได้กลายมาเป็นปัญหาด้านความมั่นคงในระยะใกล้ที่สำคัญที่สุดของอเมริกาไปแล้ว เนื่องจากได้ส่งผลบ่อนเซาะเสถียรภาพของประเทศต่างๆ ราวหนึ่งในสี่ของโลก รวมทั้งอาจก่อให้เกิดสงครามการค้ารุนแรงขึ้นได้

นอกจากนั้น ในรายงานการประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติประจำปีฉบับล่าสุดนี้ ยังให้ความเห็นว่าคณะผู้นำของกลุ่มอัลกออิดะห์ได่อ่อนแอลงอีกในรอบปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามความมั่นคงของอัฟกานิสถานยิ่งเลวร้าย โดยที่ปากีสถานจะต้องสามารถควบคุมชายแดนให้ได้มากขึ้น จึงจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

“วิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกถดถอย อาจก่อให้เกิดกระแสของปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงในประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ในช่วงปีหน้า” รายงานฉบับนี้กล่าวและชี้ด้วยว่า “ลัทธิกีดกันการค้าแบบมุ่งทำลาย” อาจจะผงาดขึ้นได้ เนื่องจากประเทศต่าง ๆพบว่าพวกตนไม่สามารถที่จะอาศัยการส่งออกมาช่วยให้หลุดพ้นภาวะเศรษฐกิจทรุดตัว

“เวลาคือภัยคุกคามที่น่ากลัวที่สุดของเรา ยิ่งต้องใช้เวลาเนิ่นนานเท่าใดกว่าที่เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัว ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้ที่ผลประโยชน์ของสหรัฐฯจะเสียหายรุนแรงยิ่งขึ้นเท่านั้น” รายงานชี้

รายงานชุดนี้เขียนขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ของหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯรวม 16 แห่ง และถือเป็นรายงานชั้นนำด้านความมั่นคงที่บรรดาผู้ร่างนโยบายและรัฐสภาอ้างอิงถึงมากที่สุด และในปีนี้นอกจากจะวิเคราะห์เรื่องภัยจากศัตรูของประเทศแล้ว ยังพูดถึงผลกระทบต่อความมั่นคงจากประเด็นปัญหาต่างๆ อย่างเช่นภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเศรษฐกิจ

รายงานบอกว่า ในขณะนี้มีประเทศราวหนึ่งสี่ของโลกแล้ว กำลังประสบกับปัญหาความไร้เสถียรภาพอย่างน้อยก็ “ในระดับต่ำ” อย่างเช่น เกืดการเปลี่ยนรัฐบาล โดยที่เกี่ยวพันกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

พลเรือเอกเดนนิส แบลร์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ บอกต่อรัฐสภาระหว่างการนำรายงานฉบับนี้ว่า การประท้วงต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นทั่วไปในยุโรปและอดีตสหภาพโซเวียต ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจในแอฟริกาและละตินอเมริกาชะงักงันลงไป

“ความไร้เสถียรภาพอาจทำให้ประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายผ่อนคลายการปฏิบัติตามกฏหมายและระเบียบต่าง ๆ และนี่อาจก่อให้เกิดปัญหาอันตรายต่อประชมคมโลกในระยะต่อไป” แบลร์รายงานต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภา

มีความเป็นไปได้สูงที่มาตรการกอบกู้ทางเศรษฐกิจ อย่างเช่น การลดค่าเงิน, การใช้มาตรการทางภาษีเพื่อกีดกันการนำเข้า, การอุดหนุนการส่งออก จะถูกประเทศต่าง ๆนำมาใช้เพราะต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจของตนเอง

ในส่วนที่เกี่ยวกับอัลกออิดะห์ รายงานชิ้นนี้บอกว่าแม้ว่ากลุ่มนี้จะอ่อนกำลังลง แต่ก็ยังคงปรารถนาที่จะโจมตียุโรปและสหรัฐฯอยู่ ทว่าก็มองเห็นว่าตะวันตก “เป็นเป้าหมายที่ยากขึ้นกว่าแต่ก่อน”

เกี่ยวกับอัฟกานิสถาน รายงานกล่าวว่ากลุ่มตอลืบานได้เปิดการโจมตีบ่อยครั้งกว่าแต่ก่อน และขยายพื้นที่โจมตีออกไปมากกว่าเดิม สอดคล้องกับการตัดสินใจของประธานาธิบดีโอบามาที่จะเพิ่มกำลังทหารในอัฟกานิสถานเร็ว ๆนี้

รายงานชี้ว่าปากีสถานจะต้องควบคุมแนวชายแดนของตนเองให้มากขึ้น แต่ตอนนี้รัฐบาลปากีสถานกลับสูญเสียอำนาจการควบคุมในแคว้นชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือไป สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และความผิดหวังคับแค้นของประชาชนจะยิ่งทำให้ผู้คนหันเข้าหาลัทธิหัวรุนแรงมากกว่าเดิม

รายงานกล่าวถึงอิหร่านว่าเป็นประเด็นสำคัญที่สุดในตะวันออกกลาง การเกลี้ยกล่อมให้ทางการเตหะรานยอมยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์เป็นเรื่องยาก และจะต้องใช้แรงกดดันจากนานาชาติรวมทั้งแรงจูงใจต่าง ๆด้วย
แต่ประธานาธิบดีมาหมุด อาหมัดดิเนจัด ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของโครงการนิวเคลียร์อาจจะไม่สามารถชนะการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนมิถุนายน

“นโยบายเศรษฐกิจของอาหมัดดิเนจัดนั้นลดการว่างงานได้เพียงน้อยนิด แต่กลับกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อ ทำให้เขาตกเป็นเป้าแห่งการโจมตี” รายงานชี้
แต่แบลร์ก็บอกว่าการเปลี่ยนตัวประธานาธิบดีมิได้หมายความว่านโยบายเกี่ยวกับนิวเคลียร์ของอิหร่านจะเปลี่ยนไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น