นักวิจัยพบถ้าได้รับความรักและความเอาใจใส่ ลูกลิงชิมแปนซีจะมีพัฒนาการทางสมองล้ำหน้าทารกรุ่นราวคราวเดียวกัน
ในช่วงเก้าเดือนแรกหลังเกิด ชิมแปนซีน้อยอาจฉลาดกว่ามนุษย์ โดยในการทดลองพบว่า ลูกลิงกำพร้าที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษจากมนุษย์ ทำบททดสอบสติปัญหาได้ดีกว่าทารกอายุเท่ากัน
ชิมแปนซีถือเป็นสัตว์สายพันธุ์ที่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด เพราะต่างมีบรรพบุรุษเป็นลิงใหญ่เหมือนกันเมื่อห้าล้านปีที่แล้ว และใช้ดีเอ็นเอร่วมกันถึง 94%
ศาสตราจารย์คิม บาร์ด จากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัท อังกฤษ จัดให้ลูกชิมแปนซี 46 ตัวทำแบบทดสอบความคิดความเข้าใจชุดเดียวกับทารก โดยวัดผลจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้าด้านอารมณ์ เช่น เสียงและวัตถุ
บาร์ดพบว่าชิมแปนซีที่ได้รับการดูแลอย่างรักใคร่จากเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ มีสมองล้ำหน้าทารกอายุเท่ากันที่ได้รับความรักและการดูแลจากพ่อแม่ กระนั้น ทารกจะมีพัฒนาการสูงกว่าลูกลิงหลังอายุ 9 เดือน
การวิจัยยังพบว่าชิมแปนซีที่ได้รับการดูแลในสถานดูแลลิงใหญ่ของศูนย์วิจัยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแห่งชาติเยอร์เคสในแอตแลนตา สหรัฐฯ มีพัฒนาการล้ำหน้าและมีความสุขกว่าชิมแปนซีที่ได้รับการดูแลตามปกติทั่วไป
“ลูกชิมแปนซีที่ได้รับการดูแลด้วยความรักจะเครียดน้อยกว่า มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ และมีพฤติกรรมก้าวร้าวน้อยลง”
บาร์ดเสริมว่า การวิจัยนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าลูกชิมแปนซีต้องการการสนับสนุนทางจิตใจและกายภาพเพื่อให้โตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถปรับตัวได้ดีเช่นเดียวกับคน
การศึกษานี้ยังเป็นคำเตือนที่ชัดเจนว่า การดูแลเพียงแค่ร่างกายของทารก ส่งผลให้เด็กไม่รู้จักปรับตัว ไม่มีความสุขและมีแนวโน้มประสบความสำเร็จต่ำ
“ระบบความผูกพันของลูกชิมแปนซีเหมือนกับทารกอย่างน่าประหลาดใจ ประสบการณ์วัยเด็ก ทั้งประสบการณ์จากการเลี้ยงดูเอาใจใส่ที่อบอุ่น ความอดอยากยากแค้นแสนสาหัส ล้วนมีผลต่ออารมณ์และความคิดของมนุษย์และชิมแปนซี”
อนึ่ง นี่ไม่ใช่งานวิจัยชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดของชิมแปนซี งานวิจัยอีกชิ้นพบว่า ชิมแปนซีอาจฉลาดกว่านักศึกษามหาวิทยาลัยบางคนในการทดสอบการจดจำหมายเลข ชิมแปนซีสามารถสร้างเครื่องมือเพื่อหาอาหารและล่าสัตว์ที่มีความซับซ้อน ทั้งยังสามารถเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจสัญลักษณ์ต่างๆ และแสดงอารมณ์เศร้าเสียใจเมื่อญาติพี่น้องตาย
ในช่วงเก้าเดือนแรกหลังเกิด ชิมแปนซีน้อยอาจฉลาดกว่ามนุษย์ โดยในการทดลองพบว่า ลูกลิงกำพร้าที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษจากมนุษย์ ทำบททดสอบสติปัญหาได้ดีกว่าทารกอายุเท่ากัน
ชิมแปนซีถือเป็นสัตว์สายพันธุ์ที่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด เพราะต่างมีบรรพบุรุษเป็นลิงใหญ่เหมือนกันเมื่อห้าล้านปีที่แล้ว และใช้ดีเอ็นเอร่วมกันถึง 94%
ศาสตราจารย์คิม บาร์ด จากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัท อังกฤษ จัดให้ลูกชิมแปนซี 46 ตัวทำแบบทดสอบความคิดความเข้าใจชุดเดียวกับทารก โดยวัดผลจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้าด้านอารมณ์ เช่น เสียงและวัตถุ
บาร์ดพบว่าชิมแปนซีที่ได้รับการดูแลอย่างรักใคร่จากเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ มีสมองล้ำหน้าทารกอายุเท่ากันที่ได้รับความรักและการดูแลจากพ่อแม่ กระนั้น ทารกจะมีพัฒนาการสูงกว่าลูกลิงหลังอายุ 9 เดือน
การวิจัยยังพบว่าชิมแปนซีที่ได้รับการดูแลในสถานดูแลลิงใหญ่ของศูนย์วิจัยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแห่งชาติเยอร์เคสในแอตแลนตา สหรัฐฯ มีพัฒนาการล้ำหน้าและมีความสุขกว่าชิมแปนซีที่ได้รับการดูแลตามปกติทั่วไป
“ลูกชิมแปนซีที่ได้รับการดูแลด้วยความรักจะเครียดน้อยกว่า มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ และมีพฤติกรรมก้าวร้าวน้อยลง”
บาร์ดเสริมว่า การวิจัยนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าลูกชิมแปนซีต้องการการสนับสนุนทางจิตใจและกายภาพเพื่อให้โตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถปรับตัวได้ดีเช่นเดียวกับคน
การศึกษานี้ยังเป็นคำเตือนที่ชัดเจนว่า การดูแลเพียงแค่ร่างกายของทารก ส่งผลให้เด็กไม่รู้จักปรับตัว ไม่มีความสุขและมีแนวโน้มประสบความสำเร็จต่ำ
“ระบบความผูกพันของลูกชิมแปนซีเหมือนกับทารกอย่างน่าประหลาดใจ ประสบการณ์วัยเด็ก ทั้งประสบการณ์จากการเลี้ยงดูเอาใจใส่ที่อบอุ่น ความอดอยากยากแค้นแสนสาหัส ล้วนมีผลต่ออารมณ์และความคิดของมนุษย์และชิมแปนซี”
อนึ่ง นี่ไม่ใช่งานวิจัยชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดของชิมแปนซี งานวิจัยอีกชิ้นพบว่า ชิมแปนซีอาจฉลาดกว่านักศึกษามหาวิทยาลัยบางคนในการทดสอบการจดจำหมายเลข ชิมแปนซีสามารถสร้างเครื่องมือเพื่อหาอาหารและล่าสัตว์ที่มีความซับซ้อน ทั้งยังสามารถเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจสัญลักษณ์ต่างๆ และแสดงอารมณ์เศร้าเสียใจเมื่อญาติพี่น้องตาย