นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น (คปต.)ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เซ็นเอกสารมอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้องหมิ่นประมาทนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยมีการตั้งข้อสังเกต ว่าหนังสือดังกล่าวมีพิรุธหลายอย่างเนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยู่ในเมืองไทย ว่า เรายังงงอยู่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เซ็นเอกสารมอบอำนาจให้ทนาย ตั้งแต่เมื่อไร เพราะถ้าจะเป็นการเซ็นล่วงหน้า ก็คงไม่มีใครทำกัน เพราะการแต่งตั้งทนายมันต้องมีคดีเกิดขึ้น แต่นี่มันเป็นเรื่องอนาคต เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวันไหนจะมีคดีเกิดขึ้น เป็นคดีอะไร ต้องฟ้องใคร แล้วจะให้เซ็นล่วงหน้าคงเป็นไปไม่ได้
"ปัญหามันอยู่ที่ว่าใครเซ็น เพราะถ้าลายเซ็นนั้นปลอม ใบแต่งตั้งทนายก็เป็นโมฆะ ทนายจะมีความผิดโดยสภาทนายความจะพิจารณาเรื่องจรรยาบรรณทนายความ อาจถึงขั้นถอดใบอนุญาต" นายวีระ กล่าว
นายวีระกล่าวต่อว่า ขั้นตอนในการฟ้องหมิ่นประมาท หากเจ้าตัวต้องการจะฟ้องใครก็ต้องเชิญทนายความมาพบ เพื่อร่างคำฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลนั้นๆ หรือจะเป็นตัวแทนเพื่อไปแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยต้องมีใบมอบอำนาจเป็นผู้ไปดำเนินคดีแทน และหากจะฟ้องกับศาลโดยตรงจะต้องมีการแต่งตั้ง เจ้าตัวต้องลงนามในใบแต่งตั้งทนาย เพื่อให้ไปว่าความแทน แต่ไม่สามารถไกล่เกลี่ย ยอมความแทน โดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกความไม่ได้ จำเป็นต้องเขียนให้ละเอียดว่า จะให้ดำเนินการแทนได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวเจ้าตัวจะต้องเป็นผู้เซ็นเอกสารโดยตรง เพราะเป็นเรื่องสำคัญ จะไปเซ็นชื่อแทนกันไม่ได้ เซ็นล่วงหน้าก็ไม่ได้
"ดูแล้วมันมีพิรุธ ทนายไม่เคยบินไปหาทักษิณอยู่ๆใบแต่งตั้งทนายมันมาได้อย่างไร แล้วคนอย่างทักษิณมันจะยอมโง่เซ็นชื่อเอาไว้เฉยๆหรือ คนอย่างทักษิณ มันเขี้ยวจะตาย มันไม่ยอมใครง่ายๆ หรอก หรืออีกมุมหนึ่งอาจมองได้ว่า ทนาย อาจไม่เคยไปพบทักษิณ แต่ใครที่เป็นผู้ถือเอกสารไปให้เซ็น ดังนั้นคนที่ถือเอกสารดังกล่าวก็ต้องรู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหน และเมื่อรู้แล้วยังปล่อยปะละเลย ก็ถือว่าเป็นความผิดอีก เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนร้าย ยิ่งถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการ หรือตำรวจ ก็ยิ่งเป็นความผิดเข้าใหญ่ ในฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อเป็นเช่นนี้ทนายถึงไม่กล้าบอก เพราะต่อให้ทนายบินไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ จริง ก็ไม่กล้าพูดเพราะเกรงว่าจะมีความผิด" นายวีระกล่าว
"ปัญหามันอยู่ที่ว่าใครเซ็น เพราะถ้าลายเซ็นนั้นปลอม ใบแต่งตั้งทนายก็เป็นโมฆะ ทนายจะมีความผิดโดยสภาทนายความจะพิจารณาเรื่องจรรยาบรรณทนายความ อาจถึงขั้นถอดใบอนุญาต" นายวีระ กล่าว
นายวีระกล่าวต่อว่า ขั้นตอนในการฟ้องหมิ่นประมาท หากเจ้าตัวต้องการจะฟ้องใครก็ต้องเชิญทนายความมาพบ เพื่อร่างคำฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลนั้นๆ หรือจะเป็นตัวแทนเพื่อไปแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยต้องมีใบมอบอำนาจเป็นผู้ไปดำเนินคดีแทน และหากจะฟ้องกับศาลโดยตรงจะต้องมีการแต่งตั้ง เจ้าตัวต้องลงนามในใบแต่งตั้งทนาย เพื่อให้ไปว่าความแทน แต่ไม่สามารถไกล่เกลี่ย ยอมความแทน โดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกความไม่ได้ จำเป็นต้องเขียนให้ละเอียดว่า จะให้ดำเนินการแทนได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวเจ้าตัวจะต้องเป็นผู้เซ็นเอกสารโดยตรง เพราะเป็นเรื่องสำคัญ จะไปเซ็นชื่อแทนกันไม่ได้ เซ็นล่วงหน้าก็ไม่ได้
"ดูแล้วมันมีพิรุธ ทนายไม่เคยบินไปหาทักษิณอยู่ๆใบแต่งตั้งทนายมันมาได้อย่างไร แล้วคนอย่างทักษิณมันจะยอมโง่เซ็นชื่อเอาไว้เฉยๆหรือ คนอย่างทักษิณ มันเขี้ยวจะตาย มันไม่ยอมใครง่ายๆ หรอก หรืออีกมุมหนึ่งอาจมองได้ว่า ทนาย อาจไม่เคยไปพบทักษิณ แต่ใครที่เป็นผู้ถือเอกสารไปให้เซ็น ดังนั้นคนที่ถือเอกสารดังกล่าวก็ต้องรู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหน และเมื่อรู้แล้วยังปล่อยปะละเลย ก็ถือว่าเป็นความผิดอีก เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนร้าย ยิ่งถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการ หรือตำรวจ ก็ยิ่งเป็นความผิดเข้าใหญ่ ในฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อเป็นเช่นนี้ทนายถึงไม่กล้าบอก เพราะต่อให้ทนายบินไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ จริง ก็ไม่กล้าพูดเพราะเกรงว่าจะมีความผิด" นายวีระกล่าว
