การสัมมนาส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่โรงแรมกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 2- 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานั้น ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือส.ส.เดินทางมาร่วมสัมมนาน้อยกว่าที่คาดกันเอาไว้ เนื่องจากมีเพียงส.ส.สายใกล้ชิดนายใหญ่เท่านั้น ที่ยังเดินทางมาร่วมงานด้วยความเหนียวแน่น ประมาณ 50-60 คนเท่านั้น จากจำนวนส.ส.ที่ยังสังกัดเพื่อไทยในวันนี้กว่า180 คน
** ส่วนที่ดูเหมือนว่ามีบรรดาส.ส.มาร่วมงานสัมมนาคร้งนี้กันหนาตา นั่นเป็นเพียงภาพลวงตา ถ้าหากแยกน้ำออกจากปลาแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่า ทื่อยู่กันแน่นงานที่แท้เป็นบรรดาลูกเมียของแกนนำพรรคเพื่อไทย และของส.ส. จะเหลือส.ส.ตัวจริงเพียงไม่ถึงครึ่งของยอดส.ส.ทั้งหมดที่พรรคมีอยู่ในมือ
สะท้อนให้เห็นว่า วันนี้ไม่มีใครที่รักนายใหญ่จริง และความเสื่อมถอยของฐานอำนาจการเมืองของพรรคเพื่อไทยกำลังมาเยือน มองกันไปไกลถึงขั้นที่ว่า เห็นทีนายใหญ่จะหมดมนต์ขลังเสียแล้ว บรรดาหัวหน้ามุ้งทั้งหลายที่เปรียบเหมือนแม่เหล็ก เคยดูดส.ส.เข้ามารวมตัวกันมากมายจนพรรคแทบแตก วันนี้ต่างกระจัดกระจายกันไปอยู่พรรคการเมืองอื่นกันเกือบหมด
แต่นั่นคือสายตาของคนข้างนอกที่มองพรรคเพื่อไทย แต่ในสายตาของคนเพื่อไทยกลับมองอีกมุม สถานการณ์ที่นายใหญ่ถูกบีบจนแทบจะไม่มีที่ให้ยืนอย่างทุกวันนี้ กลับยังมีส.ส.มาร่วมหัวจมท้ายด้วยมากขนาดนี้ ต้องถือว่าเกินความคาดหมายแล้ว
ยังไม่รวมภาพของคนตระกูลชินวัตร ที่มารวมตัวกันเป็นครั้งแรกหลังการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49
ทั้งนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่มาพร้อมกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และน.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาว นายพายัพ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องชายและน้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ หรือแม้แต่นางเยาวเรศ ชินวัตร ที่แทบจะไม่เคยเห็นหน้าในงานการเมือง ก็มาพร้อมกับนางศรีญาดา ชินวัตร อดีตผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคพลังประชาชน สะใภ้ตระกูลชินวัตร รวมไปถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวน ของพ.ต.ท.ทักษิณ
แน่นอนว่า ไฮไลต์งานสัมมนาต้องเป็นการโฟนอินของทักษิณ ที่วันนี้เปลี่ยนมุกใหม่ ไม่อ้อนขอความสงสาร ความเห็นใจเหมือนที่ผ่านมา แต่พูดชัดถ้อยชัดคำ และจริงจังกว่าทุกครั้งว่า พร้อมจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหากประชาชนต้องการ
**ส่งผลให้ส.ส.ที่มาร่วมการสัมมนาฮึกเหิมขึ้นทันตาเห็น
ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือ การจัดทัพใหม่ของพรรคเพื่อไทย ที่วันนี้น่าจะวางคนของตระกูลชินวัตร เข้าไปเป็นแม่ทัพในแต่ละภาค เหตุจากไม่ไว้ใจใครอีกแล้ว นอกจากคนตระกูลชินวัตร เพราะหวั่นจะเกิดแก๊งออฟโฟร์ขึ้นมาอีก
**โดยภาคเหนือมี เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เป็นผู้ดูแล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี พายัพ ชินวัตร เป็นผู้ขับเคลื่อน ภาคใต้และส.ส.หญิงมี เยาวเรศ ชินวัตร คอยกำกับ ส่วนภาคกลางและกทม.นั้น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คอยรับหน้าเสื่อ
เป็นการส่งสัญญาณว่า คนตระกูลชินวัตรวันนี้ประกาศตัวพร้อมสู้ ขอยืนเคียงข้างสนับสนุนส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกวิถีทาง ปลุกขวัญกำลังใจทั้งส.ส.ที่ยังจงรักภักดีและส.ส.ที่กำลังรอโอกาสจะตีจาก ให้ฮึดสู้ กอดคอกันร่วมชิงอำนาจการบริหารประเทศกลับคืนมาให้ได้
ประเด็นที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่งคือ ยุทธศาสตร์ในการต่อสู้ของพรรคเพื่อไทยนั้น ก่อนการสัมมนาจะเริ่มต้นขึ้น แกนนำหรือแม้กระทั่งส.ส.ต่างวาดภาพสวยหรูว่าจะผลิดอกออกนโยบายมาได้เป็นเนื้อเป็นหนัง แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมมากนัก
**แม้กระทั่งตัวผู้นำที่จะมาชูธงให้กับพรรค ก็ยังไม่มีให้เห็นแม้แต่เงา
สำหรับเรื่องนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยต่างประสานเสียงเถียงคอเป็นเอ็นว่า มียุทธศาสตร์ที่เฉียบขาดแต่ยังไม่ขอเปิดเผย แต่น่าจะไม่จริงเสียมากกว่า เพราะโดยนิสัยของนักการเมืองพรรคนี้แล้ว ถ้ามียุทธศาสตร์ที่ดีขนาดนั้นจริง ก็คงโผล่ออกมาให้ยลโฉมกันไปนานแล้ว ไม่มีทางเก็บไว้ให้อึดอัดจนอกแตกตายอยู่แล้ว งานนี้เลยต้องอาศัยรอจังหวะให้รัฐบาลสะดุดขาตัวเอง แล้วเอาความผิดพลาดนั้นมากระหน่ำให้หนำใจในสภาเท่านั้น นั่นคือเกมในสภาของพรรคเพื่อไทย
ส่วนเกมนอกสภาก็ปล่อยให้กลุ่มนปช.บรรเลงไปตามใจชอบ ที่สำคัญคือ ไม่ว่าจะเป็นเกมในหรือนอกสภาก็ล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นยิ่งเดินเกมมากก็ยิ่งเปลืองเงินมากตามไปด้วย แถมการใช้เกมในสภานั้นโดยศักยภาพของพรรคเพื่อไทยแล้ว เล่นงานพรรคประชาธิปัตย์ลำบาก ยกเว้นแต่โผล่หางทุจริตออกมาให้เห็นแบบโต้งๆ เท่านั้น
**ที่สำคัญคือ ค่าตัวของส.ส.มันแพงกว่าค่าตัวชาวบ้านที่จับมาสวมเสื้อแดง
ส่วนคนที่คาดการณ์กันไว้ว่าจะมานั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเพื่อนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งสมัยหน้านั้น ชั่วโมงนี้คงหนีไม่พ้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แต่แว่วข่าวจากวงในว่า ทักษิณ ยังแหยงจากกรณีของนายเนวิน ชิดชอบ ที่ไว้ใจให้คุมทั้งอำนาจบริหารและอำนาจเงิน แต่กลับถูกหักหลังอย่างไม่ใยดี จึงกลัวว่าอาจจะถูกหักหลังซ้ำรอยเดิมอีก
** เว้นเสียแต่ว่า นายใหญ่สายตรงเคลียร์เงื่อนไขส่วนตัวกับ ร.ต.อ.เฉลิมได้อย่างหมดเปลือก
แม้ว่าในระยะหลังมีข่าวออกมาบ่อยๆว่า หากหาใครมาถือธงให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้แล้วจริงๆ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร น่าจะกลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ในเวลานี้ของพรรคเพื่อไทย
แต่เซียนการเมืองก็ยังมองว่า ความอาวุโสทางการเมืองหรือความเก๋าเกมทางการเมืองของพ.อ.อภิวันท์ ยังไม่ถึงขั้นที่จะขึ้นนั่งบัลลังก์แม่ทัพเพื่อไทยได้
**ยังต้องจับตา พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำทัพของคนตระกูลชินวัตร ที่วันนี้ถูกปลุกให้ฮึดสู้อีกครั้ง ภายใต้เงานายใหญ่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร
** ส่วนที่ดูเหมือนว่ามีบรรดาส.ส.มาร่วมงานสัมมนาคร้งนี้กันหนาตา นั่นเป็นเพียงภาพลวงตา ถ้าหากแยกน้ำออกจากปลาแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่า ทื่อยู่กันแน่นงานที่แท้เป็นบรรดาลูกเมียของแกนนำพรรคเพื่อไทย และของส.ส. จะเหลือส.ส.ตัวจริงเพียงไม่ถึงครึ่งของยอดส.ส.ทั้งหมดที่พรรคมีอยู่ในมือ
สะท้อนให้เห็นว่า วันนี้ไม่มีใครที่รักนายใหญ่จริง และความเสื่อมถอยของฐานอำนาจการเมืองของพรรคเพื่อไทยกำลังมาเยือน มองกันไปไกลถึงขั้นที่ว่า เห็นทีนายใหญ่จะหมดมนต์ขลังเสียแล้ว บรรดาหัวหน้ามุ้งทั้งหลายที่เปรียบเหมือนแม่เหล็ก เคยดูดส.ส.เข้ามารวมตัวกันมากมายจนพรรคแทบแตก วันนี้ต่างกระจัดกระจายกันไปอยู่พรรคการเมืองอื่นกันเกือบหมด
แต่นั่นคือสายตาของคนข้างนอกที่มองพรรคเพื่อไทย แต่ในสายตาของคนเพื่อไทยกลับมองอีกมุม สถานการณ์ที่นายใหญ่ถูกบีบจนแทบจะไม่มีที่ให้ยืนอย่างทุกวันนี้ กลับยังมีส.ส.มาร่วมหัวจมท้ายด้วยมากขนาดนี้ ต้องถือว่าเกินความคาดหมายแล้ว
ยังไม่รวมภาพของคนตระกูลชินวัตร ที่มารวมตัวกันเป็นครั้งแรกหลังการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49
ทั้งนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่มาพร้อมกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และน.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาว นายพายัพ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องชายและน้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ หรือแม้แต่นางเยาวเรศ ชินวัตร ที่แทบจะไม่เคยเห็นหน้าในงานการเมือง ก็มาพร้อมกับนางศรีญาดา ชินวัตร อดีตผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคพลังประชาชน สะใภ้ตระกูลชินวัตร รวมไปถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวน ของพ.ต.ท.ทักษิณ
แน่นอนว่า ไฮไลต์งานสัมมนาต้องเป็นการโฟนอินของทักษิณ ที่วันนี้เปลี่ยนมุกใหม่ ไม่อ้อนขอความสงสาร ความเห็นใจเหมือนที่ผ่านมา แต่พูดชัดถ้อยชัดคำ และจริงจังกว่าทุกครั้งว่า พร้อมจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหากประชาชนต้องการ
**ส่งผลให้ส.ส.ที่มาร่วมการสัมมนาฮึกเหิมขึ้นทันตาเห็น
ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือ การจัดทัพใหม่ของพรรคเพื่อไทย ที่วันนี้น่าจะวางคนของตระกูลชินวัตร เข้าไปเป็นแม่ทัพในแต่ละภาค เหตุจากไม่ไว้ใจใครอีกแล้ว นอกจากคนตระกูลชินวัตร เพราะหวั่นจะเกิดแก๊งออฟโฟร์ขึ้นมาอีก
**โดยภาคเหนือมี เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เป็นผู้ดูแล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี พายัพ ชินวัตร เป็นผู้ขับเคลื่อน ภาคใต้และส.ส.หญิงมี เยาวเรศ ชินวัตร คอยกำกับ ส่วนภาคกลางและกทม.นั้น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คอยรับหน้าเสื่อ
เป็นการส่งสัญญาณว่า คนตระกูลชินวัตรวันนี้ประกาศตัวพร้อมสู้ ขอยืนเคียงข้างสนับสนุนส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกวิถีทาง ปลุกขวัญกำลังใจทั้งส.ส.ที่ยังจงรักภักดีและส.ส.ที่กำลังรอโอกาสจะตีจาก ให้ฮึดสู้ กอดคอกันร่วมชิงอำนาจการบริหารประเทศกลับคืนมาให้ได้
ประเด็นที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่งคือ ยุทธศาสตร์ในการต่อสู้ของพรรคเพื่อไทยนั้น ก่อนการสัมมนาจะเริ่มต้นขึ้น แกนนำหรือแม้กระทั่งส.ส.ต่างวาดภาพสวยหรูว่าจะผลิดอกออกนโยบายมาได้เป็นเนื้อเป็นหนัง แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมมากนัก
**แม้กระทั่งตัวผู้นำที่จะมาชูธงให้กับพรรค ก็ยังไม่มีให้เห็นแม้แต่เงา
สำหรับเรื่องนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยต่างประสานเสียงเถียงคอเป็นเอ็นว่า มียุทธศาสตร์ที่เฉียบขาดแต่ยังไม่ขอเปิดเผย แต่น่าจะไม่จริงเสียมากกว่า เพราะโดยนิสัยของนักการเมืองพรรคนี้แล้ว ถ้ามียุทธศาสตร์ที่ดีขนาดนั้นจริง ก็คงโผล่ออกมาให้ยลโฉมกันไปนานแล้ว ไม่มีทางเก็บไว้ให้อึดอัดจนอกแตกตายอยู่แล้ว งานนี้เลยต้องอาศัยรอจังหวะให้รัฐบาลสะดุดขาตัวเอง แล้วเอาความผิดพลาดนั้นมากระหน่ำให้หนำใจในสภาเท่านั้น นั่นคือเกมในสภาของพรรคเพื่อไทย
ส่วนเกมนอกสภาก็ปล่อยให้กลุ่มนปช.บรรเลงไปตามใจชอบ ที่สำคัญคือ ไม่ว่าจะเป็นเกมในหรือนอกสภาก็ล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นยิ่งเดินเกมมากก็ยิ่งเปลืองเงินมากตามไปด้วย แถมการใช้เกมในสภานั้นโดยศักยภาพของพรรคเพื่อไทยแล้ว เล่นงานพรรคประชาธิปัตย์ลำบาก ยกเว้นแต่โผล่หางทุจริตออกมาให้เห็นแบบโต้งๆ เท่านั้น
**ที่สำคัญคือ ค่าตัวของส.ส.มันแพงกว่าค่าตัวชาวบ้านที่จับมาสวมเสื้อแดง
ส่วนคนที่คาดการณ์กันไว้ว่าจะมานั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเพื่อนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งสมัยหน้านั้น ชั่วโมงนี้คงหนีไม่พ้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แต่แว่วข่าวจากวงในว่า ทักษิณ ยังแหยงจากกรณีของนายเนวิน ชิดชอบ ที่ไว้ใจให้คุมทั้งอำนาจบริหารและอำนาจเงิน แต่กลับถูกหักหลังอย่างไม่ใยดี จึงกลัวว่าอาจจะถูกหักหลังซ้ำรอยเดิมอีก
** เว้นเสียแต่ว่า นายใหญ่สายตรงเคลียร์เงื่อนไขส่วนตัวกับ ร.ต.อ.เฉลิมได้อย่างหมดเปลือก
แม้ว่าในระยะหลังมีข่าวออกมาบ่อยๆว่า หากหาใครมาถือธงให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้แล้วจริงๆ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร น่าจะกลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ในเวลานี้ของพรรคเพื่อไทย
แต่เซียนการเมืองก็ยังมองว่า ความอาวุโสทางการเมืองหรือความเก๋าเกมทางการเมืองของพ.อ.อภิวันท์ ยังไม่ถึงขั้นที่จะขึ้นนั่งบัลลังก์แม่ทัพเพื่อไทยได้
**ยังต้องจับตา พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำทัพของคนตระกูลชินวัตร ที่วันนี้ถูกปลุกให้ฮึดสู้อีกครั้ง ภายใต้เงานายใหญ่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร