ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 ก.พ.) ตัวแทนชมรมพนักงานราชการแห่งประเทศไทยและครูอัตราจ้าง 19 จังหวัดภาคอีสานกว่า 200 คนได้เดินทางมาประชุม ที่โรงเรียนตาจงวิทยาสรรค์ ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เพื่อหารือเตรียมนัดชุมนุมเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาลได้พิจารณาบรรจุครูอัตราจ้าง และพนักงานราชการ ที่ผ่านการประเมินจากสถานศึกษาที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ทั่วประเทศกว่า 20,000 คน
ทั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาครูอัตราจ้างและพนักงานราชการได้ทำงานหนักไม่แตกต่างจากข้าราชการทั่วไป แต่กลับไม่มีสวัสดิการที่มั่นคงในชีวิต ไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตรได้ รวมทั้งไม่สามารถกู้เงินสวัสดิการ กบข.และสหกรห์ออมทรัพย์ครู เพื่อมาใช้ประโยชน์ในครอบครัว หรือลงทุนประกอบอาชีพเสริมอื่นได้ พร้อมทั้งกฎระเบียบไม่ชัดเจน โยกย้ายไม่ได้ และไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกเลิกจ้าง
น.ส.สุภิน นามบุตร อายุ 28 ปี พนักงานราชการโรงเรียนตาจงวิทยาสรรค์ กล่าวว่า ตำแหน่งพนักงานราชการจะต้องผ่านการเป็นครูอัตราจ้างมาอย่างน้อย 3 ปี และทุกปีจะได้รับการประเมินจากผู้บริหารและทุก 4 ปีจะต้องมีการต่อสัญญา ดังนั้น ครูอัตราจ้างและพนักงานราชการจะต้องทำงานหนัก เพื่อให้ผ่านการประเมิน โดยพนักงานราชการจะได้รับเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา และมีเพดานเงินเดือนสูงสุดไม่เกิน 12,000 บาท ซึ่งถือว่าต่ำมากในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังไม่มีสวัสดิการที่เพียงพอ มีเพียงบัตรประกันสังคมเท่ากับพนักงานบริษัททั่วไป แต่มีหน้าที่การรับผิดชอบต่อเด็กนักเรียนสูง จึงได้รวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลบรรจุให้ครูอัตราจ้างหรือพนักงานราชการเป็น ข้าราชการ หรือหากรัฐบาลจะกำหนดให้ครูอัตราจ้างต้องผ่านการประเมินมากี่ปีจึงจะบรรจุ พนักงานราชการก็พร้อมที่จะทำตามกฎระเบียบของรัฐบาล แต่ต้องเป็นอัตโนมัติเท่าเทียมกันทุกคน
"หากรัฐบาลยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนครูอัตราจ้างและพนักงานราชการทั่วประเทศที่มีกว่า 20,000 คนจะนัดชุมนุมที่กรุงเทพฯ อย่างแน่นอน" น.ส.สุภิน กล่าว
ด้านนายสุทธิพงษ์ แสนทวีสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนโคกเฟื่อง ต.โพธิ์ไทร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี และที่ปรึกษาสมาคมครูจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าครูอัตราจ้างและพนักงานราชการ ทำงานมาด้วยความลำบาก ต้องทำงานหนักเพื่อให้ผ่านผลการประเมิน และยังมีอีกหลายคนยังต้องถูกกดดันในหลายเรื่อง การเรียกร้องของครูอัตราจ้างในครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่รัฐบาลต้องเห็นใจ เนื่องจากพนักงานราชการบางคนสอนหนังสือเด็กนักเรียนมามากกว่า 10 ปี แต่ยังไม่มีหลักฐานหรือสวัสดิการที่แน่นอน อีกทั้งยังต้องมีหน้าที่รับผิดชอบครอบครัว
"รัฐบาลควรให้ความสำคัญและเห็นใจครูที่สอนเด็กนักเรียนมานาน ที่ผ่านมาพนักงานราชการที่ยอมรับอัตราเงินเดือนที่ต่ำมายาวนาน ถือว่าเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณในการเป็นครูและเชื่อว่าหากกลุ่มคนเหล่านี้ได้บรรจุเป็นข้าราชการอย่างเต็มตัวจะสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี โดยไม่หวั่นว่าจะถูกกลั่นแกล้งหรือถูกกดดันอีกต่อไป" นายสุทธิพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาครูอัตราจ้างและพนักงานราชการได้ทำงานหนักไม่แตกต่างจากข้าราชการทั่วไป แต่กลับไม่มีสวัสดิการที่มั่นคงในชีวิต ไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตรได้ รวมทั้งไม่สามารถกู้เงินสวัสดิการ กบข.และสหกรห์ออมทรัพย์ครู เพื่อมาใช้ประโยชน์ในครอบครัว หรือลงทุนประกอบอาชีพเสริมอื่นได้ พร้อมทั้งกฎระเบียบไม่ชัดเจน โยกย้ายไม่ได้ และไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกเลิกจ้าง
น.ส.สุภิน นามบุตร อายุ 28 ปี พนักงานราชการโรงเรียนตาจงวิทยาสรรค์ กล่าวว่า ตำแหน่งพนักงานราชการจะต้องผ่านการเป็นครูอัตราจ้างมาอย่างน้อย 3 ปี และทุกปีจะได้รับการประเมินจากผู้บริหารและทุก 4 ปีจะต้องมีการต่อสัญญา ดังนั้น ครูอัตราจ้างและพนักงานราชการจะต้องทำงานหนัก เพื่อให้ผ่านการประเมิน โดยพนักงานราชการจะได้รับเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา และมีเพดานเงินเดือนสูงสุดไม่เกิน 12,000 บาท ซึ่งถือว่าต่ำมากในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังไม่มีสวัสดิการที่เพียงพอ มีเพียงบัตรประกันสังคมเท่ากับพนักงานบริษัททั่วไป แต่มีหน้าที่การรับผิดชอบต่อเด็กนักเรียนสูง จึงได้รวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลบรรจุให้ครูอัตราจ้างหรือพนักงานราชการเป็น ข้าราชการ หรือหากรัฐบาลจะกำหนดให้ครูอัตราจ้างต้องผ่านการประเมินมากี่ปีจึงจะบรรจุ พนักงานราชการก็พร้อมที่จะทำตามกฎระเบียบของรัฐบาล แต่ต้องเป็นอัตโนมัติเท่าเทียมกันทุกคน
"หากรัฐบาลยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนครูอัตราจ้างและพนักงานราชการทั่วประเทศที่มีกว่า 20,000 คนจะนัดชุมนุมที่กรุงเทพฯ อย่างแน่นอน" น.ส.สุภิน กล่าว
ด้านนายสุทธิพงษ์ แสนทวีสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนโคกเฟื่อง ต.โพธิ์ไทร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี และที่ปรึกษาสมาคมครูจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าครูอัตราจ้างและพนักงานราชการ ทำงานมาด้วยความลำบาก ต้องทำงานหนักเพื่อให้ผ่านผลการประเมิน และยังมีอีกหลายคนยังต้องถูกกดดันในหลายเรื่อง การเรียกร้องของครูอัตราจ้างในครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่รัฐบาลต้องเห็นใจ เนื่องจากพนักงานราชการบางคนสอนหนังสือเด็กนักเรียนมามากกว่า 10 ปี แต่ยังไม่มีหลักฐานหรือสวัสดิการที่แน่นอน อีกทั้งยังต้องมีหน้าที่รับผิดชอบครอบครัว
"รัฐบาลควรให้ความสำคัญและเห็นใจครูที่สอนเด็กนักเรียนมานาน ที่ผ่านมาพนักงานราชการที่ยอมรับอัตราเงินเดือนที่ต่ำมายาวนาน ถือว่าเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณในการเป็นครูและเชื่อว่าหากกลุ่มคนเหล่านี้ได้บรรจุเป็นข้าราชการอย่างเต็มตัวจะสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี โดยไม่หวั่นว่าจะถูกกลั่นแกล้งหรือถูกกดดันอีกต่อไป" นายสุทธิพงษ์ กล่าว