ASTV ผู้จัดการรายวัน – “โกลด์ ฟิวเจอร์ส”ประเดิมวันแรกแค่ 74 สัญญา GFG09 สภาพคล่องสูงสุดโตเพิ่มเฉียด1,000บาท TFEXพอใจผลงานเข้าเป้า จ่อออกสินค้าใหม่ดึงETFต่างแดนล่อใจนักลงทุน ด้านร้านทองเตรียมขนเศรษฐีเข้าสนามจริงเพิ่มมีนาคมนี้ ขณะที่โบรกเกอร์เชื่อมั่นอีก 6เดือนวอลุ่มพุ่ง แต่หวั่นหลังปิดตลาดในต่างประเทศราคายังหมุน ส่วน”ทุ่งคาร์ ฮาร์เบอร์”รับอานิสงส์ราคาดีดตัวแค่ช่วงแรก ก่อนโดนภาพรวมฉุดปิดลบ
วานนี้ (2ก.พ.) บมจ.ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) หรือ TFEX ได้เปิดทำการซื้อขาย โกลด์ ฟิวเจอร์ส เป็นวันแรก จำนวนทั้งสิ้น 3 สัญญา พบว่าเมื่อเปิดทำการ สัญญาGFG09 (สิ้นสุดก.พ.52) เปิด 14,760 บาท เพิ่มขึ้น 760บาทจากราคาเริ่มต้น14,000 บาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด14,990 บาท ต่ำสุด14,760 บาท และปิดที่ 14,940 บาท เพิ่มขึ้น 940 บาท โดยตลอดทั้งวันมีปริมาณซื้อขายอยู่ที่ 70 สัญญา
ส่วน สัญญา GFJ09(สิ้นสุดเม.ย..52) เปิดที่ราคา15,110บาท เช่นเดียวกับช่วงปิดตลาด ซึ่งตลอดทั้งวันราคาไม่มีการปรับตัวขึ้นลดลงและมีปริมาณการซื้อขายเพียง 1 สัญญา ใกล้เคียงกับสัญญา GFM09(สิ้นสุดเม.ย..52) ซึ่งเปิดที่15,000บาท เคลื่อนไหวสูงสุด15,200บาท ต่ำสุด15,000บาทเช่นเดียวกับราคาเมื่อปิดตลาด โดยมีปริมาณการซื้อขายเพียง 3สัญญา
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในระหว่างพิธีเปิดการซื้อขายโกลด์ ฟิวเจอร์สว่า ถือเป็นจังหวะดีที่มีการเปิดตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าขณะนี้ เนื่องจากเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับนักลงทุนที่กำลังหาวิธีกระจายความเสี่ยง และลดภาระการขาดทุนจากการลงทุนตลาดตราสารหนี้ และตลาดหุ้นที่กำลังตกต่ำทั่วโลก นอกจากนี้ในตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า ผู้ซื้อและผู้ขายจะมากำหนดราคากันเองไม่มีการซื้อขายทองคำจริง จึงช่วยลดปัญหาต้นทุนในการจัดเก็บและการเคลื่อนย้ายทองคำ โดยในอนาคตเชื่อมั่นว่าจะมีผู้ให้ความสนใจลงทุนมากขึ้น
ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ TFEX กล่าวว่าในช่วงเดือนมีนาคมคาดว่าจะมีโบรกเกอร์อนุพันธ์เข้ามาให้บริการแก่นักลงทุนเพิ่มเติมอีกประมาณ 4- 5 ราย ซึ่งจะมาจากผู้ประกอบการร้านทองที่มีความสนใจ และได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นแล้ว เหลือเพียงได้รับใบอนุญาต (ไลเซ่นส์)จากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เท่านั้น
ส่วนความคืบหน้าในเรื่องผู้ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker)นั้น ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทรีนีตี้ เป็นผู้ที่ทำหน้าที่อยู่ และทางTFEXกำลังเจรจากับบรรดาโบรกอนุพันธ์เข้าช่วยดำเนินการเรื่องนี้เพิ่มเติมอีก 2 บริษัท
“ในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำในตลาดโลกมีความผันผวนสูง การเปิดซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สในวันนี้จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นการใช้บริหารความเสี่ยงหรือทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำโดยการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนมากพอสมควร ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีและสะท้อนให้เห็นว่าโกลด์ฟิวเจอร์สมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต" นางเกศรากล่าว
**TFEXเดินหน้าเพิ่มสินค้าใหม่**
สำหรับ TFEX จะยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ เพราะบริษัทกำลังศึกษาสินค้าใหม่ๆอีกหลายประเภท โดยคาดว่าในไตรมาส 3-4ของปีนี้จะมี Stock Futures ใหม่ๆออกมาเพิ่มเติม เช่นเดียวกับ Exchange Traded Fund (ETF) ซึ่งบริษัทมีแนวคิดจะอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศนำ ETF เข้ามาให้บริการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ซึ่งในที่นี้รวมถึง ETF ที่เกี่ยวกับทองคำด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการนักลงทุนที่สนใจ แต่ต้องข้อเวลาในการศึกษาข้อมูลก่อน นอกจากนี้มีแผนที่จะปรับปรุง SET50 Index Call Options ให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น รวมถึงมีแผนที่จะออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants หรือ DW) ซึ่งจะเป็นสินค้าใหม่บนกระดานหลักทรัพย์ด้วยเช่นกัน
**ร้านทองเตรียมขนเศรษฐีเข้าเทรด**
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธาน บริษัท ทีซี.ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่าในอนาคตโกลด์ ฟิวเจอร์สจะเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจในอนาคต เพราะจะมีฐานลูกค้าจากร้านทองและตลาดหุ้นเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของบริษัท ออสสิริส ปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 7,000ราย ซึ่งจะผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนโกลด์ ฟิวเจอร์สประมาณ20%ของทั้งหมด ขณะเดียวกัน บริษัทได้เร่งดำเนินการจัดสัมมนากลุ่มย่อยเพื่อดึงนักลงทุนที่มีฐานการเงินสูงเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งกลุ่มนี้จะมีกำลังซื้อทองคำที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 50 – 100 บาทขึ้นไปได้อย่างไม่เป็นปัญหา
ด้านนายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส กล่าวว่าพร้อมที่จะให้บริการแก่ลูกค้าในวันที่ 2มีนาคมนี้ โดยบริษัทมีทุนจดทะเบียน100ล้านบาท และตั้งเป้าจะมีการลงทุนจากลูกค้าของบริษัทประมาณ 300-400สัญญา แต่ช่วงแรกอาจมีไม่มากนัก ดังนั้นจึงต้องเร่งให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจเพิ่มเติมอีก
**โกลเบล็กเดินหน้ามาร์เกต เมกเกอร์**
นายณัฐวุฒิ เขมะโยธิน กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้น หรือ GBX กล่าวว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลต่อสภาพคล่องและความแน่นอนของการซื้อขายสัญญาดังกล่าว จึงประเมินว่าภาพรวมของการซื้อขายในช่วงแรกจะค่อนข้างน้อย แต่เชื่อว่าหากระยะเวลาผ่านไปประมาณ 6 เดือน และผู้ลงทุนเริ่มเกิดความมั่นใจในสภาพคล่องแล้ว น่าจะทำให้มีวอลุ่มซื้อขาย 5 พันสัญญาต่อวัน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ประมาณ10%จากเดิมที่เคยตั้งเป้าไว้มากกว่า50% เนื่องมาจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยอมให้ผู้ค้าทองผันตัวเองเป็นโบรกเกอร์ ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างยื่นขอเป็นมาร์เกต เมกเกอร์รายที่2ต่อจากบล.ทรีนิตี้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้
ส่วนเป้ามาร์เกต แชร์TFEX ในปีนี้จะอยู่ที่ 2%ขึ้นไป จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีมาร์เกตแชร์ที่1% เพราะว่าจากภาวะตลาดหุ้นไทยที่ผันผวนนักลงทุนจะมองหาทางเลือกการลงทุนใหม่ ซึ่งมองว่าในส่วนของTFEXน่าจะเป็นอีกทางเลือกของผู้ลงทุน เนื่องจากสามารถลงทุนได้ทั้งในช่วงตลาดหุ้นขาขึ้นและขาลง
ขณะที่ในปี 2552 บริษัทตั้งวงเงินลงทุนไว้ที่ 400 ล้านบาท แบ่งเป็นงานด้านธุรกิจหลักทรัพย์ ,งานด้านที่ปรึกษาฯ และงานด้านการลงทุนต่างๆ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจค้าทองคำแท่ง รวมทั้งบริษัทยังได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการกู้ยืมทองคำ ซึ่งในส่วนนี้คงต้องใช้เวลาค่อนข้างนานประมาณ 3 ปีขึ้นไป เนื่องจากเรื่องดังกล่าวต้องหารือกับหลายฝ่ายก่อน
**โบรกฯมั่นใจอีก6เดือนวอลุ่มพุ่ง**
นายกัมปนาท โลหะเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่าแม้การซื้อขายวันแรกจะมีปริมาณน้อย แต่ยังมากกว่าการเปิดซื้อขาย Set 50 Index Futures ในครั้งก่อน ดังนั้นภาพรวมเชื่อว่าในอนาคตจะคนให้ความสนใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนหลายคนมีความรู้เรื่องราคาทองคำอยู่ก่อนแล้ว นอกจากนี้เชื่อว่าโกลด์ ฟิวเจอร์สจะช่วยขยายฐานนักลงทุนรายใหม่ที่ไม่เคยเข้ามาลงทุนในหุ้นมาก่อน ให้หันมาสนใจการลงทุนด้านอื่นๆของตลาดทุนมากขึ้น
เช่นเดียวกับ นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติของการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า ที่วันเปิดทำการวันแรกปริมาณซื้อขายจะไม่มากนัก เพราะนักลงทุนหลายคนกำลังจับจังหวะลงทุน กำลังศึกษาปัจจัยที่ชี้นำราคา และขอดูทิศทางแนวโน้มความเคลื่อนไหวของราคาสัญญาไปก่อน แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ประมาณ 6 เดือนปริมาณซื้อขายจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ แต่สิ่งที่ยังเป็นกังวลนั่นคือราคาทองที่ยังไม่หยุดนิ่ง เพราะแม้ตลาดในไทยจะหยุดทำการซื้อขายแล้ว แต่ตลาดทองคำในต่างประเทศยังดำเนินการอยู่
**หุ้นทุ่งคาร์ฯหวังร่วมรับอานิสงส์**
แหล่งข่าวจาก บมจ. ทุ่งคาฮาเบอร์ หรือ THL ให้ความเห็นถึงโกลด์ ฟิวเจอร์สในมุมมองบวกว่า ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลกระตุ้นการซื้อขายทองคำในประเทศให้คึกคักขึ้น และช่วยผลักดันให้ราคาทองในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งยังส่งผลดีกับธุรกิจของบริษัท นอกจากนี้ยังทำให้ทิศทางราคาทองในไทยเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับทิศทางของราคาทองคำในตลาดโลกมากขึ้น
พร้อมกันนี้ในส่วนของแผนธุรกิจ บริษัทจะเริ่มเดินเครื่องเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดแร่ตามโครงการ Floatation Plant ในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมเครื่องจักรที่สามารถสกัดแร่และดึงแร่ซัลไฟล์ออกมาผลิตเป็นทองคำได้ นอกจากแร่ออกไซด์ที่เคยนำมาผลิตทองคำได้เป็นหลัก และน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผลประกอบการในอนาคต โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จากจุดเข้ามาเพิ่มเติมตั้งแต่ไตรมาส 2เป็นต้นไป
ส่วนผลดำเนินงานปี2551 เชื่อว่าจะพลิกเป็นกำไรได้จากปีก่อนที่ขาดทุน147 ล้านบาท และพร้อมจะนำกำไรดังกล่าวมาล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 108 ล้านบาทให้หมดในปีนี้ โดยวานนี้หุ้น THL ปิดที่ 1.13บาทลดลง0.02จุด หรือ1.74% ซึ่งระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1.17 บาท ต่ำสุด 1.12บาท มูลค่าการซื้อขาย 96.827 ล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ราคาทองคำแท่งในประเทศรับซื้ออยู่ที่ 14,650 บาท ขายออก 14,750บาท ขณะที่ราคาทองตลาดนิวยอร์คอยู่ที่ 914.60 เหรียญ/ออนซ์ ลดลง12.70 เหรียญ หรือ -1.37%
วานนี้ (2ก.พ.) บมจ.ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) หรือ TFEX ได้เปิดทำการซื้อขาย โกลด์ ฟิวเจอร์ส เป็นวันแรก จำนวนทั้งสิ้น 3 สัญญา พบว่าเมื่อเปิดทำการ สัญญาGFG09 (สิ้นสุดก.พ.52) เปิด 14,760 บาท เพิ่มขึ้น 760บาทจากราคาเริ่มต้น14,000 บาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด14,990 บาท ต่ำสุด14,760 บาท และปิดที่ 14,940 บาท เพิ่มขึ้น 940 บาท โดยตลอดทั้งวันมีปริมาณซื้อขายอยู่ที่ 70 สัญญา
ส่วน สัญญา GFJ09(สิ้นสุดเม.ย..52) เปิดที่ราคา15,110บาท เช่นเดียวกับช่วงปิดตลาด ซึ่งตลอดทั้งวันราคาไม่มีการปรับตัวขึ้นลดลงและมีปริมาณการซื้อขายเพียง 1 สัญญา ใกล้เคียงกับสัญญา GFM09(สิ้นสุดเม.ย..52) ซึ่งเปิดที่15,000บาท เคลื่อนไหวสูงสุด15,200บาท ต่ำสุด15,000บาทเช่นเดียวกับราคาเมื่อปิดตลาด โดยมีปริมาณการซื้อขายเพียง 3สัญญา
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในระหว่างพิธีเปิดการซื้อขายโกลด์ ฟิวเจอร์สว่า ถือเป็นจังหวะดีที่มีการเปิดตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าขณะนี้ เนื่องจากเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับนักลงทุนที่กำลังหาวิธีกระจายความเสี่ยง และลดภาระการขาดทุนจากการลงทุนตลาดตราสารหนี้ และตลาดหุ้นที่กำลังตกต่ำทั่วโลก นอกจากนี้ในตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า ผู้ซื้อและผู้ขายจะมากำหนดราคากันเองไม่มีการซื้อขายทองคำจริง จึงช่วยลดปัญหาต้นทุนในการจัดเก็บและการเคลื่อนย้ายทองคำ โดยในอนาคตเชื่อมั่นว่าจะมีผู้ให้ความสนใจลงทุนมากขึ้น
ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ TFEX กล่าวว่าในช่วงเดือนมีนาคมคาดว่าจะมีโบรกเกอร์อนุพันธ์เข้ามาให้บริการแก่นักลงทุนเพิ่มเติมอีกประมาณ 4- 5 ราย ซึ่งจะมาจากผู้ประกอบการร้านทองที่มีความสนใจ และได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นแล้ว เหลือเพียงได้รับใบอนุญาต (ไลเซ่นส์)จากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เท่านั้น
ส่วนความคืบหน้าในเรื่องผู้ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker)นั้น ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทรีนีตี้ เป็นผู้ที่ทำหน้าที่อยู่ และทางTFEXกำลังเจรจากับบรรดาโบรกอนุพันธ์เข้าช่วยดำเนินการเรื่องนี้เพิ่มเติมอีก 2 บริษัท
“ในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำในตลาดโลกมีความผันผวนสูง การเปิดซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สในวันนี้จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นการใช้บริหารความเสี่ยงหรือทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำโดยการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนมากพอสมควร ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีและสะท้อนให้เห็นว่าโกลด์ฟิวเจอร์สมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต" นางเกศรากล่าว
**TFEXเดินหน้าเพิ่มสินค้าใหม่**
สำหรับ TFEX จะยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ เพราะบริษัทกำลังศึกษาสินค้าใหม่ๆอีกหลายประเภท โดยคาดว่าในไตรมาส 3-4ของปีนี้จะมี Stock Futures ใหม่ๆออกมาเพิ่มเติม เช่นเดียวกับ Exchange Traded Fund (ETF) ซึ่งบริษัทมีแนวคิดจะอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศนำ ETF เข้ามาให้บริการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ซึ่งในที่นี้รวมถึง ETF ที่เกี่ยวกับทองคำด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการนักลงทุนที่สนใจ แต่ต้องข้อเวลาในการศึกษาข้อมูลก่อน นอกจากนี้มีแผนที่จะปรับปรุง SET50 Index Call Options ให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น รวมถึงมีแผนที่จะออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants หรือ DW) ซึ่งจะเป็นสินค้าใหม่บนกระดานหลักทรัพย์ด้วยเช่นกัน
**ร้านทองเตรียมขนเศรษฐีเข้าเทรด**
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธาน บริษัท ทีซี.ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่าในอนาคตโกลด์ ฟิวเจอร์สจะเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจในอนาคต เพราะจะมีฐานลูกค้าจากร้านทองและตลาดหุ้นเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของบริษัท ออสสิริส ปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 7,000ราย ซึ่งจะผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนโกลด์ ฟิวเจอร์สประมาณ20%ของทั้งหมด ขณะเดียวกัน บริษัทได้เร่งดำเนินการจัดสัมมนากลุ่มย่อยเพื่อดึงนักลงทุนที่มีฐานการเงินสูงเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งกลุ่มนี้จะมีกำลังซื้อทองคำที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 50 – 100 บาทขึ้นไปได้อย่างไม่เป็นปัญหา
ด้านนายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส กล่าวว่าพร้อมที่จะให้บริการแก่ลูกค้าในวันที่ 2มีนาคมนี้ โดยบริษัทมีทุนจดทะเบียน100ล้านบาท และตั้งเป้าจะมีการลงทุนจากลูกค้าของบริษัทประมาณ 300-400สัญญา แต่ช่วงแรกอาจมีไม่มากนัก ดังนั้นจึงต้องเร่งให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจเพิ่มเติมอีก
**โกลเบล็กเดินหน้ามาร์เกต เมกเกอร์**
นายณัฐวุฒิ เขมะโยธิน กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้น หรือ GBX กล่าวว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลต่อสภาพคล่องและความแน่นอนของการซื้อขายสัญญาดังกล่าว จึงประเมินว่าภาพรวมของการซื้อขายในช่วงแรกจะค่อนข้างน้อย แต่เชื่อว่าหากระยะเวลาผ่านไปประมาณ 6 เดือน และผู้ลงทุนเริ่มเกิดความมั่นใจในสภาพคล่องแล้ว น่าจะทำให้มีวอลุ่มซื้อขาย 5 พันสัญญาต่อวัน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ประมาณ10%จากเดิมที่เคยตั้งเป้าไว้มากกว่า50% เนื่องมาจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยอมให้ผู้ค้าทองผันตัวเองเป็นโบรกเกอร์ ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างยื่นขอเป็นมาร์เกต เมกเกอร์รายที่2ต่อจากบล.ทรีนิตี้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้
ส่วนเป้ามาร์เกต แชร์TFEX ในปีนี้จะอยู่ที่ 2%ขึ้นไป จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีมาร์เกตแชร์ที่1% เพราะว่าจากภาวะตลาดหุ้นไทยที่ผันผวนนักลงทุนจะมองหาทางเลือกการลงทุนใหม่ ซึ่งมองว่าในส่วนของTFEXน่าจะเป็นอีกทางเลือกของผู้ลงทุน เนื่องจากสามารถลงทุนได้ทั้งในช่วงตลาดหุ้นขาขึ้นและขาลง
ขณะที่ในปี 2552 บริษัทตั้งวงเงินลงทุนไว้ที่ 400 ล้านบาท แบ่งเป็นงานด้านธุรกิจหลักทรัพย์ ,งานด้านที่ปรึกษาฯ และงานด้านการลงทุนต่างๆ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจค้าทองคำแท่ง รวมทั้งบริษัทยังได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการกู้ยืมทองคำ ซึ่งในส่วนนี้คงต้องใช้เวลาค่อนข้างนานประมาณ 3 ปีขึ้นไป เนื่องจากเรื่องดังกล่าวต้องหารือกับหลายฝ่ายก่อน
**โบรกฯมั่นใจอีก6เดือนวอลุ่มพุ่ง**
นายกัมปนาท โลหะเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่าแม้การซื้อขายวันแรกจะมีปริมาณน้อย แต่ยังมากกว่าการเปิดซื้อขาย Set 50 Index Futures ในครั้งก่อน ดังนั้นภาพรวมเชื่อว่าในอนาคตจะคนให้ความสนใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนหลายคนมีความรู้เรื่องราคาทองคำอยู่ก่อนแล้ว นอกจากนี้เชื่อว่าโกลด์ ฟิวเจอร์สจะช่วยขยายฐานนักลงทุนรายใหม่ที่ไม่เคยเข้ามาลงทุนในหุ้นมาก่อน ให้หันมาสนใจการลงทุนด้านอื่นๆของตลาดทุนมากขึ้น
เช่นเดียวกับ นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติของการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า ที่วันเปิดทำการวันแรกปริมาณซื้อขายจะไม่มากนัก เพราะนักลงทุนหลายคนกำลังจับจังหวะลงทุน กำลังศึกษาปัจจัยที่ชี้นำราคา และขอดูทิศทางแนวโน้มความเคลื่อนไหวของราคาสัญญาไปก่อน แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ประมาณ 6 เดือนปริมาณซื้อขายจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ แต่สิ่งที่ยังเป็นกังวลนั่นคือราคาทองที่ยังไม่หยุดนิ่ง เพราะแม้ตลาดในไทยจะหยุดทำการซื้อขายแล้ว แต่ตลาดทองคำในต่างประเทศยังดำเนินการอยู่
**หุ้นทุ่งคาร์ฯหวังร่วมรับอานิสงส์**
แหล่งข่าวจาก บมจ. ทุ่งคาฮาเบอร์ หรือ THL ให้ความเห็นถึงโกลด์ ฟิวเจอร์สในมุมมองบวกว่า ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลกระตุ้นการซื้อขายทองคำในประเทศให้คึกคักขึ้น และช่วยผลักดันให้ราคาทองในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งยังส่งผลดีกับธุรกิจของบริษัท นอกจากนี้ยังทำให้ทิศทางราคาทองในไทยเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับทิศทางของราคาทองคำในตลาดโลกมากขึ้น
พร้อมกันนี้ในส่วนของแผนธุรกิจ บริษัทจะเริ่มเดินเครื่องเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดแร่ตามโครงการ Floatation Plant ในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมเครื่องจักรที่สามารถสกัดแร่และดึงแร่ซัลไฟล์ออกมาผลิตเป็นทองคำได้ นอกจากแร่ออกไซด์ที่เคยนำมาผลิตทองคำได้เป็นหลัก และน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผลประกอบการในอนาคต โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จากจุดเข้ามาเพิ่มเติมตั้งแต่ไตรมาส 2เป็นต้นไป
ส่วนผลดำเนินงานปี2551 เชื่อว่าจะพลิกเป็นกำไรได้จากปีก่อนที่ขาดทุน147 ล้านบาท และพร้อมจะนำกำไรดังกล่าวมาล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 108 ล้านบาทให้หมดในปีนี้ โดยวานนี้หุ้น THL ปิดที่ 1.13บาทลดลง0.02จุด หรือ1.74% ซึ่งระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1.17 บาท ต่ำสุด 1.12บาท มูลค่าการซื้อขาย 96.827 ล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ราคาทองคำแท่งในประเทศรับซื้ออยู่ที่ 14,650 บาท ขายออก 14,750บาท ขณะที่ราคาทองตลาดนิวยอร์คอยู่ที่ 914.60 เหรียญ/ออนซ์ ลดลง12.70 เหรียญ หรือ -1.37%